หนุ่มดมกาวจนหลอน ทำร้ายคนงานก่อนชิงทรัพย์ สุดท้ายหนีไม่รอดถูกจับ

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 6 ก.ค.67 ผู้สื่อข่าวพร้อมด้วย นายอธิวัฒน์ สิริกังวาลวงศ์ ผู้ก่อตั้งเพจกล้าที่จะก้าว ลงพื้นที่ วัดทินกรนิมิตร ต.สวนใหญ่ อ.เมืองนนทบุรี พบพระสุทธิ์วุฒิ ปัญญาวุทโฒ พระลูกวัดดังกล่าว และนายโอภาส ปัญญาดี อายุ 42 ปี คนงานของตลาดสดเทศบาลนครนนทบุรี ผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายดมกาวและติดยาเสพติด ทำร้ายร่างกายและชิงทรัพย์ ระหว่างเดินทางผ่านวัดเพื่อกลับบ้าน


โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อเวลาประมาณ 18.45 น.ของ วันที่ 5 ก.ค.67 ซึ่งขณะที่ผู้เสียหายเดินอยู่บริเวณหลังวัดทินกร ได้ถูกคนร้าย ทราบชื่อคือ นายสมเกียรติ อร่ามวงศ์ บ้านใกลักันมาขอเงินจากผู้เสียหาย แต่ผู้เสียหายไม่ยอมให้ นายสมเกียรติ อร่ามวงศ์ อายุ 36 ปี จึงได้ทำร้ายร่างกายและเอาเงินจากกระเป๋าผ้ากันเปื้อนของผู้เสียหายไปจำนวน 100 บาท ก่อนหลบหนีไป ผู้เสียหายจึงได้เดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองนนทบุรี โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐาน


ภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพได้เมื่อเวลา 18.56 น.วันที่ 5 ก.ค.67 ผู้เสียหายเดินมาทางซุ้มประตูวัด มุ่งหน้าชุมชนหลังวัดทินกร จากนั้นนายหนึ่งผู้ก่อเหตุได้เดินตามมาและพยายามเรียกให้หยุดพร้อมกับตะโกนด่า ซึ่งผู้เสียหายได้พยายามเร่งฝีเท้าเดินหนี คนร้ายเดินตามมาทันช่วงบริเวณหลังอุโบสถเพื่อขอเงิน และเข้ายื้อแย่งของในมือผู้เสียหาย ขณะนั้นผู้เสียหายพยายามขัดขืนและต่อว่า จากนั้นผู้ก่อเหตุได้ล้วงเอาเงินในกระเป๋าผ้ากันเปื้อนไป

ผู้เสียหายจึงพยายามจะเอาเงินคืน แต่ถูกผู้ก่อเหตุได้ชกไปที่ใบหน้าผู้เสียหายถึง 12-13 ครั้ง จากนั้นคนร้ายก็เดินหลบหนีไปทางหน้าวัด ซึ่งผู้เสียหายเดินตามเพื่อทวงเงินคืน ซึ่งเสียงโวยวายของผู้เสียหายทำให้พระในวัดเดินออกมาดูเหตุการณ์จำนวนมาก



จากการลงพื้นที่สอบถามรายละเอียดจาก นายโอภาส ปัญญาดี ผู้เสียหาย พบว่าถูกทำร้ายชกที่โหนกแก้ม ปากแตก และศีรษะบวม ซึ่งพระสุทธิ์วุฒิ ให้ข้อมูลว่า ผู้ก่อเหตุจะเดินวนเวียนอยู่ภายในวัด ติดสารเสพติดและยาเสพติดมาตั้งแต่เป็นเยาวชน ชอบข่มขู่รีดไถเงินชาวบ้านและญาติโยมที่มาทำบุญที่วัด สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน และเด็กๆ มีการกรรโชกทรัพย์ ซึ่งคนร้ายชื่อนายหนึ่ง ทำตัวเป็นภัยสังคมมานานแล้ว อยู่คู่กับวัดพอหายเมาก็มาขอข้าววัดกิน พอเสพจนเมาก็จะก่อเหตุลักษณะแบบนี้อีก ทำแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า


