'ทนายพัช' เผยเหตุผลถอนตัวเป็นทนาย 'แอม ไซยาไนด์' ปัดลอยแพ แต่เพราะความเห็นไม่ตรงกัน

ทนายพัช ยันถอนตัวจากการเป็นทนายความให้แอม ไซยาไนด์ทุกคดี ย้ำเป็นเรื่องความเห็นทางคดีไม่ตรงกัน ไม่โกรธแอม ที่ทำให้ถูกพิพากษาจำคุก แต่หลังจากนี้ก็คงจะไม่ไปเยี่ยมแอมอีก



เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา นางสาวธันย์นิชา เอกสุวรรณวัตร์ หรือทนายพัช ทนายความของนางสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือแอม ไซยาไนด์ เดินทางมายังศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เพื่อยื่นคำร้องขอถอนตัวจากการเป็นทนายความของแอม ไซยาไนด์



โดยทนายพัชได้เปิดใจในเรื่องนี้ว่านอกจากจะถอนการเป็นทนายความในคดีการเสียชีวิตของก้อย ซึ่งเป็นผู้เสียชีวิตรายที่ 14 ที่จังหวัดราชบุรี ที่ศาลมีคำพิภากษาประหารชีวิตก้อยแล้ว



ยังจะถอนตัวจากอีก 14 คดี ที่แอมตกเป็นผู้ต้องหา และพนักงานอัยการจะยื่นส่งฟ้องต่อศาลในวันพรุ่งนี้ (26 พฤศจิกายน) โดยรายละเอียดของการถอนตัวจากการเป็นทนายความ จะทำเป็นแถลงการณ์แจกให้สื่อมวลชนอีกครั้ง



ส่วนสาเหตุที่ตนถอนตัว เพราะความคิดเห็นของตนกับลูกความไม่ตรงกันในหลายประเด็น แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะเป็นความลับของลูกความ และไม่ได้เป็นการสละเรือ



อีกทั้งส่วนตัวถือว่าตนทำหน้าที่เสร็จสิ้นสมบูรณ์ในศาลชั้นต้นแล้ว ส่วนในชั้นอุทธรณ์ ก็เป็นเรื่องของแอม ที่จะต้องไปหาทนายความมาต่อสู้คดีเอง ซึ่งตนคงไม่ย้อนกลับไปตำหนิลูกความ และจะไม่เปิดเผยความลับของลูกความ จะปล่อยให้ความลับตายไปกับตน



ขอยืนยันว่าสาเหตุที่ตัดสินใจถอนตัวจากการเป็นทนายความให้แอม ไม่ใช่เพราะตนถูกศาลพิภากษาให้จำคุก 2 ปี ในคดีการเสียชีวิตของคุณก้อย แต่ตนได้คุยกับแอมแล้วตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยมีหลักฐานคือ ใบคัดทะเบียนราษฎร์ของแอมประกอบคำร้องถอนตัวจากการเป็นทนายความในคดีที่ลงวันที่ 16 ตุลาคม



ทั้งนี้หลังจากที่ตนตัดสินใจถอนตัวจากการเป็นทนายความ แอมก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่เชื่อว่าเขาเสียใจ เพราะอยู่ด้วยกันมานาน และแอมก็รั้งตนไว้ด้วย แต่จะห้ามอะไรได้ เพราะถ้าทนายไม่อยากทำ ทนายก็มีสิทธิ์



โดยที่ตนคงไม่ได้แนะนำทนายคนอื่นให้กับแอม เพราะในเรือนจำแอมก็น่าจะรู้จักทนายความเยอะ แต่ส่วนตัวมองว่า น่าจะหาทนายความมาทำคดีนี้ยาก เพราะคดีแอม เป็นคดีที่มีความซับซ้อน



หลังจากนี้ตนจะกลับมาทบทวนตัวเองว่าผิดพลาดอะไรบ้าง และจะเดินหน้าอุทธรณ์ต่อสู้คดีในส่วนของตัวเองต่อไป ซึ่งตนก็หวังว่าในชั้นอุทธรณ์จะได้รับความเมตตาจากศาล ทั้งนี้ตนไม่โกรธ ที่คำให้การของแอมจะต้องทำให้ตนได้รับโทษจำคุก 2 ปี แต่แค่รู้สึกติดใจ เพราะที่ผ่านมาตนทำงานอย่างตรงไปตรงมา ไม่เคยมีเรื่องเสียหายมาก่อน และหลังจากนี้คงจะไม่ไปเยี่ยมแอมอีกแล้ว



นอกจากนี้ทนายพัชยังเปิดเผยว่าจะเดินหน้าให้การต่อคณะกรรมการของศูนย์ป้องกันและปราบปรามการทรมานและ การกระทําให้บุคคลสูญหาย กรุงเทพมหานคร สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด ในเรื่องของการจับกุมแอมโดยไม่ชอบ ตาม พ.ร.บ.อุ้มหาย เนื่องจากเป็นคดีอาญาแผ่นดิน รวมถึงเตรียมแจ้งความแม่ของแอมกับพวก ในข้อหาให้การเท็จกับตำรวจ



ทั้งนี้ในระหว่างที่ทนายพัช เดินทางมาที่ศาล ได้บังเอิญเจอกับทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ซึ่งเป็นทีมทนายของก้อย คู่ความของแอม ซึ่งเดินลงมาจากศาลพอดี



ซึ่งเมื่อทั้งสองคนเจอหน้ากัน ก็เข้าไปคุยหยอกล้อ จับมือต่อหน้าสื่อมวลชน จากนั้นทั้งคู่ได้กอดคอกันให้สัมภาษณ์ โดยทนายเดชา บอกว่าที่จับมือกับทนายพัชเพื่อให้กำลังใจ ส่วนทนายพัช ก็บอกว่าทนายเดชา เป็นทนายอาวุโส และเป็นคนน่ารัก ซึ่งตนนับถือทนายเดชาในฐาะทนายรุ่นพี่



นอกจากนี้ทนายเดชา ยังบอกว่าที่ตนให้กำลังใจทนายพัช เพราะตนได้มีโอกาสพูดคุยกับอัยการผู้อุทธรณ์คดีนี้ โดยจะขอเพิ่มโทษจำคุกของทนายพัชจาก 2 ปี เป็น 5 ปี ส่วนของอดีตสามีแอมจะเพิ่มโทษหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ



ขณะที่ทนายพัชถามทนายเดชากลับว่า สมมุติว่าถ้าตนถูกยกฟ้อง ทนายเดชาจะดีใจหรือไม่ ซึ่งทนายเดชาบอกว่าดีใจ จากนั้นทนายเดชา ได้ถามทนายพัชกลับว่า ทนายพัชไม่ได้ทำใช่ไหม แล้วทำไมแอมถึงให้การซัดทอด ทนายพัชเลยตอบกลับไปว่า ไม่พูด เพราะอยู่ต่อหน้าศาล

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/1jHsTcPrlgI