เฮลิคอปเตอร์บินส่งกำลังเสริม เข้าปฏิบัติหน้าที่บนเทือกเขาบรรทัดล่า "เสี่ยแป้ง"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันที่ 20 พย.66 เป็นวันที่ 13 ของการไล่ล่า "แป้ง นาโหนด" ในพื้นที่เทือกเขาบรรทัด โดยเฉพาะในพื้นที่บ้านในตระ ท้องที่รอยต่อกันของ 3 จังหวัด ประกอบด้วย จ.พัทลุง จ.ตรัง และ จ.สตูล ตลอดทั้ง 13 วันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ยังคว้าน้ำเหลวในการไล่ล่า ต่างก็ได้รับความลำบากจากการปฏิบัติหน้าที่เนื่องจากมีฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลาก มีหมอกปกคลุมในพื้นที่ดังกล่าวทำให้มีอากาศหนาวเย็น จึงมีการปรับเปลี่ยนกำลังกันอย่างต่อเนื่อง เพราะเห็นใจการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ใต้บังคับบัญชา



สำหรับบรรยากาศในตอนสายวันนี้ ณ ศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้าบริเวณริมอ่างเก็บน้ำคลองเขาหัวช้าง ต.ตะโหมด อ.ตะโหมด เป็นไปอย่างเงียบเหงา ในขณะที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้ก็ได้นำอาหารลงเรือหางยาวไปส่งให้กับชุดปฏิบัติการไล่ล่าตามจุดต่าง ๆ ของ สภ.บางแก้ว สภ.เขาชัยสน



ในขณะเดียวกันในตอนสายก็ได้มีเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติบินมาลงบริเวณริมอ่างเก็บน้ำฯ เพื่อรับกำลังชุด PARU จำนวน 2 คน ตชด.44 และตำรวจชุดแดนไทย 54 จากพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 2 คน รวม 4 คน ที่มีความชำนาญในการอ่านแผนที่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่บนเทือกเขาบรรทัดโดยการโรยตัวลงสู่เบื้องล่างท่ามกลางหมอกหนาทึบที่เสี่ยงต่อการเกิดอันตรายเป็นอย่างยิ่ง เพื่อไปเสริมกำลังกับชุดแดนไทย 54 ที่บินไปโรยตัว 12 นาย เมื่อวานนี้



โดยภาพการโรยตัวของเจ้าหน้าที่ นักบิน และเจ้าหน้าที่ประจำเครื่องบันทึก และถ่ายภาพมาให้ โดยหน่วยเรดคิ้ว กองบินสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยภารกิจคือเสริมกำลังเจ้าหน้าที่ ปฎิบัติการกู้ภัยช่วยเหลือทางอากาศ ส่งกำลังพลทางอากาศเพื่อความสะดวก และรวดเร็ว แต่ในช่วงภารกิจนั้นสภาวะอากาศที่แปรเปลี่ยน บางช่วงยังเป็นอุปสวรรค



ในส่วนการประชุมการทบทวน ปรับเปลี่ยน การปฏิบัติหน้าที่ของนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ณ ศูนย์ปฏิบัติดังกล่าวนั้น ในขณะที่รายงานข่าวยังไม่มีการประชุมแต่อย่างใด ในส่วนของกำลังชุดปฏิบัติการไล่ล่าหลายชุด ก็ได้ถอนกำลังกลับ



และสำหรับการปฏิบัติการไล่ล่า แป้ง นาโหนดในครั้งนี้ ตร.พัทลุงเป็นเพียงผู้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาจากส่วนกลางที่ส่วนใหญ่จะสั่งผ่าน พ.ต.อ.สุริยา ปัญญามัง รอง ผบก.ภ.จว.พัทลุง เท่านั้น ประชุมการวางแผนการไล่ล่าคนร้ายนายตำรวจคนสำคัญของ กก.ภ.จว.พัทลุงก็ไม่ได้รับการอนุญาตให้เข้าร่วมประชุมด้วย ซึ่งพวกตนคาดว่าทางตำรวจชั้นผู้ใหญ่ไม่ไว้ใจตำรวจพัทลุง



นี่คือส่วนสำคัญของการล้มเหลวในการไล่ล่าคนร้ายที่ตำรวจไม่ไว้ใจตำรวจด้วยกัน ตำรวจพัทลุงที่ทราบพฤติกรรมของคนร้าย และหลายคนที่ชำนาญเส้นทางที่คาดว่าจะเป็นเส้นทางการหลบหนีของคนร้ายกลับไม่มีส่วนร่วมในการไล่ล่าคนร้ายแต่อย่างใด ทำได้เพียงผู้ปฏิบัติตามคำสั่งเพียงอย่างเดียวเท่านั้น จนทำให้หลายๆ คนเกิดความท้อแท้ใจในการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว