สภาผู้บริโภคหนุน รถไฟฟ้า-รถเมล์ฟรี ลดฝุ่น PM 2.5 - 'หญิงหน่อย' จี้รัฐแก้อย่างยั่งยืน ไม่ใช่แค่เฉพาะหน้า

สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 วันนี้ หลายพื้นที่ใน กทม. ยังคงเกินค่ามาตรฐาน ขณะที่วันนี้เป็นวันแรก ของมาตรการ ให้ประชาชนใช้รถไฟฟ้า และรถขนส่ง ของ ขสมก. ฟรี 7วัน ล่าสุด สภาผู้บริโภคออกมาสนับสนุนให้ขยายมาตรการนี้ไปทั่วประเทศ

วันนี้เป็นวันแรกของมาตรการ รถไฟฟ้า - รถเมล์ ฟรี 7 วัน ตาม ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ที่ให้ประชาชนใช้บริการรถไฟฟ้าทุกสาย และ รถของขสมก.ฟรี ตั้งแต่วันที่ 25-31 ม.ค. นี้ เพื่อลดการใช้รถส่วนตัวบนท้องถนน แก้ปัญหามลพิษฝุ่น PM 2.5 โดยใช้งบกลางในการชดเชยประมาณ 140 ล้านบาท

ทำให้บรรยากาศ ตามสถานีรถไฟฟ้า และป้ายรถเมล์ หลายแห่งวันนี้ มีผู้ใช้บริการจำนวนมาก แม้ว่าการจราจร ตามท้องถนน ยังคงหนาแน่นหลายพื้นที่

สำหรับเงื่อนไขการใช้บริการรถไฟฟ้าฟรี ในส่วนของรถไฟฟ้า MRT ทุกสาย คนที่ใช้บัตร ทุกประเภท รวมถึง บัตรเครดิต และบัตรเดบิต สามารถแตะเพื่อเดินทางได้ตามปกติ ไม่คิดค่าโดยสาร หรือจะไปรับเหรียญโดยสารที่ห้องออกบัตร และ ที่เครื่องออกเหรียญอัตโนมัติ ได้ฟรีเช่นกัน

เช่นเดียวกับ รถไฟฟ้า BTS ทุกสาย รวมถึงสายสีทอง ผู้โดยสารสามารถกดรับบัตรโดยสารฟรี ที่ตู้จำหน่ายตั๋ว หรือขอรับที่ห้องจำหน่ายตั๋วได้ทุกสถานี ส่วนคนที่ถือบัตรแรบบิท สามารถแตะบัตรเข้าระบบได้เลยโดยไม่มีการหักเงิน เช่นกัน

ขณะที่ รถเมล์ ขสมก. ให้บริการรถเมล์ฟรี ทุกเส้นทาง ( ย้ำว่าจะเฉพาะ รถ ของ ขสมก. เท่านั้น )

นางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสำนักงานสภาผู้บริโภค ระบุว่า สภาผู้บริโภค สนับสนุนที่รัฐบาลออกมาตรการให้ประชาชนขึ้นรถเมล์และรถไฟฟ้าฟรี เพราะจะช่วยลดปัญหา PM 2.5 ในกรุงเทพมหานครได้ พร้อม มีข้อเสนอถึงรัฐบาลใน 3 ประเด็น ได้แก่

- การขยายนโยบายไปยังจังหวัดอื่นๆ

- การเพิ่มจำนวนรถขนส่งสาธารณะให้เพียงพอกับความต้องการของประชาชน

- และเสนอให้ทบทวนโครงการสร้างทางด่วนชั้นที่ 2 เพื่อยุติโครงการดังกล่าว และนำงบประมาณนั้นไปซื้อรถเมล์ไฟฟ้าซึ่งอาจซื้อได้มากกว่า 5,000 คัน ที่สามารถให้บริการประชาชนได้ทันที และยังสามารถนำไปพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะสำหรับทั่วประเทศได้อีกด้วย

ขณะที่ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ก็เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งทำงาน และวางแผนงานในการแก้ไขปัญหา ฝุ่น PM 2.5 ใน 4 ประเด็น คือ

- การบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดกับแหล่งกำเนิดมลพิษ

- เร่งเจรจากับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อแก้ไขปัญหามลพิษข้ามพรมแดน โดยเฉพาะการควบคุมการเผาไหม้ โดยดูตัวอย่างโมเดลจากประเทศสิงคโปร์

- เพิ่มพื้นที่สีเขียวในเขตเมืองและต่างจังหวัด เพื่อให้ต้นไม้สามารถช่วยดูดซับมลพิษและฟอกอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ

- และ รัฐบาลต้องส่งเสริมการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ และสนับสนุนประชาชนให้หันมาใช้พลังงานสะอาดอย่างเป็นรูปธรรม

ทางด้าน พลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการตำรวจทุกหน่วย เพิ่มมาตรการเข้ม เพื่อลดสาเหตุการก่อฝุ่นละลองขนาดเล็ก PM 2.5 โดยออกมาตรการหลัก 4 มาตรการ ในการตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายกับ รถ / โรงงาน - การก่อสร้าง / ไร่ นา ป่า สวน / และขอความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง

- มาตรการที่ 1 คือ รถ ให้ตรวจสอบ บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดกับผู้ที่นำรถยนต์ที่มีควันดำ ปล่อยมลพิษมาใช้บนท้องถนน พร้อมออกคำสั่งห้ามใช้ยานพาหนะที่ก่อให้เกิดมลพิษเกินกว่ามาตรฐาน

- มาตรการที่ 2 คือ โรงงานและการก่อสร้าง ให้ตรวจสอบ บังคับใช้กฎหมายกับผู้ประกอบการโรงงานที่มีการปล่อยมลพิษทางอากาศ รวมไปถึงการก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

- มาตรการที่ 3 คือ ไร่ นา ป่า สวน ให้ตรวจสอบ และบังคับใช้กฎหมายกับผู้ที่ลักลอบเผาป่า พืชไร่ และพื้นที่เพาะปลูกเพื่อทำการเกษตร รวมถึงการเผาในที่โล่ง และกิจกรรมที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ

- มาตรการที่ 4 คือ ร่วมมือ จะเน้นการบูรณาการกับกรมการขนส่งทางบก และหน่วยงานต่างๆ ทั้งรัฐและเอกชน ในการสนับสนุนการดำเนินการ ทั้งด้านเครื่องมืออุปกรณ์ และการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด

นอกจากนี้ ยังเปิดให้ประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดที่ก่อให้เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ผ่านทางสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ซึ่งสามารถโทรศัพท์แจ้งเบาะแสได้ตลอด 24 ชั่วโมงด้วย

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/OBuSbLznWz8