สังคม
ตำรวจส่งสำนวนคดี 'แอม ไซยาไนด์' อีก 14 คดี - 'ทนายพัช' เผยถอนตัว ไม่ได้แก้เกี้ยว แก้เก้อ
โดย panisa_p
26 พ.ย. 2567
14 views
ความคืบหน้าคดีของเเอมไซยาไนด์ ล่าสุดวันนี้ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ส่งสำนวนคดีจำนวน 14 สำนวนให้กับอัยการเเล้ว โดยมั่นใจในพยานหลักฐาน ซึ่งจะชี้ให้เห็นถึงพฤติกรรมอันโหดเหี้ยมของผู้ต้องหา คือเป็นการฆ่าแบบต่อเนื่อง
เมื่อช่วงสายของวันนี้ พลตำรวจโทธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อม พันตำรวจเอกเอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม นำทีมคณะพนักงานสอบสวนคดีแอมไซนาไนด์ มาที่สำนักงานอัยการ
เพื่อส่งสำนวนคดีของนางสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือ แอม ผู้ต้องหาในคดีวางไซยาไนด์ผู้อื่น อีก 14 คดีที่เหลือ หลังจากก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ศาลชั้นต้นได้มีคำรพิพากษาประหารชีวิตแอม ในคดีวางไซยาได์สังหารนางสาวศิริพร ขันธ์วงศ์ หรือก้อย ซึ่งเสียชีวิตที่ท่าน้ำ จังหวัดราชบุรี
โดยสำนวนคดีทั้ง 14 คดีที่นำมาส่งให้นายสัญจัย จันทร์ผ่อง อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญาในวันนี้ แบ่งเป็นสำนวนคดีที่มีผุ้เสียชีวิต 13 คดี และผู้รอดชีวิต 1 คดี มามอบให้กับพนักงานอัยการ กองคดีอาญา โดยสำนวนการสอบสวนพบว่ามีจำนวนมากกว่า 3 หมื่นแผ่น
ข้อหาที่ดำเนินคดีกับแอม มีหลายข้อหา ประกอบด้วย ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ปลอมปนอาหารและยา หรือเครื่องอุปโภคเพื่อบุคคลอื่น เสพหรือใช้หลักการปลอมปนนั้น น่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่สุขภาพ โดยเป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย
พลตำรวจโทธนายุตม์ เปิดเผยว่า คดีนี้ได้รับการมอบหมายให้เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน โดยมีทีมพนักงานสอบสวนของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และตำรวจภูธรในพื้นที่จังหวัดที่พบผู้เสียชีวิต เข้าร่วมการสอบสวนรวมทั้งสิ้น 14 สำนวน
โดยการสืบสวนสอบสวน ได้เริ่มต้นจากคดีหลักคือคดีการเสียชีวิตของก้อย ที่จังหวัดราชบุรี โดยผู้บัญชาการตำรวจภูุธรภาค 7 ได้ทำคดีมาอย่างต่อเนื่อง และนำสำนวนการสอบสวนให้กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ทำการรวบรวมพยานหลักฐาน และทำการสืบสวนสอบสวนทั้ง 14 สำนวน
จากการสืบสวนพบว่า การกระทำผิดครั้งนี้มีการไตร่ตรองไว้ก่อน มีมูลเหตุจูงใจวางแผนเชื่อมโยง จึงมีความเห็นสั่งฟ้องแอมทั้ง 14 สำนวน
นอกจากนี้ยังพบว่าแอม ได้ลงมือคนเดียว มีการวางแผนอย่างแยบยลในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ เเยกเป็น ตำรวจภูธรภาค 7 จำนวน 11 คดี ตำรวจภูธรภาค 4 จำนวน 2 คดี และ บช.น. 1 คดี
รวมผู้เสียชีวิต 14 คน บาดเจ็บสาหัส 1 คน ก่อเหตุตั้งแต่ปี 2558 -2566 รวมเวลานานกว่า 8 ปี
แม้ว่าคดีนี้จะไม่มีประจักษ์พยาน ที่เห็นว่าแอมวางไซยาไนด์กับเหยื่อ แต่ตำรวจมั่นใจในพยานหลักฐานโดยเฉพาะหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์ไม่สามารถหลอกลวงได้
พล.ต.ท.ธนายุตม์ บอกว่า หากไม่สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุ ก็อาจมีผู้เสียชีวิตมากกว่านี้ พฤติกรรมของคนร้ายมีความโหดเหี้ยม เลือดเย็น ใช้สารเคมีในอาหารและเครื่องดื่มเป็นอันตรายต่อชีวิต เป็นการฆ่าแบบต่อเนื่อง
ขณะที่อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา เปิดเผยว่า ขั้นตอนจากนี้จะให้อัยการพิจารณาสำนวนและดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ส่วนผลคำพิพากษาในคดีแรก ยังบอกไม่ได้ว่าจะมีผลต่อคดีอื่นหรือไม่ ต้องพิจารณาเป็นรายคดี
อีกด้านหนึ่ง ก็มีความเคลื่อนไหวมาจากทนายพัช หรือ นางสาวธันย์นิชา เอกสุวรรณวัฒน์ ย้ำถึงสาเหตุที่ตนเองถอนตัวจากการเป็นทนายความให้กับแอม โดยบอกว่า มาจากความเห็นไม่ตรงกัน เพราะเวลาที่เป็นทนายความ ก็จะมีการสอบข้อเท็จจริงลูกความ และเมื่อสอบเสร็จก็จะได้ข้อเท็จจริงอย่างหนึ่ง แต่พอไปนำสืบก็เห็นอะไรหลาย ๆ อย่าง แต่ลูกความมีแนวทางการต่อสู้คดีอีกแบบหนึ่ง จึงเรียกว่า"มีความคิดเห็นไม่ตรงกัน" ถ้าเห็นว่าความเห็นไม่ตรงกันก็ออก เพราะทนายความเป็นคนที่มาทีหลัง จะไม่รู้ข้อเท็จจริงทั้งหมด เพราะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่แรก
จากกรณีที่เกิดขึ้น ยอมรับว่ากังวลใจ และเครียด ส่วนประเด็นที่ถูกระบุว่า เป็นคนแนะนำให้แอมส่งของเข้ากระเป๋าแบรนด์เนมของก้อยนั้น ทนายพัชชี้แจงว่า ด้วยความเคารพของคำพิพากษาศาลชั้นต้น ในเมื่อศาลพิพากษามาเช่นนั้น ก็ต้องฟังเป็นแบบนั้นไปก่อน ส่วนถ้าไม่เห็นพ้องด้วย ก็มีสิทธิ์อุทธรณ์ ในส่วนนี้ก็ขอความเมตตาจากศาลอุทธรณ์
ยืนยันว่า การที่ถอยออกมาวันนี้ ไม่ได้เป็นการแก้เกี้ยว แก้เก้อ ถ้าเห็นว่าอยู่ตรงนั้นแล้วมันไม่ดีก็ถอยออกมา ไม่ถือว่าสายแต่ถือว่าการตัดสินใจด้วยตนเอง และผู้ใหญ่ก็บอกว่าให้ทำแบบนี้ จะดีกว่า ยีนยันว่า ไม่ช้าเพราะยังเป็นในส่วนของศาลชั้นต้น ยังมีส่วนของชั้นอุทธรณ์-ฎีกา
ด้านทนายไชยา คุ้มอ่ำ ที่เดิมเป็นทนายความของรองอ๊อฟ และจะรับเป็นทนายความให้กับแอม ก็เปิดเผยถึงแนวทางหลังจากนี้ว่า ในชั้นอุทธรณ์ได้ขอความเมตตาศาลอุทธรณ์
ส่วนหลักฐานพยานที่ใช้ คือในส่วนที่มีการว่าความกันมาแล้วในศาลชั้นต้น นอกเสียจากว่าจะมีหลักฐานใหม่จริงๆ และมีประโยชน์ที่ทำให้ถึงขนาดเปลี่ยนได้ ก็จะเสนอให้ศาลพิจารณาก่อน
ส่วนตัวไม่ได้รู้สึกกังวลใจ เพราะตัวลูกความมั่นใจ ถ้ามั่นใจทนายก็ต้องทำเต็มที่ ส่วนการส่งสำนวน 14 คดีให้กับอัยการ ก็ต้องขอดูในสำนวนก่อนว่าสำนวนรัดกุมมากน้อยแค่ไหน ถ้ามีหลักฐานชี้ชัดว่าแอมเป็นคนทำ ก็ฟัง เพราะว่ามีการสูญเสีย คดีแบบนี้ไม่มีการเข้าข้างกันอยู่แล้ว ต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย
แท็กที่เกี่ยวข้อง แอมไซยาไนด์ ,คดีแอมไซยาไนด์ ,ส่งสำนวนคดี ,ทนายพัช