เปิดพิรุธ คดีหญิงปล่อยปลาวูบดับ ญาติเชื่อฆาตกรรม

การเสียชีวิตของ นส.ศิริพร อายุ 32 ปี ซึ่งญาติเชื่อว่าน่าจะเสียชีวิตแบบผิดธรรมชาติ วันนี้ข่าว 3 มิติ จะย้อนไปดูก่อนเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุ ที่ทำให้ญาติเชื่อว่ามีพิรุธ โดยผู้เสียชีวิตอยู่กับเพื่อนหญิง ซึ่งเป็นภรรยาของรองผู้กำกับและรู้จักกันมานับ 10 ปี แต่เหตุใด ไม่เข้าช่วยเหลือขณะผู้ตายล้มหมดสติ



ก่อนเสียชีวิตในวันที่ 13 เมษายน ซึ่งเป็นวันสงกรานต์ นส.ศิริพร ขันวงษ์ หรือน้องก้อย อายุ 32ปี มี ผู้หญิงมาหา ที่ร้าน ในอ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี โดยพูดคุยกันอยู่นาน มาทราบว่าหญิงที่มาหา ชื่อแอม เป็นภรรยาของรองผู้กำกับคนหนึ่ง ในพื้นที่ภาค 7



และวันที่ 14 เมษายน มีคนโทรศัพท์มาหาน้องก้อยในช่วงตี 4 โดยน้องก้อยบอกว่าขอเวลานอนสักพัก ในช่วงเกือบตี 5 จึงขับรถ

วีออสออกไป ซึ่งญาติมาทราบทีหลังว่า มีการพูดคุยกันว่า การออกไปทำธุระครั้งนี้ ห้ามบอกใครทราบ



โดยน้องก้อยได้ขับรถไปรอ นส.แอม ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในจ.กาญจนบุรี และน้องก้อยได้เปลียนมานั่งรถของแอม แทน โดยขับไปปั๊มน้ำมัน และซื้อของตามปกติ ซึ่งตำรวจยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่า เป็นผู้ใดที่ลงไปซื้อของ เนื่องจากหญิงชื่อแอมได้ให้ปากคำไปก่อนหน้านี้ว่า เป็นผู้ลงไปซื้อของ เครื่องดื่มเอง และได้ซื้อปลาเตรียมให้แล้ว จึงขับพาน้องก้อย มาที่ ริมแม่น้ำแม่กลองในอ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี มาถึงท่าน้ำในเวลา 8 โมงกว่า ในระหว่างนั้น น้องก้อยได้โทรศัพท์ไปหาพีชาย ในช่วงเวลา 8.11 นาที ว่าอยู่ที่ ริมน้ำ บ้านโป่ง หลังจากนั้นตามกล้องวงจรปิดก็จะเห็นว่า น้องก้อยได้เดินลงไปปล่อยปลา



ตามกล้องวงจรปิด พบว่า หญิงชื่อแอม ได้ชะโงกไปดูว่า น้องก้อยไปปล่อยปลา แล้วเป็นล้มลงไป เสียชีวิต แต่ไม่ได้เดินลงไปดู หรือให้การช่วยเหลือ หญิงชื่อแอมให้การภายหลังว่าต้องรีบไป จ.สุโขทัย เพื่อไปทำบุญ หลังจากน้องก้อยเป็นลมเสียชีวิต ญาติได้ติดต่อหญิงชื่อแอม ปฏิเสธว่าไม่ได้ไปด้วยกัน แต่เมื่อญาติเริ่มสงสัยเพราะน้องก้อยมีอาการกังวลและไม่อยากไปในวันเกิดเหตุ จึงมาพบในกล้องวงจรปิดว่าเป็นแอม ที่อยู่ด้วยในวันเกิดเหตุ และเป็นเพื่อนกันมานานนับ 10 ปี



อีกทั้งรถของน้องก้อยก็ถูกนำไปซ่อนไว้ที่ พักของตำรวจ ในจ.กาญจนบุรี แต่ยังไม่พบกระเป๋า 2ใบ ซึ่งมีเงินน่าจะกว่า 5หมื่นบาท เพราะน้องก้อยได้ไปกู้เงินจากแบงค์ 2 ล้านบาท ขณะนี้เหลืออยู่เพียง 4 แสนบาท



ขณะที่มีเพื่อนของ นส.แอม ที่เรียนด้วยกันมาตั้งแต่ชั้นมัธยม ก็มาเสียชีวิตในลักษณะเดียวกัน โดย นส.แอมได้ขับรถฟอร์จูนเนอร์สีขาว มารับเพื่อนไปร้านกาแฟแห่งหนึ่งในบ้านโป่ง ในช่วงสายของวันที่ 6 มค. เพื่อไปนั่งดื่มกิน และกลับมาส่งในช่วงบ่าย กลับมา มีอาการปวดท้อง ถ่ายท้องรุนแรง และเสียชีวิต ในห้องน้ำ



และญาติบอกว่า ปกติผู้ตายเป็นคนแข็งแรงดี เมื่อญาติดูในมือถือพบว่า มีการโอนเงินให้ นส.แอมไป6 หมื่นบาท หลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อ นส.แอมได้ อีกทั้งงานศพ ก็ไม่เคยมาร่วมงาน ทั้งที่เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เรียนมัธยม จึงได้แต่รอความเป็นจริงปรากฏ เพราะตัวเองเป็นแค่ชาวบ้าน



โดยขณะนี้มีรายงานว่า มีทั้งหมด 6 ราย ที่เสียชีวิต ในลักษณะเดียวกัน ซึ่งเบื้องต้น นส.แอม มีอาชีพรับจำนำจำนองรถ และเป็นภรรยาของรองผู้กำกับ ในจ.กาญจนบุรี



โดยรายที่ 1เสียชีวิตเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ปี2563 โดยพบกันระหว่างทำกิจกรรมที่ รร.นายร้อยตำรวจ และเป็นภรรยาตำรวจเหมือนกันเมื่อถูกชักชวนให้ร่วมลงทุนและเล่นแชร์ และนส.ถูกชวนไปทำบุญ ก็เสียชีวิต



รายที่ 2 เป็นเพื่อน รร.เดียวกัน ชื่อบี เสียชีวิตเมื่อ 6 มค 64 รายที่ 3 นส.กะณิกา รูู้จักันทางโซเชียล ชักชวนให้ลงทุนเสียชีวิต 12 ก.ย. 65 โดยนส.แอม ชวนไปทำบุญ และแวะปั๊มน้ำมัน ในจ.ราชบุรี โดยไม่ได้นำผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาล



รายที่4 เป็นเพื่อนตำรวจหญิง มีการเล่นแชร์ ด้วยกัน เสียชีวิตเมื่อ 10 ส.ค.2565 รายที่ 5 เป็นชายเสียชีวิตเมื่อ 12 มีนาคม 2566 และรายที่6 ห่างกันเพียงแค่เดือนเดียว น้องก้อยก็มาเสียชีวิตในวันที่ 14 เมษายนที่ผ่านมา