สังคม

ศาลสั่งกรมโรงงานฯ ใช้เงิน 4.9 ล้าน เร่งแก้ปัญหาสารเคมีโรงงานระยอง

โดย panwilai_c

7 พ.ค. 2567

50 views

เกาะติดปัญหากากขยะอุตสาหกรรม และสารเคมี ที่ส่งผลกระทบกับประชาชน โดยเฉพาะที่จังหวัดระยอง วันนี้ศาลจังหวัดระยอง มีคำสั่งให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม เข้าไปแก้ไขปัญหากากสารเคมีในโรงงานวิน โพรเสส จ.ระยอง แทนจำเลยได้ทันที ด้วยเงินของจำเลยที่วางไว้ที่ศาลประมาณ 4 ล้าน 9 แสนบาท โดยให้กรมฯทำแผนงานแก้ปัญหา เสนอให้ศาลพิจารณาก่อนอนุมัติโอนเงินให้กรมฯ



ขณะที่อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ระบุว่าจะเร่งทำแผน แก้ปัญหาเฉพะหน้า เสนอศาลภายใน 10 วัน และภารกิจแรกๆคือนำกากสารเคมีกลุ่มไวไฟ น้ำมันเครื่อง น้ำกรด และกลุ่มที่เป็นอลูมิเนียม ดรอส ออกจากโรงงานก่อน



อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เข้าแถลงศาลจังหวัดระยองเมื่อเช้านี้ โดยนายโอภาส บุญจันทร์ เจ้าของวินโพรเสส ไปให้การต่อศาลด้วย ในฐานะจำเลย แต่ไม่ปรากฏต่อให้สื่อมวลชนเห็น



ส่วนนายสุชาติ จากบริษัทเอสเค อินเตอร์เคมิคอล ไปให้การต่อศาล และลงนามในข้อตกลงยินดีที่จะให้กรมโรงงานฯใช้เงินราว 4.9 ล้านบาท ไปใช้แก้ปัญหาเร่งด่วน แม้ว่าเอสเค ในฐานะผู้รับจ้าง กำจัดกากสารเคมีของวินโพรเสส จะยังไม่ได้เงินในงวดที่ สองและสาม



ศาลใช้เวลาไต่สวนเกือบ 5 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ และมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงมาตรการแก้ปัญหาเดิมในทันที



อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ระบุว่างานเร่งด่วนตอนนี้ คือประสานตำรวจพิสูจน์หลักฐานเพื่อเข้าไปเก็บหลักฐานในคดีนี้ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว จากนั้นจะสำรวจภายในโรงงาน ทำแผนย้ายสารเคมีเสนอให้ผู้พิพากษาในคดีทราบ เพื่ออนุมัติงบของจำเลยที่เหลืออยู่ราว 4.9 ล้าน ให้กรมฯนำไปจัดจ้างตามระเบียบราชการฯ และแนวทางเร่งด่วนคือย้ายกากเคมีที่เป็นอลูมิเนียม ดรอส ที่ทำให้เกิดไอระเหยในตอนนี้ และกลุ่มน้ำกรด ออกจากพื้นที่โดยเร็ว



ตลอดวันนี้มีกลุ่มไอระเหยคล้ายควันพวยพุ่งขึ้นจากกองกากสารเคมี ที่กองทับถมอยู่มาก และส่งกลิ่นเหม็นฉุนแสบจมูกให้ชาวบ้านอย่างรุนแรง



อลูมิเนียม ดรอส คือหนึ่งในกลุ่มที่ส่งผลกระทบมากสุดในช่วงนี้ที่กรมโรงงานฯมีแผนจะควบคุม ทั้งกลุ่มที่อยู่ในที่โล่งแจ้ง ตากแดดฝน และกลุ่มที่อยู่ในโกดัง



สำหรับแผนปฎิบัติงานที่จะขออนุมัติจากศาลอธิบดีกรมโรงงานระบุว่าใช้เวลาราว 10 วันนับจากนี้ แต่อย่างไรก็ตามเงินของจำเลยราว 4.9 ล้านบาท น้อยมาก หากเทียบกับผลกระทบวงกว้างไม่ว่าจะเป็นกากสารเคมีบนดินที่มีจำนวนมาก รวมถึงการพบน้ำสารเคมีรั่วซึมมาจากใต้ดินด้วย ต้องใช้งบกลางมาแก้ปัญหาเฉพาะหน้า



โดยนายจุลพงษ์ระบุว่า เฉพาะวินโพรเสส จะเชิญกรมควบคุมมลพิษ และกรมทรัพยากรน้ำบาดาล มาตรวจสอบผลกระทบเพื่อเสนองบประมาณแก้ปัญหาพร้อมกัน และเสนอควบคู่ไปกับโกดังเก็บสารเคมี ที่อำเภอภาชี จ.พระนครศรีอยุธยาด้วย



มีรายงานว่าในการพิจารณาศาลระยองวันนี้ นอกจากศาลมีคำสั่งห้ามจำเลยคือ บ.วินโพรเสส เข้ามาขัดขวางหรือแทรกแซงในการแก้ปัญหาแล้ว ยังมีการลงนามในบันทึกด้วยว่าการดำเนินการของรัฐจากนี้ เมื่อเสร็จสิ้นจะฟ้องร้องเรียกคืนจากบริษัทวินโพรเสสทั้งหมด



อย่างไรก็ตาม ในข้อเท็จจริงที่ชาวบ้านเผชิญอยู่ตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นงบประมาณของฝ่ายใด ก็ต้องการเห็นการเริ่มต้นย้ายกากเคมีออกจากพื้นที่เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

คุณอาจสนใจ

Related News