ตร.ไล่ล่าลูกทรพีคว้าปืนยิงแม่ดับคาที่ ไม่พอใจถูกด่า

วันนี้ (23 ตุลาคม 2565) จากกรณี นางประจวบ หวานฉ่ำ อายุ 63 ปี ที่อยู่ 22 หมู่ 5 ต.บ่อไทย อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ ถูกยิงด้วยอาวุธปืน เข้าที่บริเวณหน้าอก กับ แขน จนเสียชีวิตคาที่ โดยเหตุเกิดที่บ้านของผู้ตายเอง ส่วนผู้ลงมือก่อเหตุเป็นลูกชายคนเล็ก ทราบชื่อคือ นายพรมพิทักษ์ อายุ 37 ปี

ซึ่งเมื่อช่วงคืนที่ผ่านมา น้องชาย คือนายพรมพิทักษ์ กับพี่ชาย ได้เกิดทะเลาะกัน ก่อนเรื่องราวลุกลามรุนแรง ผู้เป็นน้องชาย ได้คว้าอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ยิงใส่พี่ชาย 1 นัด แต่กระสุนปืนเกิดด้าน น้องชาย จึงบรรจุกระสุนนัดใหม่ หวังยิงใส่ซ้ำนัดที่ 2 แต่ นางประจวบ อายุ 63 ปี ผู้เป็นแม่ พยายามเข้าห้าม จนเกิดพลาดโดนกระสุนเข้าอย่างจัง เป็นเหตุให้เสียชีวิตคาที่ หลังก่อเหตุ นายพรมพิทักษ์ แก้วเงา อายุ 37 ปี ได้หลบหนีเดินเท้าเข้าป่าท่ามกลางความมืด พร้อมอาวุธปืน มุ่งหน้าขึ้นเชิงเขาหนองไข่น้ำ ในพื้นที่หมู่ 6 บ้านโนนดู่ ต.บ่อไทย อ.หนองไผ่

จนถึงขณะนี้ กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง อาสากู้ภัย และ ชาวบ้าน ยังคงระดมกำลังกันกว่า 60 นาย ออกติดตาม หาตัวผู้ก่อเหตุกันอย่างไม่ลดละ โดยพื้นที่การค้นหา ยังคงปูพรมในพื้นที่ตำบลบ่อไทย และพื้นที่ข้างเคียง โดยข้อมูลที่สืบทราบเบื้องต้น ทำให้เชื่อว่า มือปืนผู้ก่อเหตุ ยังคงอยู่ในพื้นที่ ตำบลบ่อไทย อำเภอหนองไผ่ และจากข้อมูลล่าสุด มีรายงานว่า ผู้ก่อเหตุ ได้แอบย่องกลับมาที่บ้าน เพื่อจะมาขนเสื้อผ้าออกไป ทำให้กำลังเจ้าหน้าที่ ส่วนหนึ่ง ต้องรีบกลับมาที่บ้านหลังเกิดเหตุ แต่สุดท้ายก็ยังไม่พบตัวผู้ก่อเหตุ คาดผู้ก่อเหตุ น่าจะมีการเตรียมเดินทางออกจากพื้นที่

ขณะที่การจัดพิธีงานศพของผู้เสียชีวิต นั้น ทางญาติ ได้นำร่างของผู้ตาย กลับมาบำเพ็ญกุศล ที่วัด โพธิ์เย็น ตำบลบ่อไทย ซึ่งอยู่ใกล้บ้าน โดยบรรยากาศก็เป็นไปด้วยความเศร้าโศก

