สังคม

ม็อบสายเขียวบุกทำเนียบ ค้านดึง 'กัญชา' กลับไปเป็นยาเสพติด มองมีผลประโยชน์กับนายทุน

โดย parichat_p

8 ก.ค. 2567

290 views

เครือข่ายกัญชา เตรียมแฉ รัฐบาลเพื่อไทยเปลี่ยนนโยบายดึงกัญชา กลับไปเป็นยาเสพติดเพราะมีผลประโยชน์ทับซ้อนระหว่าง นายใหญ่ของพรรคกับนักธุรกิจ ยันที่ผ่านมา กระบวนการแก้กฎหมายกัญชาผ่านมติคณะรัฐมนตรีมาแล้ว คืนนี้ขอปักหลัก เรียกร้องหน้าทำเนียบรัฐบาลเพื่อรอ การประชุม ครม.พรุ่งนี้ ซึ่งมีข้อพิจารณาเรื่องกัญชา หากไม่เป็นผลจะปักหลักชุมนุมแบบไม่ทีกำหนด


กลุ่มเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย กว่า 300 คน จากทั่วประเทศ เดินทางมา รวมตัวหน้าที่ทำการสหประชาชาติเพื่อเตรียมเดินขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาลในการยื่นข้อเสนอถึงรัฐบาล กรณีการกำหนดสถานะกัญชาไทย



จนเวลา 13.00 น. กลุ่มเครือข่ายเริ่มเคลื่อนขบวนออกจากจุดนัดพบเดินเท้า ไปยังทำเนียบรัฐบาลโดยมีนายประสิทธิ์ชัย หนูนวลเลขาธิการเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย นำขบวน กลุ่มขบวนแถวหน้าเป็นด่านแรกสำหรับการเจรจากับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ และดูแลเรื่องความปลอดภัยในระหว่างการเดินขบวนตามถนน และภายในขบวนจะเป็นกลุ่มเครือข่ายผู้สนับสนุน ที่มีการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ทั้งการนำต้นกัญชารวมถึงป้ายกิจกรรมต่างๆ มาถือ เวลา 13.30 น.เดินทางมาถึงยังจุดหน้าทำเนียบรัฐบาลบริเวณสะพานชมัยมรุเชฐและเริ่มปักหลักทำกิจกรรม เรียกร้องขอ ให้รัฐบาลส่งตัวแทนมารับหนังสือ



ทั้งนี้ นายประสิทธิ์ชัย หนูนวลในฐานะตัวแทนเครือข่าย กล่าวว่า วันนี้ ออกมาแสดงออกอย่างสันติ เพื่อยืนหยัดในข้อเรียกร้องก่อนหน้านี้ที่ ไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงนโยบาย การนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด ซึ่งจะก่อให้เกิดผลกระทบกับประชาชนผู้ป่วยที่จะเข้าถึงการใช้กัญชายากขึ้น ซึ่งมองว่าการเปลี่ยนแปลงนโยบายครั้งนี้เป็นเพราะ มีผลประโยชน์ระหว่างนายใหญ่ของพรรคเพื่อไทยกับกลุ่มทุนที่จะผูกขาดเรื่องกัญชา เช่นเดียวกับการที่รัฐบาลมีการเปลี่ยนแปลงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเพราะเดิมนั้น ทางเครือข่ายเคยได้ร่วมหารือกับนายแพทย์ ชลน่าน ศรีแก้ว ที่ในขณะนั้นเข้ารับตำแหน่งยังมีแนวโน้มของการเปลี่ยนแปลงนโยบายเรื่องกัญชาแต่เมื่อเปลี่ยนเป็นนายสมศักดิ์เทพสุทินเข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขนโยบายเรื่องกัญชาก็ถูกยกขึ้นมาแก้ไขใหม่ เหมือนได้รับคำสั่งมา



ซึ่งใน14.00 น. มีตัวแทนตัวแทนจากสำนักนายกรัฐมนตรีเดินทางมารับข้อเสนอของทางเครือข่ายที่ได้ยื่นถึงรัฐบาลกรณีความขัดแย้งการกำหนดเพื่อให้เกิดการเพื่อคลี่คลายความขัดแย้งตามหลักสากลดังนี้ ให้ตั้งคณะกรรมการร่วมกันสองฝ่ายเพื่อศึกษาวิจัยประเด็นสำคัญ 4มิติที่เกี่ยวกับกัญชา



