สังคม
พบศพชายวัย 50 ปี ในโรงงานร้าง คาดแอบปีนตัดโครงเหล็กหลังคาไปขาย พลาดตกลงมาดับ
โดย nut_p
18 ก.พ. 2566
315 views
เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 18 ก.พ. 66 ร.ต.ท. กรรณธวุฒิ แสนสุด พงส.สภ.พระสมุทรเจดีย์ ได้รับแจ้งว่ามีผู้พบศพผู้เสียชีวิตบนอาคารชั้นที่ 2 ภายในโรงงานร้างแห่งหนึ่งริมถนนสุขสวัสดิ์-ป้อมพระจุล ฝั่งตรงข้ามโรงงานสังกะสี หมู่ที่ 1 ตงแหลมฟ้าผ่า อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลพระสมุทรเจดีย์สวาทยานนท์และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารโรงงานไม้อัดเก่า ซึ่งปล่อยทิ้งร้างมานานกว่า 20 ปี ปลูกอยู่บนเนื้อที่กว่า 10 ไร่ ยังมีอาคารโรงงานตั้งอยู่ 4-5 โรงงาน บริเวณอาคารโรงงานสุดท้ายติดชายคลองชั้นที่ 2 พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อภายหลังคือ นายเอง แจ้งอรุณ อายุ 50 ปี เป็นชาวจังหวัดระยอง นอนตะแคงคุดคู้อยู่ เลือดไหลนองพื้น สภาพศพสวมเสื้อยืดแขนยาวสีน้ำตาลอ่อน สวมกางเกงขาก๊วยสีเลือดหมู สวมรองเท้าแตะสีดำ บริเวณปลายเท้าพบเลื่อยเหล็กตกอยู่ 1 อัน ตรวจสอบภายในตัวพบเงินสดเป็นธนบัตรชนิดต่าง ๆ รวม 620 บาท และเหรียญราคาต่าง ๆ รวม 9 เหรียญ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน พร้อมถ่ายรูปและลงบันทึกประจำวันไว้เบื้องต้น เมื่อเงยหน้าขึ้นไปบนหลังคาพบโครงหลังคาซึ่งเป็นเหล็กตัวซีขนาดใหญ่มีร่องรอยถูกตัดจนเกือบขาด กระเบื้องมุงหลังคาหล่นแตกเกลื่อนพื้น
จากการสอบถาม นายเอกชัย ภู่ทวี อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 160/3 หมู่ที่ 3 ต.แหลมฟ้าผ่า อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ผู้พบศพเป็นคนแรก เล่าว่าก่อนมาพบศพเมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. ตนได้เดินเข้าไปเอาผ้ายางเก่าที่ถูกทิ้งไว้ออกมาเพื่อนำไปคลุมบ้านป้องกันฝนสาด เมื่อเดินมาถึงบริเวณชั้นที่ 2 พบผู้ตายนอนอยู่ จึงแปลกใจว่าอากาศร้อนขนาดนี้มานอนหลับบริเวณนี้ได้อย่างไร จึงเดินเข้าไปดู พบว่ามีเลือดไหลนองเต็มพื้น ตนจึงรีบเดินลงมาจากอาคารพร้อมวิ่งไปแจ้งชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงบริเวณโรงงานว่ามีคนตายและให้ช่วยโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิฐานเบื้องต้นคาดว่า ผู้ตายน่าจะแอบเข้ามาปีนตัดเหล็กโครงหลังคาภายในโรงงานร้างแห่งนี้ เพื่อนำเหล็กไปขาย แล้วพลาดท่าตกลงมาร่างกระแทกพื้นจนเสียชีวิต หรืออาจจะหน้ามืดเป็นลมแล้วพลัดตกลงมาเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งโดยปกติแล้วสถานที่แห่งนี้จะไม่มีคนเข้ามา เนื่องจากสภาพทางเดินเข้าโรงงานต้องเดินข้ามคลองขนาดเล็ก และใช้ขอนไม้เก่าพาด กว่าจะเดินข้ามคลองได้ต้องใช้ความสามารถพิเศษ ก่อนที่จะมอบร่างผู้เสียชีวิตให้เจ้าหน้าที่มูลนิธินำส่งสถาบันนิติเวชเพื่อผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตายที่แท้จริงอีกครั้ง