จากการสอบถาม นายชำนาญ อายุ 47 ปี ลูกชายคู่กรณี เล่าว่า เริ่มแรกเขาถูกแม่ด่าก่อน โดยแม่ได้ถามว่าทำไมไม่ไปทำงาน ซึ่งน้องชายก็บอก ให้ตนไปหาเงินใช้มาจ่ายค่ารถ ถ้าวันนี้หาเงินไม่ได้จะยิง เท่านั้นแหละ ซึ่งตนเองก็บอกว่าให้เขามารับคนเองไปทำงานก่อน ทำให้น้องชายไม่พอใจ ควักปืนออกมายิง แต่ลูกปืนด้าน น้องชายก็หันปืนออก ตนเองก็หลบไปหลังบ้าน จากนั้นแม่ก็พูดว่า งั้นมายิงแม่ยิงให้หมดเลย เท่านั้นแหละ น้องชายก็นั่งคุกเข่า ก่อนจะหันปืนยิงใส่แม่ ซึ่งตอนนั้น แม่ยังไม่ตาย ตนเองก็โทรตามหาคนให้มาช่วย และโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่สุดท้ายก็ไม่ทัน

ขณะที่ นางเพ็ญ (สงวนชื่อ นามสกุล ) อายุ 64 ปี เพื่อนบ้าน เล่าว่า เมื่อวานนี้ช่วงเที่ยงๆ คนตายเขาผ่านมา แล้วเรียกใส่ตนว่า ไปงานแห่กฐินไหม ตนเองก็ปฏิเสธว่าไม่ไป โดยไม่มีลางบอกเหตุร้ายใดๆ โดยมีการพูดคุยกันปกติ ก่อนมาทราบอีกทีว่าถูกลูกชายยิงตาย ก็ตกใจมาก ไม่คาดคิดว่าลูกจะฆ่าแม่ได้ เห็นแต่ข่าวที่อื่น มาเจอคนบ้านเดียวกันก็ตกใจ จึงอยากให้คนก่อเหตุมามอบตัว โดยที่ผ่านมา คนก่อเหตุก็พบว่ามีนิสัยดี ทำมาหากิน อาชีพรับเหมาต่อเติมบ้าน ไม่คิดว่าจะมาก่อเหตุรุนแรงขนาดนี้

ด้าน นายตรี (นามสมมุติ) เพื่อนบ้าน ซึ่งยังคงรู้สึกหวาดกลัว และ รู้สึกระแวง เล่าว่า อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตำรวจ จับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้เร็วๆ เนื่องจากผู้ก่อเหตุมีอาวุธปืน โดยเปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุตนอยู่ภายในบ้านได้ยินเสียงคนในบ้านที่เกิดเหตุทะเลาะกันเสียงดัง แต่ก็เป็นปกติของบ้านหลังดังกล่าวที่กินเหล้าเมาแล้วมักจะทะเลาะกันเป็นประจำ ต่อมาก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น

โดนนัดแรก กับนัดที่ 2 ห่างกัน ประมาณ 20-25นาที แล้วเสียงผู้ตายก็เงียบไป แต่ตนไม่กล้าออกไปดูเพราะกลัว จนกระทั่งได้ยินเสียงรถกู้ภัยฯ เข้ามาที่บ้านเกิดเหตุ หลานเลยตะโกนบอกตนให้ออกไปดูยายผู้ตายว่าเป็นอย่างไรบ้างซึ่งตอนนั้นยังไม่รู้ว่าผู้ตายเสียชีวิตแล้ว ส่วนผู้ก่อเหตุตนเห็นเดินผ่านหน้าบ้านของตนไป คาดว่าเดินหนีขึ้นไปบนเขา ซึ่งตอนนั้นยังไม่รู้ว่าผู้ก่อเหตุได้ยิงผู้ตายเสียชีวิตแล้ว และพูดอะไรไม่รู้เรื่องซึ่งตนคิดว่าแค่เมา ไม่คิดว่าจะการทะเลาะกันครั้งนี้จะมีคนตาย จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้เร็วๆ ประหารชีวิตได้ยิ่งดีเพราะถึงขั้นฆ่าบุพการีได้ ถือว่าเป็นบุคคลที่อันตรายมาก