ศาลนัดสืบพยานคดี 'ทุนมินลัต' นัดแรก อัยการโจทก์ซักยิบ โอนค่ายาเสพติด บ.อัลลัวร์กรุ๊ป

วันนี้ (15 มิ.ย. 66) ศาลอาญานัดสืบพยานโจทก์ในคดีทุนมินลัต และลูกเขยสว. อุปกิต พร้อมจำเลยอีก 2 คนเป็นนัดแรก โดยมีรายงานว่าอัยการฝ่ายโจทก์ซักพยานหลักฐานอย่างละเอียดถึงขั้นตอนการโอนเงินจ่ายค่ายาเสพติดเข้าบริษัทอัลลัวร์กรุ๊ป ซึ่งมีหุ้นใหญ่คือนายพันณรงค์ ขุนพิทักษ์ หรือแอดดี้และภรรยาที่ยังหลบหนี



ศาลอาญารัชดา นัดสืบพยานในคดีอัลลัวกรุ๊ป โดยมีจำเลย 4 คน คือนายทุนมินลัตนักธุรกิจชาวพม่านายดีลยัง ลูกเขย สว. อุปกิต นางสาวน้ำหอม และนางสาวปรียะดา เป็นจำเลยในคดีสมคบในคดียาเสพติดและร่วมกันฟอกเงินส่วนผู้ต้องหาอีก 2คนคือนายพันณรงค์ ขุนพิทักษ์หรือ แอดดี้และนางสาวกัญญาวีย์ ภรรยานายแอดดี้ ยังหลบหนี โดยนายธนพล จูฑะเตมีย์ อัยการอาวุโส เป็นอัยการรับผิดชอบคดีฝ่ายโจทก์ได้เดินทางมาศาล เพื่อสืบพยานเป็นนัดแรก



ซึ่งวันนี้ศาลได้นัดสืบพยานคือ พ.ต.ท.มานะพงศ์ วงศ์พิวัฒน์ สารวัตรสืบสวน สน พญาไท เป็นปากแรก เป็นเวลาร่วม 8 ชั่วโมง โดยมีการสืบสวนถึงการจับกุมกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดจำนวน4เครือข่าย ซึ่งเชื่อมโยงการจ่ายเงินไปให้กับบริษัทอัลลัวร์กรุ๊ป เพื่อนำไปซื้อกระแสไฟฟ้าขายให้กับฝั่งท่าขี้เหล็ก ประเทศเพื่อนบ้าน



โดยทุกเครือข่ายได้จ่ายค่ายาเสพติด ไปยังบัญชีนอมินี ที่กลุ่มผู้ค้ายาได้ซื้อไว้ ซึ่งทั้ง 4 เครือข่าย มีเส้นทางการเงินโอนกลับไปยังพ่อค้ายาที่อยู่ประเทศเพื่อนบ้าน โดยมีบัญชีที่เป็นนอมินีร่วม 500 บัญชี แต่มีบัญชีที่ชัดเจน ที่เป็นบัญชีนอมินีผู้ค้ายา กว่า 10 บัญชี มีเงินหมุนเวียนแต่ละบัญชี 100ไปจนถึง 200 ล้านบาท และเงินบางส่วนถูกโอนออกไปยังบริษัทอัลลัวร์กรุ๊ป ซึ่งมีนายแอดดี้ นส.กัญญวีย์ นายทุนมินลัต นายดีลยัง เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ส่วนนส.น้ำหอมและนส.ปรียาดา เป็นเลขา



มีรายงานว่าบรรยากาศการสืบพยานวันแรก อัยการฝ่ายโจทก์ได้ซักถามถึงวิธีการจ่ายเงินค่ายาเสพติด โดยฟอกเงินให้เป็นค่ากระแสไฟฟ้าขายให้ประเทศเพื่อนบ้านอย่างละเอียด โดยมีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด กลุ่มของนายวิทวัศ หรือคิงนนทุบรี ที่โอนเข้ามายังบริษัทอัลลัวร์กรุ๊ป และกลุ่มผู้ค้ายากลุ่มนี้เคยโอนไปยัง นายวรวัฒน์ วังศพ่าห์ เจ้าของบริษัทลมปราณ ที่อ้างว่าค้าขายน้ำมันกับประเทศเพื่อนบ้าน จนถูกศาลตัดสินประหารชีวิต



ขณะที่ฝ่ายจำเลย ได้มีทนายมาจำนวนร่วม 6 คน และได้ซักค้านว่าไม่ควรนำเรื่องของนายวรวัฒน์ วังศพ่าห์ที่ถูกศาลตัดสินไปแล้ว มาเกี่ยวข้องกับคดีนี้ แต่ศาลพืจารณาแล้วเห็นว่า เป็นกลุ่มผู้ค้ากลุ่มเดียวกันที่หาวิธีโอนเงินไปจ่ายค่ายาให้กับนายทุนที่ประเทศเพื่อนบ้าน จึงให้สืบพยานต่อได้



โดยพยานฝ่ายโจทก์ ที่จะสืบมีจำนวนร่วม 20 ปาก โดยศาลได้นัดสืบพยานอย่างต่อเนื่อง ส่วนนายอุปกิต อัยการสูงสุดจะนัดมาฟังในวันที่ 26 กรกฎาคมนี้ ว่าจะรับฟ้องในคดีร่วมกันสมคบฟอกเงิน และเป็นสมาชิกวุฒืสภาร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรข้ามชาติหรือไม่