สังคม

ทีมจิตแพทย์ส่งเด็ก 14 รักษาที่สถาบันกัลยาณ์ ด้านครอบครัวเข้าขอขมาเหยื่อ

โดย panwilai_c

6 ต.ค. 2566

90 views

ความคืบหน้าเหตุกราดยิงที่ "สยามพารากอน" ตำรวจเตรียมอกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มอีก 2-3 คน ขณะที่ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่าขณะนี้ พบข้อมูล"ปืนแบลงค์กัน"ในไทยหลายพันกระบอก ส่วนเด็กวัย 14 ปี จิตแพทย์เห็นควรให้ส่งตัวไปรักษาที่"สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์" ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ครอบครัวผู้ก่อเหตุ ได้ประสานขอโทษครอบครัวเหยื่อ เเละยืนยัน "จะไม่ยื่นขอประกันตัวลูกชาย"



พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยความคืบหน้ากรณีเด็กชายวัย 14 ปี ซึ่งขณะนี้อยู่ในความควบคุม-ดูแลของกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน



โดยบอกว่า สถานพินิจฯมีกระบวนการรับตัว มีแพทย์ที่ตรวจประเมินสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิต ล่าสุด ได้รับแจ้งผลตรวจประเมินสุขภาพจิต ทีมจิตแพทย์มีความเห็นว่า เห็นควรส่งตัวเด็กชายไปเข้ารับการรักษาที่"สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์"



พ.ต.อ.ทวี บอกว่า แม้เด็กชายจะถูกส่งตัวไปรักษา แต่ในทางกฎหมายไม่สามารถเปิดเผยเรื่องอาการสุขภาพของเด็กได้ ขอให้เป็นไปตามความเห็นของแพทย์ เเละทางกรมพินิจฯ ก็ได้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่เข้าไปร่วมควบคุมดูเเล เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย



ส่วนความคืบหน้าเเละการขยายผลทางคดี / พลตำรวจตรีธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนคร ยืนยันว่า จะขอศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องอีก 2-3 คน ซึ่งในจำนวนนี้ ยังไม่ใช่ผู้ปกครองของผู้ก่อเหตุ เเต่เป็นบุคคลที่พบความเชื่อมโยงการซื้อขายปืนและกระสุนกับ"นายปิยะบุตร"โดยตรง



-กรณีที่มีคลิปผู้ก่อเหตุซ้อมยิงปืน ภายในสนามยิงปืนเเห่งหนึ่ง ประเด็นนี้ ทางพลตำรวจตรี นครินทร์ สุคนธวิท ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 บอกว่า อยู่ระหว่างการขยายผล ส่วนที่สังคมสงสัยว่า พ่อแม่ของผู้ก่อเหตุจะเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กหรือไม่ ต้องเอาหลักฐานมาประกอบ เบื้องต้น ได้สอบปากคำพ่อและแม่ของผู้ก่อเหตุไปแล้ว



ส่วนผู้ต้องหา 3 คน ที่ขายปืนเเละกระสุนให้ผู้ก่อเหตุ ผู้กำกับการ สน.ยานนาวา บอกว่า มี 1 คนให้การเป็นประโยชน์เเละรับสารภาพ คือ นายปิยะบุตร ส่วนสองพ่อ-ลูก คือนายอัครวิชญ์ กับ นายสุวรรณหงษ์ ยังให้การปฏิเสธ ทั้งหมดจะถูกคุมตัวไปส่งศาลวันพรุ่งนี้



ด้าน พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยประเด็น"ปืนเเบลงค์กัน" ซึ่งในทางกฎหมายไม่ถือเป็นอาวุธ ที่ผ่านมาจึงสามารถนำเข้าโดยผ่านขั้นตอนทางศุลกากร



จากข้อมูลพบว่าขณะนี้ ในประเทศไทยมีแบลงค์กันจำนวนหลายพันกระบอก จึงต้องหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมศุลกากร และกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อควบคุมเรื่องการขนส่ง



