สังคม

รวบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ปลอมเป็นตำรวจ - DHL หลอกเหยื่อโอนเงิน เสียหายกว่า 14 ล้านบาท

โดย sujira_s

16 มี.ค. 2565

769 views

ตำรวจนครบาล จับแก๊งคอลเซนเตอร์ อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตํารวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ สภ.แหลมฉบัง และ พนักงานบริษัทขนส่ง DHL หลอกผู้เสียหายโอนเงิน มูลค่าความเสียหายกว่า 14 ล้านบาท


พลตำรวจโท สําราญ นวลมา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงผลการจับกุมตัวผู้ต้องหาเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงประชาชน 4 คน ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่น” คือ นายยงยุทธฯ อายุ 37 ปี ,นายธีรพงศ์ฯ อายุ 21 ปี ,นางเพ็ญอนงค์ฯ อายุ 61 ปี และนางสาว นันทวันฯ อายุ 21 ปี



หลังกองกำกับการสืบสวนกองบังคับการตำรวจนครบาล 8 ได้รับการประสานจากชุดสืบสวนสอบสวนสน. สำเหร่ ว่า มีผู้เสียหายมาแจ้งความเมื่อกลางเดือนพฤศจิกายน 2564 ว่า ได้รับการติดต่อจากคนร้ายโดยอ้างว่าเป็นพนักงานบริษัท ขนส่ง DHL สาขาแหลมฉบัง บอกว่ามีพัสดุที่ผู้เสียหายเป็นผู้ส่งไปยังประเทศจีน ให้กับชาวจีน พัสดุดังกล่าวถูกอายัดไว้ที่ศุลกากรสาขาแหลมฉบัง และขู่ว่าจะดำเนินคดี เนื่องจากพบหนังสือเดินทางปลอม 12 เล่ม ,สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารต่างๆ 9 เล่ม ,บัตรเอทีเอ็ม 9 ใบ


นอกจากนี้ ยังมีการแจ้งรายละเอียดต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับผู้เสียหายอย่างละเอียด เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ แต่ผู้เสียหายก็ยังไม่ปักใจเชื่อและปฏิเสธเรื่องดังกล่าวว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง จากนั้นคนร้ายได้โอนสายให้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจยศพันตำรวจโท สังกัด สภ. แหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี เพื่อแจ้งความและให้ทาง สภ.แหลมฉบังตรวจสอบกล้องวงจรปิด ที่ DHL สาขาแหลมฉบัง แต่คนร้ายที่อ้างเป็นพันตำรวจโท กลับหลอกซ้ำว่าผู้เสียหายไปเกี่ยวข้องกับบุคคลดังกล่าวจริงและมีประวัติเรื่องการฟอกเงิน เนื่องจากมีผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ก่อนหน้านี้ในพื้นที่สภ. เมืองเชียงใหม่ให้การซัดทอด ซึ่งผู้เสียหายก็ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง จึงถูกโอนสายผู้เสียหายไปหาคนร้ายอีก 1 คนซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสภเมืองเชียงใหม่ ยศพันตำรวจเอก


โดยคนร้ายได้ขอไอดีไลน์ของผู้เสียหาย และได้โทรไลน์มาหา และหลอกลวงผู้เสียหายว่า ต้องตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้เสียหาย ขอให้ผู้เสียหายโอนเงินที่มีอยู่ในบัญชีธนาคารทั้งหมดไปให้ตรวจสอบ เมื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินเรียบร้อยแล้ว ก็จะโอนเงินคืนกับมาให้ผู้เสียหาย ภายใน 1 วัน ผู้เสียหายหลงเชื่อและหวาดกลัวต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงได้โอนเงินไปเข้าบัญชีคนร้าย 14 ล้าน 7 แสนบาท ภายใน 1 ชั่วโมงหลังจากได้รับโทรศัพท์ แต่กลับไม่ได้เงินคืนตามเวลาที่กำหนด จึงเข้าแจ้งความ


ตํารวจชุดสืบสวนสอบสวน จึงได้ทําการสืบสวนขยายผล พบว่าแก็งคอลเซ็นเตอร์นี้ มีผู้ร่วมกระทําความผิด จํานวน 12 คน จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานส่งให้พนักงานสอบสวน สน.สําเหร่ ขอศาลออกหมายจับ และสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ 4 คน พร้อมทั้งยึดเงินคืนมาได้ 1.8 ล้านบาทเศษ และส่งคืนให้แก่ผู้เสียหาย ส่วนผู้ต้องหาคนอื่นอยู่ระหว่างติดตามตัวมาดําเนินคดีตามกฎหมาย


ด้านพลตำรวจตรีโชคชัยงามวงศ์รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเปิดเผยว่า คดีนี้จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดในแก๊งเป็นคนไทย มีการตั้งฐานการหลอกลวงอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน โดยผู้ต้องหา 4 คนที่สามารถจับกุมได้ทำหน้าที่เป็นคนเปิดบัญชีม้า รับโอนเงินจากผู้เสียหายในชุดที่ 1 ซึ่งผู้เสียหายมีการโอนเงินไปยังบัญชีของคนร้ายถ้าบัญชีใน 5 ธนาคาร โดยเป็นลักษณะการโอนเงินเป็นก้อนมูลค่าไม่เท่ากัน ซึ่งหลังจากเกิดเหตุผู้เสียหายรู้ตัวเร็วว่าถูกหลอกจึงรีบแจ้งให้พนักงานสอบสวนสน. สำเหร่แจ้งอายัดบัญชีดังกล่าวทั้ง 5 บัญชี แต่ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบบัญชีทั้งหมดพบว่ามีการโอนเงินออกจากบัญชีส่งไปยังต่างประเทศแล้ว เหลือเพียง 1 บัญชีที่ยังมีเงินค้างอยู่จึงรีบทำเรื่องอายัดและนำเงินกลับมาคืนผู้เสียหายได้อย่างทันท่วงที



จากการตรวจสอบข้อมูลการหลอกลวงของคนร้ายและรายละเอียดต่างๆ เชื่อว่าเป็นกลุ่มแก๊งที่หลอกลวงผู้เสียหายรายอื่นๆ มาแล้วหลายครั้ง ซึ่งหลังจากนี้จะเร่งติดตามตัวผู้ต้องหาอีก 8 คนที่เหลือมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด

คุณอาจสนใจ

Related News