รวบป้าตีเนียน สวมทะเบียนรถวิ่งผ่าน M-Flow ไม่จ่ายเงินเกือบร้อยครั้ง

จากกรณีนางสิริกร อายุ 62 ปี ได้ไปลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐาน ที่ สภ.เมืองลพบุรี หลังได้รับหนังสือเรียกให้ชำระค่าธรรมเนียมผ่านทางพร้อมค่าปรับ กรณีใช้รถยนต์วิ่งผ่านช่อง M-Flow โดยไม่ชำระค่าผ่านทาง จากกรมทางหลวง ซึ่งรถยนต์ที่กระทำผิดเป็นรถยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นซิตี้ โดยรถของนางสิริกร เป็นรถยี่ห้อ รุ่น และหมายเลขทะเบียนเดียวกัน แต่คนละสี ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามผู้กระทำความผิดตัวจริง มาดำเนินการตามกฎหมายนั้น

หลังทราบเรื่อง พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผบก.ทล. ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.วันชนะ ทิพย์อาสน์ ผกก.8 และ พ.ต.ท.ปรัชญา กัมลาศพิทักษ์ สวญ.ส.ทล.2 กก.8 บก.ทล. ดำเนินการติดตามหาตัวผู้ประทำความผิด เพราะเป็นกรณีทำให้ประชาชนคนอื่นเดือดร้อน และเจตนากระทำผิดกฎหมาย ทำให้ภาครัฐเสียหาย ซึ่งจากการประสานงานกับกรมทางหลวง การตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด รถทะเบียน กฉ 1718 ลพบุรี สีขาว ก็ยังนำออกมาวิ่งผ่านช่อง M-Flow อยู่เรื่อย ๆ และมียอดค้างชำระมากถึง 95 เที่ยว

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2566 เวลาประมาณ 17.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมประกอบด้วย ร.ต.อ.วงประวัตร์ สาธเรศ, ร.ต.อ.ดุลยวัต เกียรติประทุม รอง สว.ส. ทล.2 กก.8 บก.ทล., ด.ต.ศักดิ์ระพี ตุ้ยดา ผบ.หมู่ ส. ทล.2 กก.8 บก.ทล. สามารถสืบทราบเส้นทางการใช้รถคันดังกล่าวได้ จึงได้เฝ้าติดตาม และพบว่าคนขับมีพฤติการณ์เปลี่ยนป้ายทะเบียนเป็นป้าย กฉ 1718 ลพบุรี ที่บริเวณถนนรังสิต-นครนายก ก่อนขึ้น ทล.พ.9 (ถนนกาญจนาภิเษก) วงแหวนตะวันออก

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการติดตามและเมื่อรถคันดังกล่าววิ่งผ่านช่อง M-Flow บริเวร ทล.พ.9 (วงแหวนตะวันออก) มุ่งหน้าบางนา กม.49+500 แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร จึงได้เข้าสกัดจับ และจับกุมตัว น.ส.เนาวรัตน์ อายุ 52 ปี ซึ่งเป็นผู้ขับขี่ กฉ 1718 ลพบุรี สีขาว

จากการสอบปากคำเบื้องต้น น.ส.เนาวรัตน์ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่า ได้ป้ายทะเบียนดังกล่าวมาจากบุคคลอื่น และจะใช้เปลี่ยนก่อนขึ้น ทล.พ.9 เนื่องจากทราบข้อมูลจากคนรู้จักว่า สามารถวิ่งผ่าน M-Flow ได้ฟรี ไม่ต้องเสียค่าผ่านทาง หลังจากกลับบ้านก็จะเปลียนกลับเป็นป้ายทะเบียนเดิม ขอโทษที่ทำให้ผู้เสียหายเดือดร้อน

ทางด้าน นางสิริกร ได้เดินทางมายัง ส.ทล.2 กก.8 บก.ทล. เพื่อให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยระบุว่า ที่ผ่านมาได้รับความเดือดร้อนมาก ทั้งเคยได้รับใบสั่ง หนังสือแจ้งเตือนให้ชำระค่าผ่านทาง จำนวนหลายฉบับ ทั้งที่ตนแทบไม่เคยใช้รถวิ่งออกจากจังหวัดลพบุรี จึงขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ที่สามารถติดตามจับกุมตัวรถคันที่สวมทะเบียนมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาให้ น.ส.เนาวรัตน์ ทราบว่า “ปลอมและใช้เอกสารราชปลอม, หลีกเสี่ยงไม่ชำระค่าธรรมเนียมผ่านทาง, ฝ่าฝืนป้ายจราจร เครื่องหมายจราจร บนทางหลวง, ขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่, ไม่ชำระภาษีประจำปีตามที่กฎหมายกำหนด” นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางชัน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ ระบบการแจ้งเตือนรถสวมทะเบียน หรือรถผิดกฎหมายที่ผ่านช่อง M-Flow อยู่ระหว่างกรมทางหลวงทดสอบและพัฒนาระบบ โดยจะได้มีการประสานข้อมูลกับตำรวจทางหลวงในเรื่องฐานข้อมูลรถผิดกฎหมาย ป้ายทะเบียนเฝ้าระวัง ฯลฯ ซึ่งจะช่วยในการตรวจสอบรถที่ผิดกฎหมายได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในอนาคต