สังคม

หนุ่มเครียดอนาคตวูบ ใช้วุฒิ ปวส. สอบบรรจุราชการ สรุปเป็น ‘วุฒิปลอม’

โดย thichaphat_d

16 ส.ค. 2567

6.7K views

กรณีลูกจ้างในสังกัดกรมการขนส่งทางบก สอบบรรจุเป็นข้าราชการได้สำเร็จ แต่เข้าสู่กระบวนการตรวจสอบประวัติและวุฒิการศึกษา ปรากฏว่าไม่มีชื่อเรียนจบ โดยทางผู้เกี่ยวข้องแจ้งว่าทำชื่อตกหล่น เมื่อครั้งส่งข้อมูลเข้ากระทรวง ล่าสุดผู้รับใบอนุญาตวิทยาลัยฯ ยืนยันทุกอย่างเป็นของปลอมรวมทั้งลายเซ็น เจ้าตัวเครียดหนักเตรียมเข้าแจ้งความ เอาผิดทุกคนที่เกี่ยวข้อง เชื่อเป็นขบวนการ

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 15 สิงหาคม 2567 ผู้สื่อข่าว ติดตามความคืบหน้ากรณีที่นายสายชล แสนคำ อายุ 34 ปี ชาว จ.ปทุมธานี ปัจจุบันรับราชการในตำแหน่งนายช่างตรวจสภาพรถ ที่กรมการขนส่งทางบก ได้เดินทางมาที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับวุฒิการศึกษาที่วิทยาลัยเทคโนโลยีหนองเรือ ไทย-เยอรมัน ตั้งอยู่ในอำเภอหนองเรือ จังหวัดขอนแก่น เนื่องจากนายสายชลได้เรียนหลักสูตร ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงพุทธศักราช 2557 ประเภทวิชา อุตสาหกรรม สาขาวิชาเทคนิคเครื่องกลสาขางาน เทคนิคยานยนต์ ของวิทยาลัยเทคโนโลยีหนองเรือ ไทย-เยอรมัน ที่ศูนย์รังสิต ตั้งแต่ปี 2560 และจบการศึกษาปี 30 มีนาคม 2562

แล้วใช้วุฒิการศึกษา ยื่นประกอบเอกสารการเข้าบรรจุรับราชการที่กรมการขนส่งทางบก ซึ่งกรมการขนส่งได้ส่งวุฒิการศึกษาตรวจสอบที่สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ แต่ไม่พบชื่อของนายสายชล กรมการขนส่งทางบกจึงให้นายสายชล ทำการตรวจสอบรายละเอียดข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับวิทยาลัยเทคโนโลยีหนองเรือ ไทย-เยอรมัน ศูนย์รังสิต ซึ่งได้คำตอบว่า รายชื่อตกหล่นขณะส่งให้กระทรวงศึกษา จะประสานกับทางผู้อำนวยการและผู้รับใบอนุญาตวิทยาลัยเทคโนโลยีหนองเรือ ไทย-เยอรมัน ที่จังหวัดขอนแก่น และขอให้นายสายชล ลงทะเบียนเรียนใหม่ เพราะถ้าเกิดปัญหาขึ้น วิทยาลัยจะเสื่อมเสียชื่อเสียง นายสายชลจึงเดินทางมาจังหวัดขอนแก่น เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วยตัวเอง

ความคืบหน้ากรณีดังกล่าวนั้น นายสายชล แสนคำ พร้อมญาติได้เดินทางไปที่วิทยาลัยเทคโนโลยีหนองเรือ ไทย-เยอรมัน ได้พบกับ ดร.อิทธิ สีวันนู ผู้รับใบอนุญาตวิทยาลัย ที่ห้องทำงานของผู้รับใบอนุญาต โดยได้ยื่นเอกสารที่เป็นประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง(ปวส.)ที่ได้รับจากคณะผู้บริหารที่ศูนย์รังสิต ใบเสร็จรับเงิน ที่ออกโดยศูนย์การศึกษาศูนย์รังสิต ให้กับ ดร.อิทธิ ทำการตรวจสอบ ซึ่งทันทีที่ดร.อิทธิ ทำการตรวจสอบนั้น ยืนยันว่า ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ที่นายสายชล ได้รับจากคณะผู้บริหารที่ศูนย์รังสิตนั้นเป็นของปลอม ที่มีการปลอมแปลงขึ้นมา โดยมีจุดสังเกตที่ชัดเจนคือ แผ่นกระดาษไม่มีโลโก้สัญลักษณ์ปรากฏ ตรายางที่เป็นรอยประทับก็ไม่ใช่ของวิทยาลัย ลายเซ็นของตนก็ไม่ใช่

ดร.อิทธิ สีวันนู ผู้รับใบอนุญาตวิทยาลัย ยังได้สายตรงถึงอาจารย์ท่านหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับศูนย์รังสิต ที่ทางนายสายชลยืนยันว่า เป็นคนให้ข้อมูลว่าเอกสารทุกอย่างเป็นของแท้ ที่ผู้บริหารและผู้รับใบอนุญาตวิทยาลัยเทคโนโลยีหนองเรือ ไทย-เยอรมัน อยู่ที่ อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น ออกให้กับนักเรียนรุ่นเดียวกัน จำนวน 30 คน

ซึ่งจากการพูดคุยทางโทรศัพท์ อาจารย์ท่านดังกล่าวยืนยันว่า มีการพูดคุยกับผู้อำนวยการวิทยาลัยในการที่เปิดศูนย์รับสมัครและสอนนักเรียนที่ศูนย์รังสิต จึงทำการสอนจนนักเรียนจบหลักสูตร ทาง ดร.อิทธิ จึงตอบกลับว่าวิทยาลัยเทคโนโลยีหนองเรือ ไทย-เยอรมัน ไม่เคยทำข้อตกลงหรือทำเอ็มโอยู เปิดศูนย์เพื่อรับสมัครและทำการสอนที่ใดเพิ่ม มีเพียงการรับนักเรียนของ ซีพีออลเท่านั้น ฉะนั้นในเรื่องของนายสายชล จึงเป็นการหลอกลงประชาชน

ดร.อิทธิ สีวันนู ยังให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ได้ตรวจสอบเอกสารทั้งหมดแล้ว เป็นของปลอมทั้งหมด บิลเงินสดที่ผู้รับเงินออกให้นักเรียนที่จ่ายเงินค่าเทอม ก็เป็นบิลเงินสดที่ซื้อเล่มตามท้องตลาด ไม่ใช่ใบเสร็จของวิทยาลัยเทคโนโลยีหนองเรือ ไทย-เยอรมัน ซึ่งได้รับเรื่องของนายสายชลให้เรียบร้อยแล้ว และจะทำเรื่องให้ ผศ.ดร.ณฐกรณ์ อนันต์วรจินดา ผู้อำนวยการวิทยาลัย ลงนามในหนังสือว่า เรื่องที่นายสายชลมาตรวจสอบเรื่องวุฒิการศึกษานั้น วิทยาลัยเทคโนโลยีหนองเรือ ไทย-เยอรมัน ขอยืนยันว่าตรวจสอบแล้วในรายชื่อของนักเรียน ไม่มีรายชื่อนายสายชล และวุฒิการศึกษาที่นายสายชลได้รับจากผู้บริหารศูนย์รังสิต เป็นของปลอมทั้งหมด เมื่อหนังสือเรียบร้อยจะดำเนินการจัดส่งให้นายสายชลโดยเร็ว ซึ่งโดยส่วนตัวก็กำลังพิจารณาอยู่ว่าจะแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลที่แอบอ้างชื่อวิทยาลัยและปลอมแปลงลายเซ็นและปลอมเอกสารทั้งหมดหรือไม่

“วิทยาลัยอาชีวะไม่ว่าเอกชนหรือของรัฐ ที่สอนระดับ ปวช. ปวส. หรือต่ำกว่าระดับปริญญาตรีนั้น ตามพระราชบัญญัติการศึกษาไม่มีการอนุญาตให้ตั้งศูนย์ หรือให้มีการเรียนการสอนนอกสถานที่ การจะมีศูนย์ได้คือระดับอุดมศึกษาขึ้นไปเท่านั้น ซึ่งปัจจุบัน การขอตั้งศูนย์การศึกษาระดับอุดมศึกษาก็ค่อนข้างยาก จะต้องมีองค์ประกอบหลายๆอย่าง กรณีที่บอกว่ามีศูนย์นั้นคือมีการปลอมแปลงขึ้นมา และที่เขาอ้างว่า มีการทำ MOU กับสถาบันต่างๆ ซึ่งจริงๆแล้ววิทยาลัยไม่มี ไม่ได้ทำ โดยเปิดวิทยาลัยมาตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นมา ก็ไม่เคยมีลักษณะแบบนี้ มีน้อยก็สอนน้อย ซึ่งต่อมาได้มีการทำ MOU กับ CP ALL แห่งเดียวเท่านั้น ซึ่งมีการเรียนการสอนแบบ ทวิศึกษา คือเด็กที่จบปวช.หรือ ม. 6 มาเรียนที่วิทยาลัย 1 ภาคเรียน ภาคเรียนที่ 2 ที่ 3 ไปเรียนกับ CP ALL ที่กรุงเทพฯ ภาคเรียนที่ 4 จึงมาเรียนที่วิทยาลัยและจบที่วิทยาลัย ในหลักสูตรค้าปลีก เท่านั้น ที่อื่นๆไม่มี”

