พบพิรุธโครงการจ้างเหมาตัดโค่น ลำเลียงไม้ยางพารา ของกยท. ส่งเข้าโรงงานเอกชน จี้ตรวจสอบ ชี้แจง

ทีมข่าว 3 มิติ ได้รับเบาะแสและหลักฐานที่สงสัยว่าอาจมีการทุจริตในโครงการจ้างเหมาตัด โค่น และลำเลียงวัตถุดิบไม้ยางพารา ของการยางแห่งประเทศไทย ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช พิรุธที่ว่านั้น คือการว่าจ้างบริษัทเอกชนรายหนึ่งโดยตรง ด้วยงบประมาณราว 10 ล้านบาท โดยไม่เปิดประมูล และเมื่อเอกชนนี้ได้รับการว่าจ้างแล้ว ไม้ที่ถูกตัดโค่น แทนที่จะถูกลำเลียงไปกองจัดการโรงงานไม้ยาง ตามสัญญา แต่กลับพบว่าไม้ถูกลำเลียงไปเข้าโรงงานเอกชนหลายแห่งในจังหวัดนครศรีธรรมราช จึงเรียกร้องการยางแห่งประเทศไทยตรวจสอบและชี้แจง


สัญญาจ้างฉบับนี้ ทำขึ้น ที่ กองจัดการโรงงานไม้ยาง การยางแห่งประเทศไทย ต.กรุงหยัน อ.ทุ่งใหญ่ นครศรีธรรมราช เมื่อ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา


ผู้ว่าจ้างคือ หัวหน้ากองจัดการโรงงาน ที่ได้รับมอบอำนาจจากผู้ว่าการยางแห่งประเทศไทย /ส่วนผู้รับจ้าง ตามสัญญานี้คือชื่อบริษัท พิณมาชูวิศวกรรม สำนักงานใหญ่อยู่ที่ อ.บางเสาธง จังหวัดสมุทปราการ


ประเด็นของสัญญานี้คือ อยู่ในข้อที่ 1 คือ การยางฯ ได้จ้างเหมาบริษัทพิณมาชูวิศวกรรม ให้ตัดโค่น และลำเลียงวัตถุดิบไม้ยางพารา จากกองจัดการสวนยาง 1 แปลงที่ 1 ซึ่งอยู่ที่อำเภอนาบอน จังหวัดนครศรีธรรมราช เนื้อที่รวม 1360 ไร่ ไปส่งที่กองจัดการโรงงานไม้ยางพารา ซึ่งตั้งอยู่ที่อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช / และเตรียมพื้นที่ปลูกยางพารา โดยการว่าจ้างของงานตัดโค่น ลำเลียงและเตรียมแปลง รวม10 ล้าน 6 แสน 3 หมื่น เจ็ดพันห้ารายสองบาท ถ้วน


ภาพนี้คือสวนยางพารา ที่จะถูกตัดโค่นตามสัญญานี้ เรียกว่าแปลงหนองซอน เนื้อที่ 600 ไร่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ 1300 ไร่ ดังกล่าว //ในจำนวน 600 ไร่นี้ มีข้อมุลว่าถูกตัดไปแล้วราว 350 ไร่ อันที่จริงจะไม่ซับซ้อน ถ้าไม้ที่ตัดโค่น ถูกลำเลียงไปกองจัดการโรงไม้ยาง ที่อ.ทุ่งใหญ่ ตามสัญญา เพราะที่นั่นเป็นโรงเลื่อยที่แปรรูปไม้ของการยางอยู่แล้ว


แต่เบาะแสที่ข่าว 3 มิติได้มาพบว่า รถบรรทุกไม้ฯ หลายคัน ที่ผ่านการช่างน้ำหนักแล้ว กลับวิ่งเข้าโรงงานแปรรูปของเอกชนหลายราย ที่อยู่ในพื้นที่ ซึ่งไม่เป็นไปตามเงื่อนไขในสัญญา เพราะไม้ทั้งหมดถือ ถือเป็นกรรมสิทธิ์ของการยางฯ /การวาง ทำให้สัญญาให้ตัด โค่น และลำเลียงไปที่กองจัดการไม้ของการยางเท่านั้น ซึ่งกองจัดการไม้ ตั้งอยู่ในเขต อ.ทุ่งใหญ่


