คลิปเต็มรายการ

รอวันเอาคืน! ‘ทนายพัช’ เตรียมแจ้งข้อหา ‘แอม ไซยาไนด์’ โอด เลือกฝั่งผิดชีวิตเปลี่ยน

โดย JitrarutP

26 พ.ย. 2567

120 views

วันที่ 26 พ.ย. 67 รายการโหนกระแสพูดคุยกับ ทนายพัช ธันย์นิชา เอกสุวรรณวัตร์ เปิดใจกรณีถอนตัวจากการเป็นทนายความส่วนตัวของ “แอม ไซยาไนด์” พร้อมพูดคุยกับ ไชยา คุ้มอ่ำ ทนายความ ถึงกรณีที่เกิดขึ้น

ในรายการมีการย้อนทบทวนเรื่องพฤติการณ์ของ แอม ที่ฝ่ายโจทก์นำพยานหลักฐานมาเบิกความในศาล โดยประเด็นแรก คือ มีหลักฐานทางไลน์ ที่แอม ใช้ไลน์สั่งซื้อไซยาไนด์จากบริษัทแห่งหนึ่ง และทางบริษัทได้ให้ไรเดอร์มาส่งไซยาไนด์ ให้แอม ที่หน้าโรงเรียนอนุบาล ย่านพระราม 5 โดยมีหลักฐานจากไรเดอร์ ถ่ายรูปขณะมาส่งของด้วย หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง ผู้กองนุ้ย และ ยายน้อย แม่ค้า ก็เสียชีวิตลง

ในส่วนนี้ ทนายพัช และ ทนายไชยา ซึ่งเป็นทนายของ รองอ๊อฟ อดีตสามีของแอม ปัจจุบันที่มารับช่วงต่อดูแลคดีให้แอมด้วย บอกว่า แอมบอกเพียงว่า สั่งจริง แต่ไซยาไนด์ไม่ใช่ของแอม แอมสั่งให้คนอื่น แม้พยานบุคคลของโจทก์จะยืนยันว่า รับเงินจากแอม ไรเดอร์ไปส่งของให้แอม ถ่ายรูปส่งของ แต่ก็เป็นการถ่ายเฉพาะของ ไม่มีหลักฐานใบหน้าว่าคนที่ไปรับของเป็นตัวแอมจริง

รวมทั้งขวดยาไซยาไนด์ที่พบ ก็ไม่พบหลักฐาน DNA ของแอม หรือ รองอ๊อฟ ปรากฏ ดังนั้นจะพิสูจน์ว่าเขาสั่งมาใช้ฆาตกรรมจริงหรือไม่ มันก็ยังฟันไม่ได้ แม้มองในฐานะวิญญูชนคนหนึ่ง อาจจะมองได้ว่าเป็นไปได้ แต่ในทางพยานหลักฐานก็ยังต้องว่ากันไป

ทนายพัช และ ทนายไชยา พูดตรงกันว่า แอมพูดความจริงไม่หมด ถ้าแอมพูดความจริงทั้งหมดตั้งแต่แรก ทนายจะหาทางออกได้ ว่าลักษณะนี้ควรจะต้องทำยังไง ส่วนของทนายพัช ถ้ารู้ข้อเท็จจริงทั้งหมดตั้งแต่แรก ก็คงไม่ทำคดีให้แน่ๆ เพราะในตอนแรกมั่นใจว่าแอมไม่ผิด แต่พอถึงเวลา มีหลายอย่าง ที่ทนายไม่รู้มาก่อน ไปปรากฏในศาล ไปปรากฏในตอนเบิกความ ซึ่งมันก็แก้ไขอะไรไม่ได้อีก

ทนายไชยา ยืนยันว่า รองอ๊อฟ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุแน่นอน เพราะเขาเลิกกันตั้งแต่ก่อนเกิดเรื่อง แต่ทั้งคู่มีลูกด้วยกัน จึงต้องทำหน้าที่พ่อและแม่ด้วยกันอยู่ ในส่วนของการกระทำความผิดก็ยืนยันว่า รองอ๊อฟไม่ได้มีส่วน

ส่วนเรื่องที่ตัดสินใจยุติการทำคดีให้แอม เสียความรู้สึกมากกว่า ถ้าย้อนกลับไปแก้ไขได้ ก็คงฟังคำแนะนำ ให้พิจารณาทุกอย่างให้รอบด้านกว่านี้ ก่อนจะตัดสินใจทำคดีให้แอม การทำคดีของคนเป็นทนาย เมื่อคดีเข้าสู่กระบวนการไปแล้ว เราทิ้งลูกความกลางคันไม่ได้ มันก็เลยต้องทำจนถึงที่สุด เมื่อศาลมีคำพิพากษา วันนี้เรารู้สึกว่าเราถอยออกมาดีกว่า แล้วอะไรที่เราดำเนินคดีเขากลับได้ เพื่อปกป้องสิทธิ์ของเรา เราก็จะทำ ส่วนในชั้นอุทธรณ์ เราก็ต้องหาทางแก้ของเราต่อไป

ทนายพัชยังยืนยันว่า ไม่ว่าจะเป็นใครที่ให้การเท็จ ทำให้เกิดความเสียหาย ตนก็ต้องดำเนินคดีทั้งหมดไม่มีละเว้น เพราะ “เอ็นดูเขา เอ็นเราขาด”

“จะแจ้งข้อหาแอมหลายอย่าง ก็ต้องเอาคืนเหมือนกันค่ะ ก็ไม่ยอมเหมือนกัน เราเป็นคนเด็ดขาด อยู่ฝั่งไหนอยู่ฝั่งนั้น เลือกฝั่งผิดชีวิตเปลี่ยน” ทนายพัช กล่าว...

คุณอาจสนใจ

Related News