บุกรวบ "คม บ่อวิน" มือทำปืนไทยประดิษฐ์

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รรท.ผบก.ทล., พ.ต.อ.ศษณรรฐ รัตนเศวตรวงศ์ ผกก.3 บก.ทล., พ.ต.ท.ตุลยวัต เมืองทอง รอง ผกก.3 บก.ทล, พ.ต.ท.พิชยะพัศ อยู่เย็นศิริ รอง ผกก.3 บก.ทล., พ.ต.ต.นรบดี ดวงจิตต์ สว.ส.ทล.2 กก.3 บก.ทล.  

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ร.ต.อ.ภิเชศ นาเมืองรักษ์ รอง สว.ฯ, ร.ต.ท.ภาสพงศ์ แพงคำ รอง สว.(ป.), ด.ต.ธีระ สมหวัง, ด.ต.นฤเบศร์ สุริยนต์, ด.ต.ศรัณย์พงศ์ เปี่ยมทอง, จ.ส.ต.ฉัตรชัย จิตรถวิล, ส.ต.อ.คมกริช นกแก้ว, ส.ต.อ.เกียรติสถาพร กฐินเทศ, ส.ต.อ.พีระพล นิลเนตร ผบ.หมู่ ส.ทล.2 กก.3 บก.ทล.

ร่วมกันจับกุม นายอาคมฯ อายุ 38 ปี โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน มีอาวุธปืนไว้ครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตพร้อมตรวจยึดของกลาง 

1. ปืนพกสั้นประดิษฐ์ ขนาด .380

2. ซองบรรจุกระสุน 1 อัน (แมกกาซีน) ขนาด .380

3. ลำกล้องปืน 2 อัน

สถานที่จับกุม บ้านหลังหนึ่ง หมู่ที่ 7 ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โดยมีพฤติการณ์ ตามหมายค้นศาลอาญา ที่ 1181/2566 ลงวันที่ 7 เดือน ตุลาคม พ.ศ.2566 มอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงชุดตรวจค้น เข้าค้นบ้านหลังหนึ่ง หมู่ 7 ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โดยมี นางจันทร์ยาฯ เป็นเจ้าของบ้าน พนักงานเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวได้พบ นายอาคมฯ ซึ่งเป็นลูกบ้าน และนางจันทร์ยาฯ ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน พนักงานเจ้าหน้าที่ได้แสดงตัว และหมายค้นพร้อมอ่านหมายค้นต่อ นายอาคมฯ เข้าใจวัตถุประสงค์ของพนักงานเจ้าหน้าที่แล้ว จึงเป็นผู้นำทำการตรวจค้น

ซึ่งก่อนลงมือทำการตรวจค้นพนักงานเจ้าหน้าที่ทุกคนได้แสดงความบริสุทธิ์ให้ นายอาคมฯ ดูเป็นที่พอใจแล้ว จึงเริ่มทำการตรวจค้น นายอาคมฯ และนางจันทร์ยาฯ จึงนำตรวจค้นภายในบ้านและห้องต่างๆ จนถึงห้องใต้บันได พบปืนพกสั้นประดิษฐ์

พร้อมซองบรรจุกระสุน 1 อัน (แมกกาซีน) ขนาด .380 อยู่ในกล่องโฟมและลำกล้องปืน 2 อัน พิงผนังอยู่ภายในห้อง จึงสอบถามนายอาคมฯว่าเป็นของผู้ใด นายอาคมฯ รับว่าเป็นของตน จึงแจ้งข้อกล่าวหา

ให้ผู้ถูกจับกุมทราบว่ากระทำผิดฐาน มีอาวุธปืนไว้ครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงได้นำตัวมาทำบันทึกจับกุมที่หน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงเขาคันทรง และนำส่ง พงส.สภ.บ่อวิน เพื่อดำเนินคดี ตามกฎหมายต่อไป

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น รับสารภาพ คำให้การอื่นๆ ผู้ต้องหาได้ให้การเบื้องต้นว่าได้ซื้ออุปกรณ์ประดิษฐ์ปืนมาจากกลุ่มไลน์ และเฟซบุ๊ก มาทำปืนไว้ใช้เอง และมีทำให้กลุ่มเพื่อนใช้เตือนภัย การมีปืนไทยประดิษฐ์ไว้ในครอบครอง เป็นปืนเถื่อน ผิดกฎหมาย จำคุก 1-10 ปี ปรับตั้งแต่ 2,000 - 20,000 บาท ผู้ที่ถูกจับเรื่องการพกพาปืนไทยประดิษฐ์มักได้รับแจ้งข้อกล่าวหา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต