สังคม

ศาลสั่งโอนเงิน 4.9 ล้าน ให้กรมโรงงานฯ แก้วินโพรเสส ด้านผลตรวจสุขภาพชาวบ้านพบปอดผิดปกติ 6 คน

โดย parichat_p

23 พ.ค. 2567

71 views

ศาลจังหวัดระยอง มีคำสั่งให้โอนเงินจำนวน 4 ล้าน 9 แสนบาท ที่บริษัทวินโพรเสส ในฐานะจำเลยวางไว้ที่ศาล เพื่อโอนเข้าบัญชีนอกงบประมาณของกรมโรงงานอุตสาหกรรม สำหรับใช้แก้ปัญหาเร่งด่วน หลังจากเกิดเพลิงไหม้วินโพรเสส เมื่อ 1 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งการไต่สวนวันนี้จำเลยไม่คัดค้านแผนงานกำจัด แต่คัดค้านการโอนเงินให้กรมฯ ไปดำเนิน การ ศาลจึงให้ยื่นอุทธรณ์ภายใน 30 วัน ขณะที่ผลการตรวจสุขภาพเบื้องต้น ของชาวบ้านหนองพะวา พบว่ามี 6 คน ที่พบปอดผิดปกติ เตรียมส่งตรวจเพื่อหาสาเหตุอย่างละเอียด


วันนี้ชาวบ้านหนองพะวา และหมู่บ้านข้างเคียง ที่ได้รับผลกระทบจากควัน และกลิ่นเหม็นฉุนจากเหตุเพลิงไหม้โรงงานวินโพรเสส ประมาณ 200 คน ไปฟังผลการตรวจเลือด และผลเอกซเรย์ทรวงอก ที่โรงพยาบาลบ้านค่าย และโรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ไปให้บริการตรวจเมื่อวันที่ 21พฤษภาคม ที่ผ่านมา


นายแพทย์ภาณุวัฒน์ มุกดาสนิท ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบ้านค่าย ระบุว่าผลการตรวจที่แจ้งวันนี้ประกอบด้วย ผลตรวจเอกซเรย์ทรวงอก /เม็ดเลือด /การทำงานของตับ-ไต ที่ตรวจไปแล้ว 220 คน พบว่าส่วนใหญ่มีค่าปกติ แต่มี 6 คน ที่ผลเอกซเรย์ปอดผิดปกติ คือมีผังผืดในปอด แต่ไม่มีร่องรอยที่เป็นอันตรายรุนแรง // ส่วนผลตรวจเลือด พบเลือดซีด ไตเสื่อมในผู้สูงอายุ ซึ่งอาจจะเกิดสารเคมีก็ได้ หรือโรคประจำตัว เบาหวาน ความดัน การดื่มแอลกอฮอล์ทำให้ไตเสื่อมได้


นายแพทย์ภาณุวัฒน์ ระบุว่าจะแจ้งตรวจเพื่อติดตามอาการคนไข้ต่อไป โดยในชาวบ้านที่พบการบ่งชี้ว่ามีสารปนเปื้อนในร่างกายนั้น ขึ้นอยู่กับว่ามีประวัติสัมผัสใกล้ชิด สารเคมีหรือไม่ นอกจากนี้ ก็ยังไม่สามารถ ตรวจหาสารเคมีปนเปื้อนได้จากการตรวจเลือด และปัสสาวะ แต่ส่วนใหญ่เป็นการสัมผัสผ่านการหายใจ และผิวหนัง



วันนี้ภายในโรงงานวินโพรเสส ไม่มีการทำงานของเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวกับกากอลูมิเนียม ดรอสโดยพบว่ามีกากสารเคมีชนิดนี้บางส่วนส่วนอยู่ในถุงบิ๊กแบ๊ก และบางส่วนยังกองไว้ ในโกดัง หลังที่ 3


ส่วนกากสารเคมีประเภท กรดกัดแก้วที่ผ่านการกำจัดหรือปรับสภาพแล้วนั้น วันนี้มีการเคลื่อนย้ายอีกเป็นครั้งที่ 2 เพื่อนำไปกำจัดในโรงงานปูนซีเมนต์ ที่อำเภอหมวกเหล็ก จ.สระบุรี โดยกรดกัดแก้วในโกดังโรงงานวินโพรเสส มีประมาณ 400 ตัน ขนย้ายครั้งแรกประมาณ 30 ตัน และครั้งนี้ 17 ตัน รวมกรดกัดแก้วที่ขนย้ายออกไปแล้ว 47 ตัน และวันพรุ่งนี้จะมีรถบรรทุกมาขนย้ายอีก 2 คัน


วันนี้ศาลจังหวัดระยองนัดไต่สวน กรมโรงงานอุตสาหกรรม กับบริษัทวิน โพรเสส กรณีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ขอใช้เงินจำนวน 4 ล้าน 9 แสนบาท ของบริษัทวิน โพรเสส ที่เหลืออยู่ จากการวางไว้ที่ศาลจังหวัดระยอง เพื่อมาแก้ปัญหาขนย้ายสารเคมีเร่งด่วน หลังจากเกิดเพลิงไหม้ โดยกรมโรงงานอุตสาหกรรมเสนอแผนงานให้ศาลพิจารณาแล้ว และปรากฎว่าบริษัทวินโพรเสส ในฐานะจำเลยเห็นด้วยในแผนการจัดการแก้ปัญหา แต่ไม่ประสงค์ให้โอนเงินเข้าบัญชีกรมโรงงาน ฯ และประสงค์ให้กรมโรงงานฯขอเบิกเงินเป็นงวดๆ ตามการทำงาน จากศาล


อย่างไรก็ตาม ศาลพิเคราะห์แล้ว เห็นว่าการการที่ศาลมีคำพิพากษาให้ริบของกลางทั้งหมด แล้วส่งมอบให้กรมโรงงานฯดำเนินการโดยให้จำเลยชำระค่าใช้จ่าย และจำเลยนำเงินกว่า 10 ล้านมาวางไว้ที่ศาลก่อนหน้านั้น แสดงให้เห็นว่าจำเลยมีเจตนาให้กรมฯหรือหน่วยงาน รับผิดชอบกำจัดกากเคมีตั้งแต่ต้น ซึ่งการจะแก้ปัญหากากสารเคมี ที่มีกว่า 3 หมื่นตัน ต้องใช้งบประมาณกว่า 340 ล้านบาท ไม่รวมการลักลอบทิ้งลงใต้ดิน ซึ่งการที่โจทก์ จะนำเงินก้อนที่เหลืออยู่ 4 ล้าน 9 แสนบาทไปดำเนินการ จึงเป็นเงินที่โจทก์มีสิทธิ์รับไปจากศาล เพื่อแก้ปัญหาเร่งด่วน


ศาล จึงมีคำสั่งให้โอนเงินจำนวน 4 ล้าน 9 แสนบาท เข้าบัญชีเงินนอกงบประมาณของกรมโรงงานอุตสาหกรรม แต่ไม่ตัดสิทธิจำเลยที่จะอุทธรณ์ได้ภายใน 30 วัน และหากมีการอุทธรณ์ การพิจารณากรณีดังกล่าวก็จะเข้าสู่ขั้นตอนของศาลอุทธรณ์ต่อไป.


ส่วนอีกหนึ่งความคืบหน้า คือกรณีโกดังเก็บกากสารเคมีในอำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งถูกเพลิงไหม้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม วันนี้ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน พร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและชุดกู้ภัย จัดทีมเข้าไปสำรวจโกดังหลังที่ 3-4- และ 5 เพื่อดูความเป็นไปได้ในการเข้าไปเก็บหลักฐาน หาสาเหตุเพลิงไหม้ แต่การเข้าพื้นที่วันนี้ ยังเข้าไปเก็บหลักฐานด้านในของโกดังไม่ได้ เนื่องจากโครงสร้างหลังคาไม่ปลอดภัย และสารเคมีที่กระจัดกระจายอยู่ ยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตราย


เบื้องต้น เจ้าหน้าที่เข้าไปบันทึกภาพด้านในโกดัง เพื่อนำมาวิเคราะห์ ทั้งพยานหลักฐานเบื้องต้น และวิเคราะห์ทิศทางที่จะเข้าไปเก็บหลักฐานอย่างปลอดภัย โดยจะกำหนดนัดวันเข้าไปเก็บหลักฐานอีกครั้งในภายหลัง

คุณอาจสนใจ

Related News