1. กัญชามีผลร้ายในมิติสุขภาพมากกว่าบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือไม่

2. กัญชาก่อผลร้ายในมิติทางสังคมในช่วงสองปีที่ผ่านมาร้ายแรงกว่าบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือไม่

3. คุณสมบัติในการดูแลสุขภาพและรักษาโรคของกัญชาดีกว่าบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือไม่

4. กัญชาก่อให้เกิดโรคทางจิตเวชและทำลายสมองเยาวชนตามที่รัฐกล่าวอ้างจริงหรือไม่เมื่อศึกษาวิจัยจนตกผลึกร่วมกันทั้งสองฝ่ายครบทั้ง4ประเด็นแล้วพบให้นำผลการศึกษามาจัดสถานะ



กัญชาว่าควรควบคุมโดยกฎหมายรูปแบบใด


1. หากการศึกษาทั้ง 4มิติผลปรากฏว่ากัญชาไม่ได้ร้ายกว่าบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รวมทั้งไม่ได้เป็นสาเหตุของการเกิดโรคจิตเวชหรือทำลายสมองเด็กก็ให้ควบคุมกัญชาโดยกฎหมายเฉพาะที่เรียกว่า พระราชบัญญัติกัญชา

2. หากการศึกษาทั้ง 4มิติพบว่ากัญชาร้ายแรงกว่าบุหรี่และเหล้าอีกทั้งยังเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรค จิตเวชและทำลายสมองเยาวชนให้นำกัญชาไปควบคุมโดยกฎหมายยาเสพติด

โดยการเรียกร้องครั้งนี้ทางเครือข่ายตั้งใจปักหลักทั้งคืนเพื่อรอติดตามผลการหารือของคณะรัฐมนตรีที่จะมีการประชุมพิจารณาเรื่องกัญชาในวันพรุ่งนี้ หาก ยังไม่เป็นผลก็จะปักหลักค้างคืนที่บริเวณ สะพานชมัยมรุเชฐต่ออย่างไม่มีกำหนด เพื่อขอความชัดเจน เรื่องของกัญชา ที่มีประโยชน์ต่อประชาชนไม่ควรถูกจำกัดไว้กับการจัดยาเสพติด


ส่วนในคืนนี้จะมีกิจกรรมการตีแผ่ กรณีกรณีที่พูดถึงผลประโยชน์มหาศาลจากกัญชาซึ่งเกิดขึ้นจากนายใหญ่ของพรรคเพื่อไทยและกลุ่มทุน ในเวลา 20.00 น.


ขณะที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขซึ่งได้ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในช่วงเช้าเมื่อสอบถามถึงกรณีมติของคณะกรรมการ ควบคุมยาเสพติดกระทรวงสาธารณสุขเห็นชอบในการนำกัญชากลับมาเป็นยาเสพติด ระบุ ขอยังไม่ตอบตำถามใดๆ จะชีแจ้งในวันพรุ่งนีนี้ ซึ่งจะมีการประชุม ครม. เนื่องจากทราบว่าในวันนี้จะมีเครือข่ายมายื่นข้อเรียกร้องตนจึงขอรอดูข้อเรียกร้องก่อนและจะ ชี้แจงพร้อมกัน


ทั้งนี้ เรื่อง ของกัญชาเป็นเรื่องของข้อกฎหมายซึ่งจะต้องมีการอธิบายกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องมิใช่จะอธิบายได้ด้วยกฎหมายฉบับใดฉบับหนึ่ง


โดยขณะนี้ข้อประกาศของกระทรวงสาธารณสุขได้มีการเผยแพร่ในเว็บไซต์ให้ประชาชน รับทราบ และหลังจากนี้เองยังต้องมีการประกาศอีกประมาณสามฉบับ และแนวทางการดูแลกลุ่มผู้ประกอบการที่ลงทุนเรื่องกัญชา ซึ่งตามที่ทราบเข้าใจว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่มีความเข้าใจเรื่องข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกัญชาอยู่แล้ว

คุณอาจสนใจ

Related News