ใช้เวลา 2 วัน! รวบแก๊งลักรถยนต์ นำใช้ตระเวนลักจยย.ต่อ

ตำรวจทางหลวงใช้เวลา 48 ชั่วโมง ติดตามจับกุมแก๊งโจรกรรมรถยนต์ ได้ที่ จ.ราชบุรี โดยพบหลักฐานว่าโจรกรรมรถยนต์ มาเพื่อตระเวนลักรถจักรยานยนต์อีกทอด โดยทำมาหลายครั้งแล้ว ยังไม่เคยถูกจับ บางครั้งแต่งกายเป็นทหารและตำรวจ เข้าไปโจรกรรมรถด้วย



ตำรวจสอบสวนกลาง โดยกองบังคับการตำรวจทางหลวง ได้รับแจ้งชุดปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ว่ามีรถถูกลักขโมย จากแก๊งโจรกรรมรถยนต์จากจังหวัดพังงา กำลังขับขึ้นมาตามถนนเพชรเกษม ผ่านจังหวัดเพชรบุรี ในคืนวันที่ 5 พฤศจิกายน แล้วหลบหนีไปเส้นทางรอง



ตำรวจทางหลวง 2 กองกำกับการ 2 จึงปฏิบัติการแกะรอย ติดตามรถกระบะสีแดงคันที่ถูกโจรกรรมมา กระทั่งพบรถยนต์คันดังกล่าว ขับตามเส้นทาง ที่ต.วังมะนาว อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี จึงเรียกให้หยุด แต่คนร้ายเมื่อเห็นตำรวจทางหลวง ได้เร่งเครื่องหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว



จนรถไปเสียหลักไปชนคอกเหล็ก ตกหล่ม ไปต่อไม่ได้ คนร้ายตัดสินใจทิ้งรถวิ่งหลบหนี เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงพบนส.ปาริชาต นั่งหลบอยู่ในป่าใกล้รถยนต์ที่ตกหล่ม แต่ไม่ให้การใดๆ ตำรวจทางหลวง และตำรวจสภ.ปากท่อ จึงนำกำลังไปปิดล้อมพื้นที่ กระทั่งชาวบ้านแจ้งว่ามีชายต้องสงสัยเข้ามาหลบซ่อนในบ้าน พร้อมเปลียนชุดใหม่ แต่เมื่อตำรวจไปถึงกลับปฏิเสธว่า ไม่ได้โจรกรรมรถมา



จากการตรวจสอบพบว่า ชื่อนายธีรวิชญ์ ให้การไม่รู้จักกับนส.ปาริชาต และไม่ได้มารถคันเดียวกัน แต่ ตำรวจได้ค้นตัวนายธีรวิชญ์ พบตัวจำนำทอง เป็นชื่อ นส.ปาริชาต ทั้งสองจึงยอมรับว่าคบหากัน แต่มีนายเต๊ก เป็นรุ่นน้องเป็นผู้ชักชวน



ตำรวจทางหลวงไม่ลดละความพยายามไปติดตามจับตัวนายเต๊ก ได้ที่ห้องพัก ในจ.นครปฐม โดยทราบว่าชื่อนายพัสกร อายุ 20 ปี ไม่มีที่พักเป็นหลักแหล่ง เพราะมีอาชีพโจรกรรมรถ



พ.ต.อ.ภคพล สุชล รักษาราชการแทนผู้กำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ระบุว่า สามารถจับกุมผู้ต้องหาโจรกรรมรถได้ยกแก๊งทั้งหมด 3 คน ใช้เวลา 2 วัน โดยผู้ต้องหามีพฤติกรรมโจรกรรมรถยนต์ของชาวบ้าน แล้วมาตระเวนขโมยรถจักรยานยนต์ต่อ



ซึ่งพบหลักฐานเป็นรถจักรยานยนต์ที่ผู้ต้องหาเพิ่งขโมยมาอีก 2 คัน โดยเจ้าของแจ้งหายไว้ที่จ.ประจวบฯและจ.สมุทรสงคราม



อีกทั้งยังพบว่าผู้ต้องหาเคยก่อคดีปล้นทรัพย์ โดยสวมเครื่องแบบ เลียนการแต่งกายของทหารและตำรวจ และเสพยาเสพติด

ที่ผ่านมาตำรวจทางหลวงสามารถจับกุมคนร้ายที่โจรกรรมรถหรือทำผิดในคดีอื่น ที่หลบหนีอยู่บนท้องถนนได้หลายคดี จากผลการปฏิบัติงาน ที่ติดตามคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว



กระทั่งจับกุมได้ มาจาก ศูนย์ข้อมูล Big Data ของตำรวจสอบสวนกลาง ที่จะช่วยให้การสืบสวนติดตามจับคนร้าย ทำได้อย่างประสิทธิภาพ