สังคม

นายกฯ แถลงคืบหน้า 'แก้หนี้' สามารถไกล่เกลี่ยสำเร็จกว่า 57% ย้ำ ต้องจบในรัฐบาลนี้

โดย parichat_p

12 ก.พ. 2567

13 views

นายกรัฐมนตรี นำทีมแถลงข่าวความคืบหน้าการแก้หนี้ทั้งระบบ โดยผ่านมา 2 เดือน สามารถไกล่เกลี่ยสำเร็จกว่า 57% มูลหนี้ลดลงกว่า 670 ล้านบาท พร้อมย้ำว่าการแก้ไขหนี้ทั้งระบบจะจบในรัฐบาลนี้


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีแถลงข่าวผลการดำเนินงานการแก้ไขปัญหาหนี้ทั้งในระบบ และ นอกระบบ ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา หลังจากได้มอบนโยบายไปเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 และเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2566 กำหนดให้การแก้ไขปัญหาหนี้สินให้กับประชาชน เป็นวาระแห่งชาติ


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ดัชนีชี้วัดความสำเร็จ หรือ KPI ของการแก้ไขปัญหาหนี้สินประชาชน ประกอบไปด้วย 3 ข้อหลักคือ


1.หนี้สินที่ได้รับการแก้ไขปัญหาจะต้องครอบคลุมทั้งในส่วนหนี้นอกระบบ และ หนี้ในระบบ ไปพร้อมกัน 


2.เจ้าหนี้และลูกหนี้ที่มีการลงทะเบียนครบถ้วนจะต้องได้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย 100%


3.ลูกหนี้ที่ผ่านการไกล่เกลี่ยแล้วทุกรายจะต้องได้รับการพิจารณาสินเชื่อ หรือปรับโครงสร้างหนี้ รวมทั้งได้รับการช่วยเหลือพื้นฟูศักยภาพในการหารายได้


ล่าสุดมีลูกหนี้ที่ไกล่เกลี่ยสำเร็จแล้ว คิดเป็น 57 เปอร์เซ็นต์ของยอดการเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย ซึ่งนายกฯ ก็ย้ำว่า ยังมีภารกิจท้าทายที่รัฐบาลต้องทำต่อไป และต้องทำเรื่องนี้ให้จบในรัฐบาลนี้


นายกรัฐมนตรี ได้พูดถึงบทบาทของธนาคารรัฐในการเข้ามาช่วยดูแลประชาชนที่เป็นลูกหนี้นอกระบบ โดยบอกว่า "อยากให้ธนาคารของรัฐ นำเงินกลับไปช่วยเหลือพี่น้องที่ยากลำบากมากกว่ากอดผลกำไรไว้ ขณะที่หลายครอบครัวกำลังทนทุกข์กับหนี้นอกระบบ ที่ดอกเบี้ยสูงกว่ากฎหมายกำหนด"


นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ได้เรียกร้องให้เจ้าหนี้ มาร่วมลงทะเบียนด้วย เพื่อที่รัฐบาลจะได้คุ้มครองเจ้าหนี้ พร้อมเรียกร้องให้ลูกหนี้นอกระบบมีความกล้าหาญ ที่จะมาลงทะเบียนในจุดรับลงทะเบียนต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อรับการช่วยเหลือ ซึ่งลูกหนี้มีหน้าที่ต้องใช้หนี้ที่ยืมมา แต่ลูกหนี้ไม่มีหน้าที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กำหนด


ส่วนปัญหาหนี้ ในระบบ อย่างหนี้บัตรเครดิต หนี้สินเชื่อส่วนบุคคล ก็มีกลไกที่เรียกว่าคลินิคแก้หนี้ โดยกลไกนี้ สามารถทำให้ลูกหนี้ที่ตกอยู่ในภาวะชำระหนี้ไม่ได้ สามารถกำหนดเงินต้นที่ถูกต้องและมีการผ่อนชำระคืนในระยะสั้น ระยะปานกลาง ระยะยาว ในอัตราดอกเบี้ยที่ผ่อนปรน ร้อยละ 3-5 แต่ ยังมีสถาบันการเงิน และธนาคารพาณิชย์บางแห่ง ไม่ให้ความร่วมมือกับคลินิกแก้หนี้ จึงขอร้องไห้สถาบันการเงินเหล่านั้นมาให้ความร่วมมือ เหมือนกับสถาบันการเงินอื่น ส่วนการกำหนด ค่าผ่อนต่างๆก็ขอให้เป็นไปตาม ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด แต่จากการสุ่มตัวอย่าง ยังพบว่ามีบางสถาบันดำเนินการผิดไปจากประกาศดังกล่าว จึงขอยืนยันว่าที่สุดแล้วทุกแห่งจะต้องดำเนินการให้ถูกต้อง

คุณอาจสนใจ

Related News