คนไทยกลุ่มแรกจากซูดาน ถึงสนามบินบ่อทอง จ.ปัตตานีแล้ว โผกอดครอบครัวทันทีหลังได้เจอกัน

เครื่องบิน C-130 ที่ใช้อพยพพลเรือนตุรกีออกจากซูดานเกิดไฟไหม้ จนต้องลงจอดฉุกเฉินที่กรุงคาร์ทูมอีกครั้ง โดยไร้ผู้บาดเจ็บ ขณะที่การปะทะของกองทัพซูดานกับกองกำลัง RSF ยังคงดุเดือด แม้จะทั้งสองฝ่ายจะขยายระยะเวลาข้อตกลงหยุดยิงแล้วก็ตาม


กระทรวงกลาโหมของตุรกีเปิดเผยว่า เครื่องบินอพยพ C-130 ถูกโจมตีด้วยอาวุธเบา จนทำให้เครื่องยนต์ได้รับความเสียหายและเกิดไฟไหม้ โชคดีที่นักบินสามารถนำเครื่องกลับมาลงจอด ที่ฐานทัพอากาศวาดี ซีดนา (Wasi Seidna) ในกรุงคาร์ทูมได้อย่างปลอดภัย และขณะนี้กำลังดำเนินการซ่อมแซม


กองทัพซูดานได้กล่าวหาถึงการกระทำในครั้งนี้ ว่าเป็นฝีมือของกองกำลังกึ่งทหาร RSF ขณะที่ทางด้าน RSF ก็ออกมาปฏิเสธ และอ้างว่าเป็นฝีมือของกองทัพซูดาน พร้อมย้ำว่าฝ่าย RSF ยึดมั่นในข้อตกลงหยุดยิงเพื่อเปิดทางให้มีการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ทำให้ขณะนี้ ยังไม่แน่ใจว่าฝ่ายใดกันแน่ที่เป็นผู้ก่อเหตุ


แม้จะเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นแต่ทางกระทรวงกลาโหมของตุรกีก็ยืนยันว่า จะยังคงอพยพพลเรือนตุรกีจากฐานทัพอากาศวาดี ซีดนา รวมถึงประชาชนที่รออยู่ในเมืองพอร์ต ซูดาน บนชายฝั่งทะเลแดงต่อไป

แม้ว่าตอนนี้กองกำลังทั้งสองฝ่ายของซูดานจะตกลงให้มีการขยายระยะเวลาหยุดยิงออกไปอีก 3 วัน แต่ก็ยังมีรายงานว่าเกิดการสู้รบขึ้นในหลายพื้นที่ของกรุงคาร์ทูม นับตั้งแต่การสู้รบเปิดฉากขึ้นเมื่อวันที่ 15 เมษายน


จนถึงขณะนี้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 512 คน และบาดเจ็บอีก 4,193 คน ตามการรายงานของกระทรวงสาธารณสุข แต่หลายฝ่ายก็เชื่อว่าจำนวนที่แท้จริงอาจสูงกว่านี้มาก


ขณะเดียวกัน ก็มีชาวซูดานอีกหลายหมื่นคนต้องอพยพออกจากบ้านเรือน ส่วนประชาชนที่ยังไม่อพยพก็ต้องใช้ชีวิตอยู่ภายใต้ภาวะการขาดแคลนน้ำ, อาหาร, และเชื้อเพลิง


ส่วนการอพยพพลเรือนต่างชาติออกจากซูดาน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น มีเรืออพยพหลายลำเดินทางมาถึงฐานทัพเรือคิงไฟซาล (King Faisal Naval Base) ในเมืองเจดดาห์ โดยหนึ่งในนั้น บรรทุกชาวอินเดีย 326 คน และชาติต่าง ๆรวม 18 ชาติ อีก 195 คน


ส่วนวันนี้คนไทยกลุ่มแรกจากซูดานก็ได้เดินทางมาถึงที่สนามบินบ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี แล้ว เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา โดยมีนักศึกษาที่มีภูมิลำเนา อยู่ในจังหวัด ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สงขลา สตูล นครศรีธรรมราช และพัทลุง จำนวน 62 คน ซึ่งทันทีที่พวกเขาพบหน้ากับครอบครัว ก็ต่างเข้าสวมกอดกับพ่อและแม่และคนในครอบครัว ทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่น หลังจากผ่านเรื่องเลวร้ายมา


ส่วนเรื่องการศึกษาต่อนั้น ทางกระทรวงศึกษาธิการและ ศอ.บต. ได้เตรียมประเมินสถานการณ์ในขั้นต้นว่าจะเกิดความรุนแรงในซูดานขึ้นอีกหรือไม่ ซึ่งหากไม่สามารถกลับไปศึกษาต่อที่ซูดานต่อได้ ก็จะให้กลุ่มนักศึกษาได้เทียบโอนวิชากับทางมหาลัยวิทยาลัยในประเทศไทย เพื่อให้สำเร็จการศึกษาครบทุกขั้นตอน


ขณะที่คนไทยกลุ่มที่เหลืออีก 137 คน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ล่าสุดซาอุดีอาระเบีย ได้ช่วยอพยพพวกเขามาถึงเมืองเจดดาห์แล้ว 98 คน /อีก 34 คน อยู่ระหว่างเดินทาง ซึ่งจะถึงเมืองเจดดาห์ในวันนี้ ส่วนอีก 5 คนยังอยู่ในฝั่งซูดาน เพื่อรอการอพยพ