ซึ่งสารเสพติดที่เขาเสพคือการดมกาว โดยตนอยู่ที่วัดนี้มา 21 ปี คนร้ายทำกรณีรุนแรงแบบนี้มาบ่อย เห็นหลายครั้งแล้ว อยากให้หน่วยงานนำตัวเขาไปใก้พ้นจากวัดทินกร จะเอาไปบำบัดหรือไปเอาไปอยู่ที่อื่นเลยนานๆ เพราะเป็นภัยสังคม เพราะญาติโยมที่เป็นผู้หญิง เด็ก และคนชรา จะสบายใจมากกว่านี้หลายร้อยเท่า โอกาสทางวัดก็มีให้แต่ให้แค่ 3 ครั้ง แต่สำหรับคนนี้มันเกินแล้ว จึงวอนให้สื่อเป็นสะพานบุญให้ เอาเขาไปบำบัดให้เป็นคนขึ้นมา ถ้าเป็นแบบนี้เขาก็จะก่อเหตุขึ้นมาอีก นักเรียน ผู้หญิง พ่อค้าแม่ค้าก็จะถูกไถเงิน เขาเหล่านั้นก็ต้องยอมเพราะไม่อยากมีเรื่อง และสู้เขาไม่ได้ จากภาพที่แชร์ในโซเชียลนั่นคืออาการที่เขาเสพเกินขนาด ซึ่งนายออม ผู้บาดเจ็บนั้นเป็นคนดีมาช่วยงานที่วัดประจำ แต่คนร้ายมันขาดสติจึงทำร้ายร่างกายเขา


ต่อมาเมื่อเวลา 11.30 น.นายอธิวัฒน์ ได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี ลงพื้นที่วัดทินกรนิมิตร พบตัวนายสมเกียรติ อร่ามวงศ์ ผู้ก่อเหตุนั่งดมดาวอยู่ด้านกลังอุโบสถ จึงได้นำตัวผู้ก่อเหตุออกมาตรวจค้นในที่โล่งแจ้ง พบคราบกาวติดที่ใบหน้าและหนวด จึงทำการค้นตัวผู้ก่อเหตุพบกระป๋องกาวอยู่ที่กระเป๋าหลังกางเกง ในกระเป๋าพบบัตรประชาและสิ่งของไม่มีค่าอื่นๆ จากนั้นได้นำตัวส่ง พ.ต.ต. อลงกรณ์ ปาลวัฒน์ สว.สอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อดำเนินคดี


นายอธิวัฒน์ สิริกังวาลวงศ์ ผู้ก่อตั้งเพจกล้าที่จะก้าว กล่าวว่า หลังได้รับการร้องเรียนให้ช่วยเหลือจากชาวบ้านและพระ ว่ามีชายติดสารเสพติด ก่อเหตุทำร้ายร่างกายและไถเงินชาวบ้านที่เดินผ่านไปมาและชาวบ้านที่มาทำบุญในวัด จึงได้ประสาน ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบและดำเนินการจับกุมตัวผู้ก่อเหตุ เนื่องจากผู้ก่อเหตุมีพฤติกรรมแบบนี้ เป็นอันตรายกับสังคมรวมถึงบริเวณที่เกิดเหตุมีโรงเรียนหวั่นผู้ก่อเหตุกับเด็กนักเรียนได้


เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวในข้อหาประพฤติตนวุ่นวาย ตรวจสอบประวัติเคยก่อเหตุในพื้นที่ สภ.เมืองนนทบุรี หลายคดี ในข้อหา ติดยาเสพติด ติดสารละเหย กรรโชกทรัพย์ และทำร้ายร่างกาย จากนั้นได้นำตัวเข้าห้องขัง ซึ่งหลังจากนี้ะนักงานสอบสวนจะทำการสอบปากคำ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมว่า ชิงทรัพย์ผู้อื่นโดยใช้กพลังประทุษร้าย ก่อนนำตัวฝากขังศาลจังหวัดนนทบุรีต่อไป