เจ้าหนี้โดนโกง 6 หมื่น ไปลงทะเบียนแก้หนี้นอกระบบ วอนรัฐอย่าช่วยลูกหนี้ที่ไม่รับผิดชอบ

เจ้าหนี้ที่ถูกลูกหนี้โกงเงิน 6 หมื่นบาท เตรียมติดตามความคืบหน้าคดี ไปลงทะเบียนแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ วอนรัฐช่วยเหลือเป็นรายๆ ไป อย่าช่วยลูกหนี้ที่ไม่มีความรับผิดชอบ

จากกรณีที่นางสมบัติ สุริยะ อายุ 59 ปี เจ้าของร้านคาร์แคร์แห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้ออกมาร้องต่อสื่อมวลชนว่า ถูกลูกหนี้โกงเงินไป จำนวน 60,000 บาท โดยในปี 61 ลูกหนี้รายดังกล่าวได้นำโฉนดที่ดิน ในพื้นที่ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ประมาณ 100 ตารางวา มาค้ำประกันเอาไว้ พร้อมทำสัญญาว่าจะชำระหนี้ภายใน 1 เดือน พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 3 หลังจากครบกำหนดปรากฏว่าลูกหนี้ไม่ยอมชำระหนี้ทั้งต้นและดอก ติดต่อไปก็บ่ายเบี่ยงตลอดเวลา จนกระทั่งมาสืบทราบว่าลูกหนี้ได้ไปแจ้งความว่าทำโฉนดที่ดินหาย แล้วไปทำโฉนดใหม่ ก่อนที่จะขายที่ดังดินกล่าวไปในราคากว่า 400,000 บาท เมื่อทวงถามก็ปิดโทรศัพท์หนี ไปแจ้งความกับ สภ.ปักธงชัย และ สภ.เมืองนครราชสีมาแล้ว แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด เมื่อตรวจสอบพบว่าลูกหนี้รายดังกล่าว มีประวัติโกงเงินชาวบ้านไปหลายคนแล้วนั้น

วันนี้ (4 ธ.ค. 2566) นางสมบัติ กล่าวว่า ภายหลังจากที่รัฐบาลมีโครงการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ตนเองก็อยู่ระหว่างหาเอกสารหลักฐานเพื่อที่จะไปติดตามความคืบหน้าของคดีหรืออาจจะแจ้งความรอบที่ 2 ก็ได้ พร้อมกับจะได้นำหลักฐานต่างๆ ไปลงทะเบียนแก้หนี้นอกระบบด้วย แต่ตอนนี้ต้องยอมรับว่าเอกสารต่างๆ หายไปบางส่วน เนื่องจากเหตุเกิดมานานหลายปีแล้ว และตอนนั้นก็ได้ไปแจ้งความไว้หลายที่ แต่คดีความก็ยังไม่คืบหน้า จนถอดใจว่าคงจะไม่ได้รับเงินคืนแน่ จึงไม่ได้เก็บเอกสารไว้ ทั้งนี้ตนเองไม่ได้เป็นเจ้าหนี้ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยโหด เป็นเพียงคนทำมาหากินทั่วไป เมื่อมีลูกค้าที่รู้จักกันมาขอยืมเงิน ก็ช่วยเหลือด้วยความเป็นคนรู้จักกัน แต่ไม่คิดว่าจะถูกลูกหนี้โกงเงินไปดื้อๆ โดยยังไม่ได้เงินคืนแม้แต่บาทเดียว ซึ่งการที่รัฐบาลมีโครงการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ก็คิดว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องแก้ปัญหาให้ถูกจุดด้วย เพราะลูกหนี้หลายคนก็เป็นคนไม่มีความรับผิดชอบใดๆ เลย ตอนมากู้หนี้ บีบน้ำตามาขอกู้ ทำให้เจ้าหน้าที่เขามีเมตตาก็ให้เงินกู้ไป แต่พอกู้เงินไปแล้ว กลับเชิดเงินหนีแบบกรณีของเธอที่เจอ อย่างนี้จะแก้ปัญหาอย่างไร

“เจ้าหนี้บางคนก็ไม่ใช่คนโหดร้ายอะไร คุยกันได้เสมอ ดังนั้นก็ขอให้รัฐบาลช่วยเหลือแก้ปัญหาให้เป็นรายๆ ไป ถ้านำเงินภาษีประชาชนไปช่วยเหลือทั้งหมด มันจะไม่คุ้ม เพราะคนไม่มีความรับผิดชอบ ก็จะไม่ใช้หนี้ต่อไป รัฐบาลก็ต้องตามไปทวงหนี้ ไปใช้หนี้แทนเขาวนอยู่อย่างนั้นไม่มีวันจบสิ้น” นางสมบัติกล่าว