สั่งตรวจสอบ ปม ฮ.อุทยานฯ ถูกลอบยิง ขณะบินตรวจแก่งกระจาน

จากเหตุเฮลิคอปเตอร์อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ถูกยิงด้วยปืนแก๊ปขณะลาดตระเวณตรวจสอบผืนป่า จนต้องแจ้งความ วันนี้หลายหน่วยงานในพื้นที่ร่วมประชุมตรวจสอบข้อเท็จจริง ก่อนลงพื้นที่จุดเกิดเหตุวันพรุ่งนี้ ตามที่รัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สั่งการ

นี่เป็นช่วงเหตุการณ์ขณะที่เฮลิคอปเตอร์เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน พร้อมนักบินรวม 6 คน ในภารกิจตรวจสอบป่าเมื่อวานนี้ เพื่อประเมินและวางแผนส่งกำลังเข้าตรวจสอบในวันนี้ แต่กลับถูกยิง ด้วยบุคคล 2 คน เป็นชาย 1 คน หญิง 1 คน วิ่งออกมาจากแนวป่า หยิบปืนไทยประดิษฐ์หรือปืนแก๊ป ยิงใส่เฮลิคอปเตอร์บริเวณท้ายเครื่อง 1 นัด ในระยะห่างประมาณ 10-15 เมตร ได้ยินเสียงปืนดังชัดเจน

ซึ่งกัปตันได้นำเครื่องลงจอดที่บริเวณฐานทหารพรานใจแผ่นดิน ห่างจากจุดที่โดนยิง ประมาณ 7 กิโลเมตร เพื่อตรวจสอบสภาพเครื่อง ในเบื้องต้น ไม่พบร่องรอยความเสียหาย ก่อนที่ช่วงบ่ายเมื่อวานนี้ นางสาวเนตรนภา งามเนตร ผู้ช่วยอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้ไปลงบันทึกประจำวัน ที่ สภ.แห่งกระจาน

ล่าสุด ขณะนี้ที่ทำการอุทยานฯแก่งกระจาน นายอิทธิพล ไทยกมล หัวหน้าอุทยานฯ พร้อมด้วยหน่วยความมั่นคง ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครองในพื้นที่ได้ประชุมหารือ เพื่อประเมินสถานการณ์และข้อเท็จจริง ซึ่งเบื้องต้นทราบว่า จะยังไม่ลงพื้นที่ขึ้นบินตรวจสอบในจุดเกิดเหตุ โดยจะตรวจสอบวันพรุ่งนี้ เนื่องจากเป็นพื้นที่แนวเขตชายแดน

ด้าน นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ได้สั่งการไปยังผู้บริหารของกรม และเจ้าหน้าที่ระดับผู้ปฏิบัติงาน ขอให้คำนึงเรื่องความปลอดภัยเป็นหลักในการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมให้ไปแจ้งความบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และประสานฝ่ายความมั่นคง ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่อีกครั้ง ว่า บุกรุกพื้นที่ป่าไม้ของเขตอุทยานเพิ่มเติมหรือไม่

และชี้แจงว่าการบินตรวจพื้นที่ป่าในครั้งนี้ เป็นการสำรวจพื้นที่ตามวงรอบปกติ ไม่ได้มีเจตนาไปจับกุมหรือตรวจค้นพื้นที่ ดังนั้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต้องหาสาเหตุให้ชัดเจน ว่าผู้ก่อเหตุมีวัตถุประสงค์อะไร

เช่นเดียวกับ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงฯ ก็บอกว่า ได้ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ชัดเจน และไม่อยากสันนิษฐานหรือวิเคราะห์ถึงสาเหตุว่า เป็นฝีมือของกลุ่มไหนที่เป็นผู้ยิงใส่เฮลิคอปเตอร์เจ้าหน้าที่ครั้งนี้ เพราะยังเร็วเกินไป

สามารถดูข่าวทาง Youtube ได้ที่ : https://youtu.be/y2T35FpS8L0