เปิดหลักฐานภาพ บริษัท วินโพรเสส ลอบปล่อย-ฝังกลบสารเคมีอันตราย

ตำรวจแจ้งความเอาผิดนายโอภาส บุญจันทร์ กรรมการบริษัทวินโพรเสส จ.ระยอง ในหลายฐานความผิดที่แตกต่างกันแล้ว วันนี้ข่าว 3 มิติ ได้รับข้อมูลมาอย่างน้อย 2 แหล่ง แต่เป็นเรื่องเดียวกันและค่อนข้างตรงกัน นั่นคือเคยมีการฝังกลบกากสารเคมี ที่เชื่อได้ว่าเป็นกรดเข้มข้น ลงในบ่อดินภายในโรงงานวินโพรเสส จ.ระยอง แล้วมีการฝังกลบไว้ นี่อาจเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้บ่อดินรูปตัวแอล (L) ที่ขุดขึ้นใหม่ มีน้ำสารเคมีข้มข้นไหลซึมอยู่ไม่หยุด


บ่อดินที่อบจ.ระยองขึ้นใหม่ เพื่อรองรับน้ำฝนที่จะชะล้างสารเคมี ในโรงงานวินโพรเสส กลับกลายเป็นว่ามีน้ำเสียปนเปื้อนสารเคมี สีดำเข้มข้นไหลซึมออกจากพื้นดินไม่หยุด เห็นชัดเจนว่าเป็นการใต้ผืนดินที่ขุดออก ไม่ใช่การไหลจากน้ำฝนชะล้างลงเท่านั้น


การไหลซึมของน้ำปนเปื้อนสารเคมีทำให้เจ้าหน้าที่เชื่อว่า ที่ผ่านมาไม่ใช่แค่เพียงการลักลอบเท สารเคมีลงน้ำดินที่เรียกว่ บ่อ 1 เท่านั้น แต่น่าจะมีการฝังลงในดินที่จุดอื่นแล้วฝังกลบไว้


และนี่คือภาพหลักฐานที่ข่าว 3 มิติได้รับ แม้ว่าจะไม่ใช่ภาพใหม่และเชื่อว่ามีผู้เกี่ยวข้องหลายคนทั้งในชุมชน และนอกชุมชนหนองพะวา เคยมีภาพเหล่านี้มาแล้ว แต่ด้วยอำนาจและอิทธิพลหรือความกลัว อาจทำให้ภาพเหล่านี้ไม่ปรากฎต่อสาธารณชนมากนัก และทีมข่าว 3 มิติ ก็ตรวจสอบจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ถึง 2 แหล่ง ก็ยืนยันตรงกันว่า บริเวณนี้เดิมมีบ่อดิน อยู่ใกล้กับที่ตั้งของสำนักงานวินโพรเสส เป็นลานโล่งกว้างระหว่างโกดังหลังที่ 1และ 2 แต่อยู่ชิดขอบเขตแดน ใกล้กับที่ดินของชาวบ้าน


ภาพที่ปรากฎทำให้เชื่อได้ว่ามีการเทสารเคมีโดยเฉพาะกรดเข้มข้นแล้วฝังกลบดินลงทับไว้ที่ แต่จากภาพเหล่านี้ ยังมีพอมีจุดให้อ้างอิงได้


ส่วนนี้คือคลิปภาพเมื่อปี 2563 หลังจากบ่อที่ลักลอบฝังกลบดังกล่าวเกิดการรั่วซึม และน้ำเสียสารเคมีไหลออกจากที่ดิน ไปปนเปื้อนที่ดินของชาวบ้าน จึงเกิดการร้องเรียนให้โรงงานแก้ไข ปัญหาให้โดยด่วน โดยมีการนำรถแบคโฮ มาทำคันดินกั้นแนวการไหลของน้ำไว้ ไม่ให้น้ำผิวดินไหลไปปนเปื้อนพื้นที่รอบข้าง


ขณะนั้นปรากฎภายชายสวมเสื้อกล้าม สีฟ้าคนนี้ คือนายโอภาส บุญจันทร์ เจ้าของวินโพรเสส ยืนอยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย


ภาพการฝังกลบสารเคมีดังกล่าว ทำให้เชื่อว่าได้ว่าอาจะเป็นหนึ่งในต้นทางหรือสาเหตุของน้ำปนเปื้อนสารเคมีที่รั่วไหลลงบ่อที่ขุดใหม่


ที่จริงหลังจากเกิดเพลิงไหม้เมื่อ 22 เมษายนนั้น ในวันที่ 27 เมษายน ข่าว 3 มิติ เดินสำรวจบริเวณนี้มาแล้ว เพราะได้ข้อมูลที่เป็นเพียงคำบอกเล่าว่าเคยมีการฝังกลบกากสารเคมีไว้บริเวณนั้นจำนวนมาก ซึ่งทีมข่าวเดินสำรวจพบว่าเป็นดินที่ฝังกลบจนแข็ง และมีวัชพืชขึ้นรกทึบ แต่ในจุดที่ถูกเพลิงไหม้ไปแล้ว ก็พบร่องรอยเศษเหล็ก คือถังขนาด 200 ลิตร วางเกลื่อนพื้นที่ผิวดินเช่นกัน


อย่างไรก็ตาม สภาพพื้นที่ล่าสุดของบริเวณนั้น ณ วันนี้ ถูกใช้เป็นที่พักกองดินปนเปื้อนสารเคมี ที่ถูกขุดขึ้นมาจากบ่อใหม่ หรือบ่อรูปตัวแอล ทำให้การจะเข้าไปขุดเจาะสำรวจเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงนี้ ต้องเพิ่มความพยายามขึ้นอีก นั่นคือต้องตักหรือเกลี่ยะหน้าดินที่ทับถมบริเวณที่สงสยนี้ออก จึงจะขุดเจาะสำรวจได้


พรุ่งนี้พลตำรวจโทชัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ได้รับมอบหมายให้ติดตามการทิ้งกากสารเคมี และเพลิงไหม้กากสารเคมี จะไปตรวจพื้นที่อำเภออุทัย และภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา ในวันพรุ่งนี้เช้า จากนั้น 13 นาฬิกา จะมุ่งหน้าไปที่ โรงงานวินโพรเสส จ.ระยอง เพื่อติดตามความคืบหน้าในหลายประเด็นที่นั่น รวมถึงติดตามการขุดเจาะสำรวจดูว่ามีการลักลอบฝังกลบกากสารเคมีไว้ตามเบาะแสหรือไม่