สังคม
ขยายผลตรวจสอบประวัติย้อนหลัง 1 ใน 'แก๊งตูมตาม' พบประวัติอื้อ เคยก่อคดียิงคนตาย
โดย kodchaporn_j
21 มิ.ย. 2565
183 views
หลังจากเมื่อวานนี้ ตำรวจภูธรภาค 2 ร่วมมือกับ ตำรวจนครบาล แกะรอยจับแก๊งโจรกรรมรถจักรยานยนต์ แก๊งใหญ่ ที่ก่อคดีมานับไม่ถ้วน วันนี้ ตำรวจได้ขยายผลย้อนประวัติอย่างละเอียดพบว่า เคยก่อคดียิงเจ้าของอพาร์ทเม้นท์ ที่พยายามวิ่งตามเอารถคืนให้คนเช่าห้อง จนเสียชีวิต
การออกมาปรากฎตัว ออกตระเวนลักรถจักรยานยนต์ หลังจากพ้นโทษออกมา เมื่อปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมาติดต่อกันทุกคืน ของนายเอกลักษณ์ อายุ 38 ปี หนึ่งในแก๊งตูมตาม ที่เคยอาละวาดทำความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน เมื่อปี 2553 ถึงขั้นยิงเจ้าทรัพย์เสียชีวิต
ทีมข่าว 3 มิติสอบถามเหตุการณ์ทีเกิดขึ้นเมื่อปี 2553 กับเจ้าของอพาทเมนต์ย่านรามอินทรา ซึ่งยังจำเหตุการณ์ได้ดีว่า เป็นลูกชายของเธอเองที่เสียชีวิตในวัย 22ปี หลังจากเรียนจบมาได้เพียง 4 เดือน เพราะเห็นบิดาวิ่งตามคนร้ายโจรกรรมรถจักรยานยนต์ของคนในอพาทเม้นต์ เพื่อหวังให้คนร้ายคืนรถ จึงวิ่งตามบิดาไป แต่ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิต
เวลาผ่านไป 11 ปี แต่เมื่อคืนได้เห็นจากข่าวว่านายเอกลักษณ์ได้พ้นโทษออกมา และกลับมาขโมยรถจักรยานยนต์อีก จึงรู้สึกกลัว เพราะไม่คิดว่าคนร้ายที่ก่อเหตุยิงบุตรชายตระเวนวนเวียนมาก่อเหตุอีก
และนี่คือจุดอพาทเม้นต์ ที่ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุที่ยิงลูกเจ้าของอพาทเม้นต์เสียชีวิต โดยนายเอกลักษณ์ได้ลักขโมยรถของนักศึกษา ไปเมื่อ เดือนก่อน
นับเป็นภัยของสังคม ตั้งแต่นายเอกลักษณ์หรือแก๊งตูมตามพ้นโทษมาก็ก่อเหตุไม่ได้หยุด มีเหตุแจ้งความรถจยย.หาย เกือบทุกสน.ในเขตนครบาลและปริมณฑล กว่า 34 คัน จนชุดลาดตระเวนออนไลน์ของสืบสวนนครบาล ร่วมกับสืบสวนภูธรภาค2และตำรวจ PCT ชุดที่5 พบการร้องเรียนของประชาชนจำนวนมาก
แต่กว่าจะทราบว่าคนร้ายคือนายเอกลักษณ์ แก๊งตูมตามที่พกปืนก่อเหตุ ต้องใช้เวลาตรวจจากกล้องวงจรปิดทั่วกรุงเทพฯ พร้อมสะกดรอยตามนานหลายสัปดาห์ เนื่องจากผู้ต้องหามีเทคนิควิธีนำรถจักรยานยนต์ไปซ่อน และปลอมหมายเลขทะเบียน เมื่อจับกุมยาก จึงขอเตือนให้ประชาชน
นายเอกลักษณ์ ถูกเจ้าหน้าที่ส่งตัวไปดำเนินคดีที่ สน.ทุ่งสองห้อง และเนื่องจากก่อคดีในหลายสน.ทั่วกรุงเทพฯ จึงขอให้เจ้าทุกข์ไปติดต่อ สน.ที่เกิดเหตุ ผู้ต้องหาจะได้รับโทษตามกระทงที่ก่อเหตุ จึงขอให้ตำรวจชุดจับกุม
แนะนำให้เจ้าของรถไปติดต่อฝ่ายสืบสวน สน.ท้องที่ ให้ตรวจสอบว่าเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุ คนเดียวกันหรือไม่ หากเป็นคนเดียวกันจะได้ดำเนินคดีเพิ่ม