สังคม

หนุ่มเปิดหน้า ใช้แบงก์พันปลอมจ่ายซื้อของในตลาดไม่กลัวถูกจับ ทำร้านค้าเดือดเสียหายหลายพัน

โดย parichat_p

8 ม.ค. 2566

240 views

หนุ่มไม่ใส่แมสก์ ถือแบงก์พันปลอมซื้อของตามร้านค้า ทำแบบเปิดเผยไม่กลัวถูกจับ สร้างความเดือดร้อนให้ร้านค้า โดนไป 2 ร้าน เสียหายหลายพันบาทขณะมาก่อเหตุกล้องวงจรปิดจับภาพใบหน้าผู้ก่อเหตุได้แบบชัดเจน วอนตำรวจรีบจับเพราะเป็นภัยสังคม


วันนี้ (8 ม.ค. 66) เวลา 14.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับข้อมูลจากเพจ "แจ้งข่าวเตือนภัยระยอง" โพสต์แจ้งเตือนภัย แบงก์พันปลอมระบาด ในเขตพื้นที่ ต.พนานิคม อ.นิคมพัณนา จ.ระยอง โดยผู้ก่อเหตุนำแบงก์พันปลอมมาใช้ซื้อของกับร้านค้าในพื้นที่ ในโพสต์แจ้งเตือนภัยยังลงรูป แบงก์พันปลอมและภาพผู้ที่มาก่อเหตุซึ่งกล้องวงจรปิดจับภาพผู้มาก่อเหตุได้แบบชัดเจนโดยมีร้านค้าโดนไป 2 ร้านเสียหาย ร่วม 4 พันบาท


ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ร้านค้าเกิดเหตุจุดแรก เป็นร้านค้าขายของชำเล็กๆอยู่ริมถนน ซ.8 อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง ผู้สื่อข่าวได้ไปสอบถามข้อมูลจากเจ้าของร้านค้าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่าโดนแบบไหนและทำไมถึงรู้ว่าเป็นแบงก์พันปลอม


นายสุรพงษ์  ใจเที่ยง อายุ 35 ปี เจ้าของร้านค้าให้ข้อมูลว่า วันที่เกิดเหตุนั้นคือช่วงเช้าของวันที่ 7/1/66 ซึ่งขณะคนที่ปรากฎในคลิปเอาแบงก์พันปลอมมาใช้ตนเองไม่ได้อยู่ร้าน ให้ลูกสาวเฝ้าร้านและดูแลร้าน


ผู้ก่อเหตุเข้ามาซื้อน้ำดื่ม 2 ขวดราคา 14 บาท เขาจ่ายแบงก์พันมาลูกสาวจึงทอนไป 986 บาท หลังจากนั้นเขากลับขึ้นรถไป เขาก็เดินลงมาอีกรอบ เอาแบงก์พันปลอมมาแลกแบงก์ย่อย อีก 1 พัน ลูกสาวก็ให้แลกไป จนประมาณ  4 โมงเย็น มีเซลล์ขายส่งนำสินค้ามาลงที่ร้านตนเองจึงเตรียมนับเงินเพื่อจ่ายค่าสินค้า ตอนที่นับเงินนี่แหละได้ไปสัมผัสกับแบงค์ปลอมจึงรู้เลยว่าเป็นแบงก์ปลอมเพราะเราจับเงินทุกวันเนื้อกระดาษแบงก์จริงกับแบงก์ปลอมมันต่างกัน ของปลอมมันจะลื่นไม่ติดมือ ของจริงจับแล้วจะไม่ลื่น


จากนั้นตนเองจึงเอาแอลกอฮอล์ฉีดหมึกก็เยิ้มเลยและพอเอาไปส่องกับแสงแดดก็ไม่มีรูปในหลวงขึ้นเป็นลายน้ำและเมื่อแบงก์พันปลอมมารวมกับแบงก์จริงก็ดูไม่ออกเลยว่าอันไหนปลอมอันไหนจริงเพราะหมึกลบกลืนกันไปหมด


สำหรับแบงก์ปลอมที่คนร้ายนำมาก่อเหตุนั้นพบว่าหมายเลขบนแบงก์ไม่ได้พิมพ์เป็นหมายเลขเดียวกัน ต่อมาตนเองได้เปิดคลิปย้อนหลังดูจึงพบว่าช่วงเวลาเกิดเหตุได้มีรถกระบะสีขาวขับมาจากต้นทาง ซ.8 พอมาถึงหน้าร้านเขาก็วกรถมาจอดหน้าร้านใกล้ๆต้นไม้


จากนั้นมีผู้ชายอายุ 20 ต้นๆ รูปร่างผอมสูง ใส่เสื้อสีม่วง สวมกางเกงขายาวสีดำ ใส่สายคล้องคอคล้ายๆที่ห้อยบุหรี่ไฟฟ้า ไม่สวมแแมส เข้ามาในร้าน โดยเขามาซื้อน้ำดื่ม 2 ขวด ราคา 14 บาท จ่ายด้วยแบงค์พันปลอม ลูกสาวทอนไป 986 บาท จากนั้นเขาก็เดินกลับไปที่รถหลังจากนั้นเขาก็ย้อนลงจากรถมาอีกรอบเอาแบงก์พันปลอมมาแลกเป็นแบงก์ย่อยลูกสาวก็ให้แลกไป พอแลกเงินเสร็จเขาก็เดินกลับไปขึ้นรถและขับออกไปมุ่งหน้าต้นทาง ซ.8


ต่อมาตนเองจึงไปแจ้งความไว้ที่ สภ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง และมอบคลิปหลักฐานให้ตำรวจติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วนเพราะเป็นภัยสังคม หลังจากกลับมาจากแจ้งความตนเองจึงโพสต์เตือนไปทางเฟซบุ๊ค


หลังจากโพสต์ไปได้มีร้านค้าที่เป็นญาติกันอยู่บริเวณ หน้าวัดหนองระกำ ซึ่งห่างจากร้านค้าตัวเองไป 3 กิโลเมตร ก็โดนเช่นกันเพราะจำหน้าผู้ก่อเหตุได้และยืนยันว่าเป็นบุคคลคนเดียวกัน จึงโทรสอบถามกันและส่งรูปให้กันดู ผลสรุปใช่บุคคล คนเดียวกันจริงๆ


ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปร้านค้าที่ได้รับความเสียหายจุดที่ 2 อยู่บริเวณ หน้าวัดหนองระกำ ต.พนานิคม อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง เมื่อไปถึงได้ไปพบกับ นางพรนัชชา อายุ 48 ปี เจ้าของร้าน ผู้สื่อข่าวได้เอารูปผู้ก่อเหตุจากจุดแรกให้ดู นางพรนัชชา ดูรูปแล้วก็ยืนยันว่าเป็นคนเดียวกัน


นางพรนัชชา ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ตนเองมาทราบเรื่องเพราะเห็นโพสต์ โดยตอนที่เขามาก่อเหตุนั้น บุคคลที่ปรากฎในคลิป ได้มาซื้อ เครื่องดื่ม 3 ขวด ราคา 36 บาท หลังจากซื้อเขาได้จ่ายแบงก์พันปลอมมา ตนเองก็ทอนเงินไป 964 บาทและเขาก็ออกจากร้านไป


ต่อมาช่วงบ่ายมีเซลล์ร้านค้าส่งมาส่งของที่ร้าน ตนเองจึงนำแบงก์พันปลอมจ่ายให้เซลล์ที่มาส่งของไป จนต่อมามาทราบเรื่องจึงโทรไปบอกเซลล์ว่าแบงก์ที่จ่ายไปเป็นแบงก์ปลอม เซลล์จึงเผาแบงก์ทิ้งและถ่ายรูปตอนเผามาให้ทางไลน์


ซึ่งเงินจำนวน 1 พันบาทนี้ ภายหลังตนก็ได้จ่ายเงินให้เซลล์ไปใหม่ ซึ่งเท่ากับว่าตนเองสูญเงินไป 1,964 บาท นางพรนัชชา ยังมอบคลิปวงจรปิดของที่ร้านให้ผู้สื่อข่าวด้วย ซึ่งเมื่อดูแล้วก็เป็นคนเดียวกับที่ก่อเหตุในจุดแรก


นางพรนัชชา ยังเผยว่า เหตุการณ์นี้ไม่ได้ไปแจ้งความเพราะแบงก์พันปลอม เซลล์ส่งของได้เผาทำลายไปแล้ว ตอนนี้ก็ได้แต่ทำใจและจะระมัดระวังให้มากขึ้น

อย่างไรก็ตามจากเหตุการณ์นี้ มีร้านค้าเสียหายไป 2 ร้าน มูลค่าความเสียหาย ร้านที่ 1 เสียหายไป 1,986 บาท ร้านที่ 2 เสียหายไป 1,964 บาท รวม 2 ร้าน 3,932 บาท ก็ขอฝากตำรวจ สภ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง เร่งติดตามผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีและสอบสวนให้ถึงที่มาของแบงค์ปลอมด้วยจะได้ตัดรากถอนโคนแก๊งมิจฉาชีพกลุ่มนี้ให้หมดไป

แท็กที่เกี่ยวข้อง  แบงก์พันปลอม ,แบงก์ปลอมระบาด

คุณอาจสนใจ

Related News