และทาง ผบ.ตร. ได้สั่งให้เปิดแผนปฏิบัติการระดมกวาดล้างอาชญากรรมอาวุธปืน มีเป้าหมายกว่า 2,300 แห่ง ทั่วประเทศ ทั้งแหล่งรับซื้ออาวุธปืน ,โรงงานแหล่งผลิต และแหล่งดัดแปลงแบลงค์กัน



ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศ วันนี้ได้แถลงความคืบหน้า การช่วยเหลือ เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ ที่สยามพารากอน



ในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศ ได้ช่วยประสานอำนวยความสะดวกการเดินทาง ให้กับครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะกรณีผู้เสียชีวิตชาวเมียนมา เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงย่างกุ้ง ได้ติดต่อไปยังคุณแม่ อำนวยความสะดวกเรื่องการเดินทางมายังประเทศไทย เพื่อร่วมพิธีศพของลูกสาว



ส่วนผู้บาดเจ็บชาว สปป.ลาว เมื่อวานนี้ กงสุลใหญ่ไทยที่ สะหวันนะเขต ได้ลงพื้นที่ไปเยี่ยมครอบครัวเช่นกัน



ส่วนยอดเงินเยียวยา เเบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือการเยียวยาผู้เสียชีวิต จะได้รายละ 6,200,000 บาท เป็นการเยียวยาจากภาครัฐ รายละ 1.2 ล้านบาท และศูนย์การค้าสยามพารากอน เยียวยาอีกรายละ 5 ล้าน รวม 6,200,000 บาท



ส่วนที่สอง กรณีผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย จะได้รายละ 350,000 บาท เป็นการเยียวยาจากภาครัฐ รายละ 5 หมื่นบาท และศูนยการค้าสยามพารากอน เยียวยาอีกรายละ 3 แสนบาท



นอกจากนี้ บริษัทกิฟฟารีน ได้มอบเงินเพิ่ม 1 ล้านบาท สมทบภาครัฐในการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบด้วย



ล่าสุด ช่วงค่ำที่ผ่านมา ครอบครัวผู้ก่อเหตุ เดินทางไปร่วมงานศพผู้เสียชีวิต เพื่อขมาเเละกล่าวขอโทษ ด้านกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยข้อความของผู้ปกครอง ซึ่งได้ประสานขอโทษครอบครัวเหยื่อกราดยิง ใจความสำคัญช่วงหนึ่งระบุว่า "ผมเเละครอบครัวรู้สึกเสียใจอย่างยิ่ง เเละขอโทษอย่างที่สุดกับผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ เเละครอบครัว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากการกระทำของลูกชาย ผมเเละครอบครัวต้องขออภัยที่ไม่ได้สื่อสารต่อสาธารณะให้เร็วกว่านี้ ผมเเละครอบครัวไม่ได้ยื่นขอประกันตัว เพราะครอบครัวตั้งใจจะให้ความร่วมมือกับทางการอย่างเต็มที่ในการค้นหาข้อเท็จจริง



เราเสียใจเเละตกใจอย่างมากกับเหตุการณ์ เเละน้อมรับผิดชอบต่อเหตุการณ์อย่างเต็มที่เท่าที่เราสามารถกระทำได้ ขอให้คำมั่นว่า เราจะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ ในการดำเนินการตามกฏหมาย รวมทั้งบรรเทาเเละเยียวยาผลกระทบจากเหตุการณ์ให้ดีที่สุด กราบขอโทษเเละขอขมาต่อคครอบครัวผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บเเละผู้ได้รับผลกระทบร้ายเเรงที่สุดจากเหตุการณ์นี้ จากใจด้วยความเคารพ เเละเเสดงความเสียใจต่อผู้บาดเจ็บเเละเสียชีวิต เเละยืนยันว่า จะไม่ยื่นขอประกันตัวลูกชาย

คุณอาจสนใจ

Related News