สังคม

'ทนายพัช' ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาร่วมคดี 'แอม' จ่อฟ้องสื่อมวลชน-ตร. มาตรา 157

โดย parichat_p

26 พ.ค. 2566

88 views

นางสาวธันย์นิชา สุวรรณรัตน์ หรือทนายพัช ทนายความส่วนตัวของแอม สรารัตน์ ได้กลายเป็นผู้ต้องหาตามไปด้วย และเป็น ผู้ต้องหาคนที่สามแล้วในกรณีนี้ โดยข้อกล่าวหาที่ตำรวจแจ้งต่อทนายพัช คือความผิดฐานสนับสนุนซ่อนเร้น พยานหลักฐาน ที่เกี่ยวข้อง กับการตายของเหยื่อบางคนในคดีนี้ ขณะที่ทนายพัช เข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ววันนี้ ทั้งปฎิเสธทุกข้อ กล่าวหา และยืนยันจะฟ้อง กลับตำรวจด้วย


นางสาวธันย์นิชา สุวรรณวัฒน์ หรือทนายพัช ทนายความของแอม สรารัตน์ เข้ารับทราบข้อหาที่กองปราบปราม โดยใช้เวลา สอบปากคำ ราว 3 ชั่วโมง ก่อนจะให้เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่าไม่ได้หลบหนีหรือประวิงเวลา แต่เพราะยังไม่ได้รับหมายเรียก จนตอนนี้ได้รับแล้วจึงเข้าพบพนักงานสอบสวน


และปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยให้การว่าไม่รู้เรื่องกระเป๋าของนส.ศิริพร หรือก้อยว่าถูกส่งไปให้ใคร และการที่เธอถูกตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา เพราะถูกผู้ต้องหาในคดีนี้อีกคนซัดทอดถึง และที่ผ่านมาเธอให้คำแนะนำเรื่องพยานหลักฐาน ถือเป็นการทำหน้าที่ทนายความโดยสุจริต อยู่ในกรอบของข้อกฎหมายทุกอย่าง ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าการถูกซัดทอดเพราะไม่อยากให้เธอมาเป็นทนายความให้ "แอม" เพราะเธอรู้รายละเอียดคดีเยอะ แต่ถูกถามว่ารู้จักกับ "นส.แก้ว" ซึ่งเป็นพยานที่ "แอม" ส่งกระเป๋าไปให้หรือไม่ ทนายพัช เลี่ยงที่จะไม่ตอบ และบอกว่าทุกอย่างอยู่ในสำนวน


นางสาวธันย์นิชา ยังระบุว่าเธอเป็นคนแรก และเป็นทนายความหลักในตอนนี้ ที่แอม สรารัตน์ แต่งตั้งให้เป็นทนายความให้ หากจะมี ทนายความคนใดเข้ามาทำคดี ต้องปรึกษาเธอก่อน และยังระบุว่าวันที่ 1 มิถุนายนนี้ เธอจะเบิกตัวแอม จากทัณฑสถานหญิงกลาง


เพื่อมาไต่สวนมูลฟ้อง กรณีที่แอม ยื่นฟ้องนายรพี ชำนาญเรือ ผู้ที่ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับก้อย และครอบครัวผู้เสีย ชีวิตรายอื่นๆ โดยข้อหาที่แอม ฟ้องต่อนายรพี คือความผิดฐานหมิ่นประมาท และระบุว่าจะฟ้องสื่อมวลชน และตำรวจในความผิด มาตรา 157 ปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ


ขณะที่พันตำรวจเอกเอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม ระบุว่า ทนายพัชปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาและให้การแย้ง ในประเด็นที่พนักงานสอบสวนสงสัย ซึ่งคำให้การก็ค่อนข้างขัดแย้งกับข้อมูลการสืบสวนสอบสวนของตำรวจ และไม่สามารถ หักล้างประเด็นสงสัยได้ แต่ยืนยันว่าพยานหลักฐานที่ใช้ดำเนินคดีกับทนายพัช มีความชัดเจนว่า มีพฤติการณ์เกินกว่าการ เป็นทนายความ แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้


ขณะที่รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่รับผิดชอบคดี ระบุว่าการไปสอบปากคำแอม สรารัตน์ที่เรือนจำ เป็นการร้องขอของผู้ต้องหา ไม่มีการข่มขู่บังคับ และแอมก็ยังให้การปฎิเสธ ส่วนกรณีทนายพัช จะฟ้องกลับตำรวจ ก็เป็นสิทธิ์โดยชอบแต่ยืนยันว่า พนักงานสอบสวนได้พยานหลักฐานมาไกลมากแล้ว


พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ยังระบุว่าได้สั่งรื้อคดีการเสียชีวิตของ อดีตผู้กำกับการตำรวจภูธรบางแพ จังหวัดราชบุรี ที่หัวใจวาย เมื่อปี 2563 ขณะปั่นรถจักรยานที่เส้นทางบ้านแหลม- หาดเจ้าสำราญ จังหวัดเพชรบุรี เพราะสันนิษฐานว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับ "แอม" เนื่องจากก่อนจะ ไปปั่นจักรยาน ได้ให้ "แอม" มารับเงินที่บ้านเพื่อร่วมลงทุนทำธุรกิจจำนวน 3 แสนบาท โดยก่อนหน้านี้นางแอมเคยมาพบ อดีต ผกก.คนนี้หลายครั้งเพื่อหยิบยืมเงิน ขณะดำรงตำแหน่งที่ จ.เพชรบุรี ก่อนจะย้ายไปเกษียณอายุราชการที่ สภ.บางแพ จ.ราชบุรี หลังจากนั้นเกิดอาการหัวใจวายฉับพลัน ขณะปั่นจักรยาน ได้นำตัวส่งโรงพยาบาล แต่ด้วยสภาพร่างกายที่แข็งแรง แพทย์ได้รักษาประคองชีวิตด้วยเครื่องช่วยหายใจอยู่ได้นานครึ่งเดือน แล้วก็เสียชีวิต ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่เหยื่อของ แอม คนอื่นๆเสียชีวิตในช่วงเดียวกัน 4 ราย ตอนนี้ชุดสอบสวนได้เชิญบุคคลใกล้ชิดของอดีตผู้กำกับ ไปสอบปากคำที่ตำรวจภูธรภาค 7 แล้ว เพื่อรวบรวมข้อเท็จจริง.


สำหรับการตายของหลายคน ที่ทำให้แอม สรารัตน์ ถูกออกหมายจับมากถึง 15 หมายจับนั้น ทำให้แอม เป็นผู้ต้องหาคนแรก ต่อมาก็เป็นอดีตสามีของแอม เป็นผู้ต้องหาคนที่สอง และทนายพัช ที่เป็นทนายความของแอม เป็นผู้ต้องหาคนที่สามแล้ว. ซึ่งตำรวจกองปราบปราม กำลังเร่งสรุปสำนวนคดี ซึ่งใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว คาดว่าจะเสร็จภายในปลายเดือนนี้

แท็กที่เกี่ยวข้อง  ทนายพัช ,แอมไซยาไนด์ ,ทนายแอม

คุณอาจสนใจ