สามีครู ‘เหยื่อกราดยิง’ พ้อ ลูกในท้องเมียตายไร้เยียวยา ถามดัง มนุษยธรรมมีให้ลูกผมบ้างไหม?

สามี “ครูพร” ผู้สูญเสียจากเหตุกราดยิงที่หนองบัวลำภู โพสต์เรียกร้องสิทธิให้กับ น้องซีวิค ลูกชายที่เสียชีวิตตั้งแต่อยู่ในท้องของครูพร หน่วยงานรัฐไม่เยียวยา เพราะไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ ตั้งคำถามมนุษยธรรมมีให้ลูกผมบ้างไหม?

นายเสกสรรค์ สามีของนางสาวสุภาพร หรือครูพร ครูศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.อุทัยสวรรค์ ที่เสียชีวิตพร้อมลูกในครรภ์ อายุครรภ์ 8 เดือน ซึ่งภายหลังครอบครัวผ่าทารกในครรภ์ออก ตั้งชื่อว่า "น้องซีวิค" ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ระบายความรู้สึกกรณีเงินเยียวยาผู้เสียชีวิต โดยระบุว่า ลูกผมนะ ถ้าพูดตามกฎหมายลูกผมไม่ได้รับการเยียวยาอยู่แล้ว เพราะลูกผมมาสิ้นใจตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ ถ้ารัฐบาลมาถามหาเลขบัตรประชาชน ใบเกิดลูกผมไม่มี เพราะลูกผมสิ้นใจก่อน จะให้เขาเอาเลขบัตรประชาชนกับใบเกิดมาแต่ไหน ขนาดผมพาภรรยาไปผ่าคลอดทั้งๆ ที่เขาเสียชีวิตไปแล้ว

นี่หรือคือสิ่งที่รัฐเอาแต่กฎหมายมาอ้างในการเยียวยาลูกชาย เหตุผลเพียงเพราะลูกผมสิ้นใจในท้อง ผมเคารพกฎหมายบ้านเมืองเสมอ แต่พวกคุณเข้าใจไหมว่ามนุษยธรรมมันควรมีทุกคน สิ่งที่ผมโพสต์วันนี้และในส่วนของราชการละครับ คุณเอาแต่กฎหมายว่าลูกผมไม่มีนั่นนี่ สิ้นใจก่อนไม่นับลูกผมในการเสียชีวิตครั้งนี้ ผู้ใหญ่ทุกภาคส่วนรู้ไหมว่าผมต้องเจ็บช้ำแค่ไหน ผู้ใหญ่เอาแต่หลักเกณฑ์มาพูด อันนั้นอันนี้ไม่ได้ แต่ผู้ใหญ่เข้าใจไหมว่าผมสูญเสียทั้งเมียและลูก ผมรู้ว่าทุกคนก็สูญเสียไม่แพ้กัน ผมเป็นพ่อ ผมต้องทวงความยุติธรรมให้ลูกผม แล้วเอาแต่กฎหมายมาอ้าง สงสารลูกผมบ้างไหม มนุษยธรรมมีให้ลูกผมบ้างไหม

ผมว่าจะไม่โพสต์แล้ว ผมอดทนมานานแล้ว ถ้าคิดว่าผมเห็นแก่เงิน คุณก็เอาชีวิตลูกเมียผมคืนมา ต่อให้ผมมีหนี้มากแค่ไหนผมก็มีความสุข ผมได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน นี่หรอคือสิ่งที่ผู้ใหญ่บ้านเมืองเห็นชีวิตเด็กน้อย 8 เดือนมีค่าแค่นี้ ทั้งๆ ที่เขาจะต้องลืมตามาดูโลกแล้ว ผมอยากถึงรัฐบาลพวกคุณก็มีลูกมีหลาน พวกคุณก็น่าจะเข้าใจเรื่องนี้ดี

ล่าสุดครูเสก สามีของครูพร และพ่อของน้องซีวิค เปิดเผยกับทีมข่าวของเรา บอกว่า ที่ตนเองออกมาโพสต์เป็นเพราะอยากระบาย หลังจากที่ลูกและภรรยาเสียชีวิตครบ 1 เดือนเต็ม แต่ปรากฏว่า น้องซีวิค ไม่ได้รับการเยียวยา เหตุผลเป็นเพราะว่าเสียชีวิตก่อนจะที่ลืมตาดูโลก หน่วยงานก็มาถามหาบัตรต่างๆ นาๆ ซึ่งน้องจะมีบัตรได้ยังไง จะมาถามหาบัตรเพื่ออะไร

ตนเองในฐานะพ่อจึงต้องทำหน้าที่เรียกร้องตามสิทธิ์ให้กับลูก ถึงจะบอกว่าไม่เป็นสภาพบุคคล ซึ่งตนรู้กฎหมายและเคารพกฎหมายดี แต่อยากให้มีมนุษยธรรมมากกว่านี้ ไม่ใช่แค่มองตามกฎหมายอย่างเดียว เพราะอยู่ดีๆ ลูกในท้องของตนก็มาเสียชีวิต ใครจะไปคาดคิด ถ้ารู้ว่าภรรยาจะโดนทำร้าย วันนั้นคงไม่ให้ไปทำงาน

ตอนนี้ตนไม่มีใครแล้ว สูญเสียมามากแล้ว ทำไมต้องมองว่าตนเห็นแก่เงิน อยากให้มาลองเป็นตนดูบ้างไหม โดนทอดทิ้งจากทางภาครัฐ ตนรู้ผู้ใหญ่อยากช่วยแต่กลัวผิดกฎหมาย แต่อยากรู้ว่ามีช่องทางอื่นที่จะช่วยเหลือในด้านมนุษยธรรมบ้างไหม เพื่อไม่ให้น้องซีวิค ต้องตายเปล่า

ขณะที่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่ พม.จังหวัดหนองบัวลำภู ติดต่อมาหาตน บอกว่ากำลังจะเสนอเรื่องไปยังรัฐมนตรีเพื่อให้พิจารณาแนวทางในการช่วยเหลือเยียวยา