สังคม
นายกฯ กำชับปราบหมูเถื่อนต้องคืบหน้าใน 1 สัปดาห์ เน้นเอาผิดผู้บงการ
โดย panisa_p
20 พ.ย. 2566
55 views
นายกรัฐมนตรี สั่งการอีกครั้งให้เดินหน้าเอาผิดผู้เกี่ยวข้องนำเข้าหมูเถื่อน โดยย้ำว่าให้ดำเนินการรวดเร็วและต้องเป็นตัวการใหญ่ ขณะที่ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม แจ้งความกับตำรวจสอบสวนกลาง ให้เอาผิดกลุ่มคนที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตนำเข้าหมูเถื่อน รวม 5 คดี
นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ยื่นหลักฐานให้กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เร่งดำเนินคดีเอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าหมูเถื่อน โดยแยกเป็น 5 คดีดังนี้
คดีแรก ให้เอาผิดผู้อำนวยการส่วนควบคุมด่านศุลกากร อดีตนายด่านศุลกากรแหลมฉบัง อดีตรองอธิบดีฝ่ายปราบปราม และอดีตอธิบดีกรมศุลกากร โดยกล่าวหาว่าร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีพบการสำแดงเท็จจากสุกร เป็นเม็ดพลาสติก เพื่อเลี่ยงภาษีศุลกากร และอ้างว่ามีหลักฐานจ่ายเงิน 3 แสน 6 หมื่นบาท ต่อตู้คอนเทนเนอร์ แลกกับการสำแดงเท็จ
คดีที่สอง ให้เอาผิด อดีตอธิบดีกรมประมงกับพวก โดยอ้างว่าร่วมกันสำแดงเท็จจากซากสุกรเป็นหัวปลาแซลมอนเพื่อลดค่าภาษีนำเข้า และใช้เอกสารปลอมในการสำแดงอีกด้วย
คดีที่สาม ให้เอาผิดอดีตหัวหน้าด่านกักสัตว์ชลบุรี ฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบโดยทุจริตและเรียกรับสินบน แลกกับการไม่ตรวจโรคของหมูเถื่อนที่นำเข้ามา
คดีที่สี่ ให้ดำเนินคดี เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ 3 ราย ที่นายอัจฉริยะ ระบุว่า มีการนำเข้าตับหมู 75 ตัน ต่อมาตรวจพบว่าตับหมู 1.5 ตัน มีเชื้อโรค ซึ่งตามระเบียบต้องทำลายตับหมูทั้งหมด แต่เจ้าหน้าที่ 3 รายนั้น นำไปทำลาย 1.5 ตัน ส่วนที่เหลืออนุญาตให้ออกไปขายต่อ
และคดีที่ห้า ร้องเรียนให้ดำเนินคดี หัวหน้านายด่านกักกันสัตว์ชลบุรี และเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ โดยนายอัจฉริยะกล่าวหาว่า ได้สองคน ร่วมกันลักลอบนำของกลาง เป็นตีนไก่ 2 ตู้คอนเทนเนอร์ ไปขายโดยทุจริต ด้วยการนำตู้ออกไปเมื่อวันที่ 3 มีนาคม ปีนี้ แทนที่จะนำไปตรวจสอบหาเชื้อโรค แต่กลับเอาไปขายให้กับบุคคลอื่น
กรณีนี้การท่าฯได้ทวงถามอยู่ตลอด แต่กลุ่มคนเหล่านี้ไม่ได้ส่งของกลางกลับไปให้การท่าดำเนินคดี นายอัจฉริยะระบุว่า ทุกคดีมีหลักฐานมากเพียงพอที่จะเอาผิดได้ โดยทั้ง 5 คดีนั้น ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกันแต่อย่างใด
วันนี้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าได้กำชับเจ้าหน้าที่ทำงานด้วยความรวดเร็ว รวมถึงการอายัดทรัพย์สินคนเกี่ยวข้องไม่ให้เหลือเป็นทุน เพื่อกลับไปทุจริตอีก โดยระบุว่าอย่างน้อยภายใน 1 สัปดาห์ต้องมีความคืบหน้า โดยเฉพาะรายใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังต้องดำเนินคดีให้ได้
นายกรัฐมนตรีระบุอีกว่า ได้หารือรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เรื่องการช่วยเหลือผู้ประกอบการเลี้ยงสุกรรายเล็ก ที่ประสบปัญหาและหยุดประกอบกิจการไป เพราะมีหมูเถื่อนเข้ามา รวมถึงหารือธนาคาร ธกส.เพื่อหามาตรการช่วยเหลือ
วันนี้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. แถลงผลการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ประจำเดือนพฤศจิกายนนี้ ที่เห็นชอบให้ดำเนินการกับทรัพย์ที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด รวม 1,333 รายการ จำนวน 60 รายคดี มูลค่าทรัพย์สินรวม 2559 ล้านบาท ในจำนวนนี้ เป็นคดีที่เกี่ยวกับกรณีการนำเข้าหมูเถื่อน 24 รายการ เป็นที่ดิน บ้าน รถยนต์ รวมมูลค่า 31 ล้านบาท เงินฝากในบัญชีรวม 22 ล้านบาท รวมทั้งหมด ยึดอายัด 53 ล้านบาท
แท็กที่เกี่ยวข้อง ปราบหมูเถื่อน ,นำเข้าหมูเถื่อน ,ผู้บงการ