ส่วนคำว่าทวิศึกษา วิทยาลัยจะต้องทำความร่วมมือ ระหว่าง สถานประกอบการ และสถาบันเท่านั้น และส่งข้อมูลนักศึกษาไปที่กระทรวงรับทราบด้วย ส่วนกรณีของนายสายชล ได้มายื่นเอกสารให้ตรวจสอบนั้น ตนเองได้ ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบดูแล้ว พบว่าไม่มีในระบบวิทยาลัยเหมือนกัน เพราะปกตินักเรียนจะต้องมีรหัสนักศึกษา แต่นี่ไม่มี วันเข้า วันออกก็ไม่มี

และเมื่อเห็นใบประกาศก็พบว่าปลอมแปลงเอกสาร ซึ่งไม่รู้ว่าใครปลอม ตนก็ยังไม่รู้ ต้องมีที่ไปที่มา ซึ่งก็คือต้นสังกัดตรงนั้นคือที่ศูนย์รังสิตทำไม่ถูกต้อง จะมีความผิด อาญา มาตรา 52 คือปลอมแปลงเอกสารของหน่วยงานราชการ เราสามารถเอาผิดในส่วนนั้นได้

ซึ่งกรณีที่มีการเปิดศูนย์ที่รังสิตโดยอ้าง ชื่อวิทยาลัยของตนนั้น ถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิ์ มีความผิด ส่วนกรณีของนายสายชลที่เข้าเรียนปี 60 จบปี 63 นั้น ก็คงต้องย้อนกลับไปดูว่านายสายชล มีจุดเริ่มต้น การเริ่มต้นจากที่ใด ก็ให้ไปเอาคืน กลับทางนั้น ซึ่งทางวิทยาลัยทางหนองเรือ จ.ขอนแก่นไม่รู้เรื่อง เพราะเขาแอบอ้างเอาชื่อไปเฉยๆ

เงินทุกบาททุกสตางค์ เสียเวลาค่าน้ำมัน ค่าเดินทางไปเรียนหรือความเสียหายอันเกิดจากการเรียน ต่างๆ ก็ต้องคิดเป็นจำนวนเงินออกมา แล้วไปไล่เอากับศูนย์นั้น ซึ่งกรณีการถูกแอบอ้างชื่อ ในการไปสร้างความเสื่อมเสีย ของวิทยาลัยนั้น ตนเคยไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่แล้วหลายครั้ง ว่ามีเหตุการณ์ลักษณะแบบนี้ เพื่อเป็นการป้องกันไว้ ซึ่งถ้ามีเหตุต่อไป ตนเองจะเอาผิด เพราะมันไม่ใช่เฉพาะตรง ส่วนกรณี นายสายชล ที่มีการเข้าศึกษาที่ศูนย์ดังกล่าว ช่วงปี 60 จบปี 63 พร้อมมีเพื่อนร่วมรุ่นทั้งสิ้นรวม 30 คน ตนเองเชื่อได้ว่าทุกคนได้รับประกาศนียบัตรและวุฒิปลอม โดยมีการปลอมแปลงเอกสารทุกอย่าง ทั้งลายเซ็นปลอม

ขณะที่นายสายชล แสนคำ ผู้เสียหาย กล่าวหลังทราบคำตอบจากดร.อิทธิ สีวันนู ผู้รับใบอนุญาตวิทยาลัยดังกล่าวว่าทั้งหมดคือของปลอม รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก เพราะตั้งใจเรียนที่ศูนย์รังสิตมา 2 ปี เพื่อจะนำประกาศนียบัตรไปประกอบการสมัครเข้ารับราชการที่กรมการขนส่งทางบก จนได้บรรจุเมื่อเดือนเมษายน 2567ที่ผ่านมา แต่ตอนนี้อนาคตดับ การจะเลี้ยงดูพ่อแม่และครอบครัวก็ล้มไปด้วย เพราะเชื่อว่ากรมการขนส่งทางบก น่าจะให้ออกจากงานที่ทำอยู่

