สนามกรุงเทพฯ วุ่น ผู้สมัครสว. ขอนับคะแนนใหม่ไม่สำเร็จ ล่าสุดยื่นฟ้องกกต.แล้ว

สำหรับการเลือกสมาชิกวุฒิสภากรุงเทพมหานคร มีผู้สมัครมากที่สุด และมีการประท้วงมากที่สุด ทำให้การเลือกล่าช้ากว่าทุกจังหวัด มีผู้ผ่านเข้ารอบ 40 คน จาก 20 คน โดยบุคคลมีชื่อเสียงส่วนมากตกรอบแรก มีบางราย เตรียมยื่นร้องคัดค้านการเลือกที่มองว่าไม่เป็นธรรมและอาจเป็นเหตุให้โมฆะได้


การเลือกสมาชิกวุฒิสภา กรุงเทพมหานคร เสร็จสิ้นเมื่อเวลา 19.00 น. ถือว่าช้าที่สุด แพทย์หญิง วันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร ในฐานะประธานกรรมการเลือกระดับจังหวัด เปิดเผยว่า เหตุที่การเลือกล่าช้า เพราะมีการประท้วงในการเลือกรอบแรก ของกลุ่ม 2 เนื่องจากมีคะแนนเท่ากัน จะต้องจับสลาก แต่ผู้สมัคร 3 ราย ไม่ยินยอม และเรียกร้องให้ กกต.นับคะแนนใหม่ แต่กกต.เห็นว่าถูกต้องแล้ว ทำให้เสียเวลากว่า 2 ชั่วโมง ต้องหาข้อยุติด้วยการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเชิญผู้สมัคร 3 ราย ออกจากห้อง ซึ่งผู้สมัครได้ยื่นฟ้อง กกต.ฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 ที่สน.ทุ่งสองห้องแล้ว โดยทาง กกต.กทม. ก็พร้อมให้ดำเนินการตามกฏหมาย เพราะได้วินิจฉัยไปตามพยานหลักฐานแล้ว


โดยการในการเลือกรอบแรง เนื่องจากกรุงเทพมหานครมีผู้สมัครมากถึง 1,634 คน ใน 20 กลุ่มอาชีพ ซึ่งในรอบแรกจะผ่านเข้ารอบเพียง กลุ่มละ 5 คน จำนวน 100 คน เท่านั้น ทำให้มีผู้ตกรอบ 1,564 คน รวมถึงที่ถูกตัดสิทธิ์เพราะมารายงานตัวไม่ทัน ซึ่งพบว่ามีบุคคลที่มีชื่อเสียงหลายคนตกรอบ เช่น นายสมชัย ศรีสุทธิยากร นายสนธิญา สวัสดี ซึ่งมองว่าระบบการเลือก สว.ทำให้เกิดความเท่าเทียมได้ยาก และหวังว่าในระดับประเทศจะไม่มีเห็นการฮั้วหรือการบล็อกโหวต ขณะที่ นายสันธนะ ประยูรรัตน์ ตกรอบแรก จะมีการร้องคัดค้านในกลุ่มที่ 20 และเห็นว่าการเลือกสว.มีปัญหา ที่ควรให้เป็นโมฆะ


ขณะที่นายแพทย์ เหรียญทอง แน่นหนา สละสิทธิ์ในการเลือกรอบแรกของกลุ่ม 4 เพราะมีคะแนนเท่ากันต้องจับสลาก จึงให้โอกาสบุคคลที่เหมาะสมกว่า


ส่วนการเลือกในรอบที่ 2 หลังจากมีการแบ่งสายเป็น 4 สาย พบว่าในสาย ง.มีการประท้วงระหว่างการลงคะแนน ทำให้เสียเวลาไปเกือบชั่วโมง สามารถลงคะแนนและนับคะแนนอย่างเรียบร้อย ซึ่งทางประธานการเลือกระบุว่า มีผู้ร้องว่ามีการฮั้ว แต่ไม่พบหลักฐาน จึงต้องให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จ ซึ่งสามารถไปร้องเรียนต่อ กกต.ได้ในภายหลัง โดยผลการเลือกสว.กรุงเทพมหานคร มีผู้ผ่านเข้ารอบ 40 คน ใน 20 กลุ่ม โดยสาย ง. มีผู้ผ่านเข้ารอบใน กลุ่ม 1 นายกฤษฎา เปี่ยมพงศ์สานต์ พลตำรวจตรี อรรถวิทย์ สายสืบ กลุ่ม 14 ที่เป็นกลุ่มสตรี มี นางสาวสุภาภรณ์ อัษฎมงคล และนางสาวสุกัญญา ประจวบเหมาะ ส่วนสาย ค.มีผู้ผ่านเข้ารอบ เช่น กลุ่ม 3 นายพิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ นางฉันทนา หวันแก้ว กลุ่ม 4 นายไพโรจน์ บุญศิริคำชัย นางสาววิธาวีร์ ประทุมสวัสดิ์ กลุ่ม 17 นางแสงศิริ ตรีมรรคา และนางอังคณา นีละไพจิตร ขณะที่ครูประที อึ้งทรงธรรม ฮาตะ และ นางรสนา โตสิตระกูล ตกรอบ โดยเห็นว่าการเลือกสว.ไม่ได้ยึดโยงกับประชาชนจริง


ส่วนสาย ข.มีผู้ผ่านเข้ารอบที่น่าสนใจ เช่น กลุ่ม 16 มีนางสาวภาวิณี สมรรคบุตร และนางสาว ดุจดาว วัฒนปกรณ์ และกลุ่ม 18 สื่อมวลชน มีนางสาวนันทนา นันทวโรภาส และนางสาวอัจฉรา อัชฌายกชาติ ส่วนกลุ่ม 20 มีนายธรรมนูญ ซึมโรจน์ประเสริฐ และนายวราวุธ ตีระนันท์ ขณะที่นายวรัญชัย โชคชนะ ตกรอบสอง ส่วนสาย ก.ที่เข้ารอบ เช่นกลุ่ม 7 นายแล ดิลกวิทยรัตน์ และนายวีรเวท วงษ์กิจบัญชา ส่วนคนดังที่ตกรอบสอง ยังมี นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ด้วย