สังคม

2 ผัวเมีย เข้ารับทราบข้อหา หลังกุเรื่อง 'ท้องทิพย์' อ้างเพราะรักไม่อยากทำให้เสียใจ

โดย weerawit_c

24 พ.ค. 2564

314 views

สุพรรณบุรี - เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา 24 พ.ค. นายนัท อายุ 30 ปี และ น.ส.เตย อายุ 21 ปี สาวท้องทิพย์พร้อมสามี เข้าพบ ร้อยตำรวจเอก กาฬสิน ปากวิเศษ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี ร้อยเวรเจ้าของคดี โดยตำรวจแจ้งข้อกล่าวหากับ น.ส.กรกนก เพิ่มหิรัญ หรือเตย เพียงคนเดียว ใน 2 ข้อหา ให้นางสาวกรกนก เพิ่มหิรัญ คือ แจ้งความเท็จ และ แจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท ซึ่ง น.ส.เตย รับสารภาพทุกข้อกล่าวหา จึงเข้าพิมพ์ลายนิ้วมือประกอบคำรับสารภาพ จากนั้นรอเจ้าหน้าที่คุมตัวส่งฟ้องศาลแขวงสุพรรณบุรี เพื่อดำเนินตามกฎหมาย


น.ส.เตย กล่าวว่า รู้สึกเครียดนิดหน่อย ส่วนสามีไม่มีส่วนรู้เห็น เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้ปรึกษาใครทำเองหมดทุกอย่าง ทั้งเรื่องห่อผ้าขนหนู ก็เตรียมไว้เองตั้งแต่ต้น ขอยืนยันว่า ตั้งครรภ์จริง แต่ได้มีเพศสัมพันธ์กับแฟนตอนอายุครรภ์ 4-5 เดือน แล้วเลือดไหล ยังเรียกให้แฟนมาดูว่ามีเลือด แต่แฟนไม่เห็น เพราะปกติหากมีอะไรกับแฟนก็จะมีเลือดไหลอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้เลือดออกมามาก มีก้อนเลือดหลุดไป 2 ก้อน จึงสันนิษฐานเองว่า เป็นลูกแฝด


หลังจากมั่นใจแล้วว่าแท้ง แต่ไม่กล้าบอกแฟน เพราะแฟนอยากมีลูกมาก ตั้งความหวังไว้เยอะ กลัวแฟนผิดหวัง ตอนที่โกหกเมื่อเหตุการณ์มันเริ่มไปไกลแล้ว คิดอยากสารภาพ แต่มันอึดอัด รู้ตัวตลอดว่ามันผิดจริงๆ แต่มันอึดอัดพูดออกมาไม่ได้ ไม่เกี่ยวกับเรื่องเงิน หลังเกิดเรื่องได้บอกกับแฟนว่า ถ้าคิดจะเลิกก็เลิกไปไม่เป็นไร แต่แฟนก็ยืนยันว่าไม่เลิก อันนี้เป็นคำพูดที่เขาพูด แต่ทั้งนี้ก็ต้องอยู่ที่ตัวแฟนว่าเขาจะตัดสินใจอย่างไร ส่วนพ่อแม่ ก็มีโกรธนิดหน่อย


ส่วนนายนัท สามี วันนี้ไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใด ๆ แต่เคยได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อ เมื่อวันแรกที่ออกมารับสารภาพว่า ไม่รู้สึกโกรธภรรยาเพราะรักภรรยามาก ที่ภรรยาทำลงไปนั้นเพราะรัก กลัวว่าสามีไม่พอใจในตัวเขา เลยไม่ได้บอกเรื่องนี้ให้ฟัง ในเรื่องนี้ ต้องยอมรับว่า คนที่ช่วยจับโป๊ะเรื่องท้องทิพย์คนแรก ก็คือ พระไสว ธัมมสโร อายุ 80 ปี พระลูกวัด วัดสวนแตง ที่ได้รับการนิมนต์ไปเชิญศพลูกแฝดชาย ที่โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช ก่อนที่จะเดินทางมาทำพิธีทางศาสนาที่วัดสวนแตง


ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบพระไสว เล่าว่า วันเกิดเหตุ สองสามีภรรยา นำรถกระบะมารับอาตมาได้นั่งที่เบาะหน้า จากนั้นแม่เด็กลงรถบริเวณประตูด้านหน้าของโรงพยาบาล โดยรถขับไปจอดรอด้านหลังของโรงพยาบาล รออยู่ค่อนข้างนาน ก่อนจะโทรศัพท์เรียกไปรับที่ด้านโรงพยาบาล ก็เห็นอุ้มห่อผ้าขนหนูขึ้นมา จากนั้นฝ่ายชายขอดูหน้าลูก แต่แม่เด็กบอกว่าแพทย์ไม่ให้เปิด เพราะกลัวจะติดเชื้อ อาตมาจึงส่งสายสิญจน์ให้แม่เด็ก นำไปผูกกับศพของเด็ก เพื่อทำพิธีนำศพไปที่วัด แต่แม่เด็กผูกที่ผ้าขนหนู


เมื่อถึงวัด อาตมาได้ไปเข้าห้องน้ำก่อน จึงไม่เห็นช่วงที่นำศพใส่โลง แต่เห็นว่าสายสิญจน์ยังไม่ได้ผูกที่ข้อมือเด็กอย่างถูกต้องตามประเพณี จึงบอกให้ญาติเปิดโลงศพ เพื่อที่จะผูกสายสิญจน์กับข้อมือของเด็กอีกครั้งหนึ่ง แต่เมื่อเปิดออกมา กลับไม่พบเด็กตามที่ปรากฏในคลิป จากนั้นทางครอบครัวก็โวยวายเสียงดัง และค่อนข้างตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไปแจ้งตำรวจว่าศพของลูกหาย เชื่อว่า หากไม่บอกให้เปิดผ้า คงได้ทำพิธีเผาผ้าอย่างเดียว


ขณะที่นายอัฐพล สุนทรวิภาต นิติกรประจำโรงพยาบาลศูนย์เจ้าพระยายมราช เปิดเผยว่าขณะนี้อยู่ระหว่างปรึกษากับนักกฏหมายของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อดำเนินคดีเพิ่มตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 ในข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อทางโรงพยาบาล หรือก่อให้เกิดความตี่นตระหนกแก่ประชาชน กับ น.ส.เตย และ นายนัท สามี และผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า "Akasit Siripannapirat" ไลฟ์สดในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด และอาจจะรวมไปถึงผู้ที่เข้ามากดแชร์ในเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย ทั้งนี้ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนเรื่องเปิดแถลงข่าวร่วมกันที่โรงพยาบาล ไม่มีแน่นอน เพราะเสียเวลาการทำงานดูแลผู้ป่วย

คุณอาจสนใจ

Related News