อยากถามนางก้อย ผู้บริหารศูนย์การศึกษาศูนย์รังสิตว่า ที่บอกว่า การเรียนการสอนที่ศูนย์รังสิต เกิดขึ้นจากการทำบันทึกข้อตกลงกับทางวิทยาลัยเทคโนโลยีหนองเรือ ไทย-เยอรมัน และทุกอย่างถูกต้องตามกฎระเบียบของกระทรวงศึกษาธิการ ตนเสียค่าเทอม ได้รับใบเสร็จรับเงินจากบุคลากรที่ทำงานในศูนย์ แต่วันนี้ผู้รับใบอนุญาตวิทยาลัย ยืนยันว่า ทุกอย่างปลอมแปลงขึ้นมาทั้งหมด นางก้อยกับพวกอาจารย์และบุคลากรทุกคน ใครจะมารับผิดชอบชีวิตตน เพราะทุกอย่างมันพังมันล้มหมดแล้ว งานก็ไม่มีทำ

นายสายชล ยังกล่าวอีกว่า ตนได้โทรศัพท์พูดคุยกับอาจารย์บางคน ที่เป็นอาจารย์ที่สอนในศูนย์รังสิต ซึ่งอาจารย์รายดังกล่าว ยืนยันว่า อาจารย์มาสอนที่ศูนย์รังสิต เพราะนางก้อยชักชวนมาว่า วิทยาลัยเช่าสถานที่เปิดเป็นศูนย์ สอนนักเรียน จึงได้มาสอนนักเรียนจนจบหลักสูตร และพบว่าการเก็บเงินค่าเทอมจากนักเรียนที่เรียนในปี 2560-2562 นั้น ได้มีการโอนให้ผู้บริหารเป็นก้อน ครั้งละหลักแสนบาท อาจารย์ยังบอกอีกว่า ผู้บริหารศูนย์ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า โอนเงินให้ใคร เมื่อตนทราบรายละเอียดเช่นนี้ ก็จะให้ญาติพาเข้าปรึกษากับอัยการคุ้มครองสิทธิ์ เพื่อหาทางออกในการเอาผิดกับทุกคนที่เกี่ยวข้อง ที่ทำให้เกิดวุฒิการศึกษาปลอม และทำลายชื่อเสียง ทำลายอนาคตของตน และตนขอยืนยันว่าจะเอาผิดกับทุกคนที่เกี่ยวข้อง

ในเวลาต่อมานายสายชลพร้อมญาติ เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.ประสิทธิ์ แผงตัน สว.(สอบสวน)สภ.หนองเรือ เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้ว่า นายสายชลได้เข้าเรียนหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง(ปวส.) ที่สถาบัน Learning House ตั้งอยู่เลขที่ 903 ถนนรังสิต - นครนายก ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ซึ่งอ้างว่าเป็นสาขาของวิทยาลัยเทคโนโลยีหนองเรือ ไทย-เยอรมัน จังหวัดขอนแก่น หลักสูตร 2 ปี 4 เทอม ประเภทวิชาอุตสาหกรรม สาชาวิชา เทคนิคเครื่องกล จนเรียนจบการศึกษาเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2562 โดยได้ไปรับใบประกาศที่โรงเรียนวัดผาสุข ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี โดยในใบประกาศมีชื่อวิทยาลัยเทคโนโลยีหนองเรือ ไทย-เยอรมัน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จังหวัดขอนแก่น

ต่อมาในวันที่ 17 เมษายน 2567 ได้ไปบรรจุสอบรับราชการในกระทรวงคมนาคม กรมการขนส่งทางบก กรุงเทพมหานคร ซึ่งหน่วยงานตันสังกัด ได้ตรวจสอบคุณสมบัติไปยังสำนักงานคณะกรรมการอาชีวะศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ทางสำนักงานฯได้ตรวจสอบแล้ว ไม่พบข้อมูลในระบบการศึกษาของวิทยาลัยเทคโนโลยีหนองเรือ ไทย-เยอรมันในปีการศึกษาดังกล่าว นายสายชลจึงได้เดินทางมาสอบถามที่วิทยาลัย และได้รับคำตอบจากผู้รับใบอนุญาตว่าเป็นวุฒิการศึกษาปลอม จึงมาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐาน และพนักงานสอบสวนเห็นว่าพฤติการณ์ดังกล่าวน่าจะเข้าข่ายความผิดฉ้อโกง แต่สถานที่เกิดเหตุอยู่ในเขต อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี จึงได้แนะนำนายสายชลไปแจ้งความร้องทุกข์ในเขตท้องที่ สภ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ท้องที่เกิดเหตุ เพื่อดำเนินคดีกับบุคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

คุณอาจสนใจ

Related News