แต่เบาะแสที่ข่าว 3 มิติ ได้มา พบว่ารถวิ่งเข้าโรงงานที่อยู่ในอำเภอทุ่งสง 1 แห่ง / ที่อำเภอนาบอน 1 แห่ง / และฉวาง 1 แห่ง ซึ่งไม่ใช่ปลายทางตามสัญญานี้ แหล่งข่าวคนหนึ่งบอกว่า ไม้เหล่านี้ที่ไปไม่ถึงปลายทาง น่าจะไม่เป็นไปตามสัญญาจ้าง


ข่าว 3 มิติตั้งข้อสังเกตุว่า กรณีนี้ บริษัทที่รับจ้างตามสัญญา อาจรู้ หรือไม่รู้ ก็เป็นได้ในกรณีที่ไม้ถูกตัดจากแปลงไปโรงงานเอกชน // เช่นเดียวกับ กองจัดการกอง 1 ของการยางฯ ที่อาจรู้หรือไม่รู้ก็เป็นได้ว่าไม้ถูกลำเลียงออกนอกเส้นทาง


แต่ตามสัญญา ไม้ที่ถูกตัด ต้องลำเลียงไปกองจัดการไม้..และหากตัดไปแล้วราว 700 ไร่ น่าจะมีไม้ท่อนหรือไม้บ้อง ราว 17,500 ตัน // แต่สภาพลานไม้ที่เห็นวันนี้ ไม่น่าจะถึงจำนวนดังกล่าว หรือก็อาจเป็นไปได้ว่าไม้ที่ถูกลำเลียงมาก่อนหน้านั้นทั้งหมด ถูกแปรรูปไปแล้ว ก็อาจตรวจสอบได้ว่ ไม้ที่แปรรูปเพิ่มขึ้นหรือไม่


พิรุธเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งที่ข่าว 3 มิติได้มา โดยมีอีกประเด็นสำคัญคือ โครงการตัดโค่นไม้เนื้อที่ 1300 ไร่ มูลค่าจ้างงานราว 10 ล้านบาท เหตุใดไม่เปิดประมูล / เพราะอาจได้ราคาที่ถูกกว่า - และหากไม้ที่ถูกลำเลียงเข้าโรงงานเอกชน เป็นไม้จากโครงการนี้จริงก็ไม่ต่างจากการยักยอกไม้ของการยางฯ


พิรุธ 2 ประเด็น เป็นเพียงส่วนหนึ่งของข้อสงสัย โดยยังมีประเด็นอื่นๆเช่น มีการประเมินปริมาณ หรือน้ำหนักของไม้บ้อง หรือไม้ท่อน จากจำนวน 1300 ไร่ นี้น้อยกว่า ที่ควรจะเป็นหรือไม่ เพราะหากเป็นเช่นนั้น ก็อาจเป็นไปได้ว่าแม้จะนำไม้ตามการประเมินเข้าโรงงานของการยางฯ แต่ก็อาจมีไม้ที่เหลือ ที่เกินกว่าการประเมิน ไปขายเอาส่วนต่างหรือไม่ รวมถึงการจัดการปลายไม้ที่เหลือจากการตัดยอด หรือตัดบ้อง ซึ่งมีมูลค่าไม้น้อย - โดยผุ้ร้องคำนวณว่า ไม้ยางที่ถูกตัดโค่นทั้งหมด 1300 ไร่นี้ มีมูลค่าไม่น้อยกว่า 20 ล้าน หากไม่เกิดการรั่วไหลก็จะเป็นเงินรายได้ ของการยางแห่งประเทศไทยทั้งหมด .

ข่าว 3 มิติ ยังจะติดตามเรื่องนี้ ทั้งกรณีพิรุธดังกล่าว และคำชี้แจงทั้งจากบริษัทบเอกชนที่เป็นผู้รับจ้างตามสัญญา และการยางแห่งประเทศไทยที่เป็นผู้ว่าจ้าง ติดตามรายละเอียพรุ่งนี้