สังคม

ไม่รอด! 'จ่าสิบโท' มือแฮกเกอร์ โดนคุมตัวเข้าคุกทหาร - รมว.ดิจิทัล ยันไม่เกี่ยวกับการเมือง

โดย parichat_p

12 เม.ย. 2566

49 views

แม้หลายฝ่ายจะยืนยันว่า ไม่เกี่ยวกับการเมือง แต่ก็มีหลายฝ่ายเช่นกันที่ยังแคลงใจ หลังจากออกหมายจับ 9 วัน และเมื่อ 5 วันก่อน ตำรวจ และรัฐมนตรี กระทรวงดิจิทัลฯ แถลงข่าวว่า รู้ตัวคนแฮกข้อมูลส่วนบุคคลของคนไทยแล้ว แต่ยังจับตัวไม่ได้ เพราะเป็นทหาร จึงต้องรอประสานกองทัพก่อน กระทั่งวันนี้ ผู้ต้องหาคือ จ่าสิบโทเขมรัตน์ มือแฮกข้อมูล 55 ล้านคน จึงได้เข้ามอบตัว


นายทหารพระธรรมนูญ คุมตัว จ่าสิบโท เขมรัตน์ บุญช่วย นายทหารสังกัดขนส่งทหารบก ผู้ต้องหาตามหมายจับ ของศาลอาญารัชดา ในความผิด "ฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ" มาส่งมอบตัวให้กับ พนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บช.สอท.


จากกรณีที่จ่าสิบโทเขมรัตน์ เป็นแฮกเกอร์ 9 near แฮกข้อมูลคนไทย 55 ล้านรายชื่อ แล้วส่งข้อความไปข่มขู่บุคคลที่มีชื่อเสียง // ซึ่งในระหว่างที่นายทหารพระธรรมนูญ มาพบพนักงานสอบสวน ตัวผู้ต้องหาไม่ได้เดินลงมาจากรถตู้ แต่กลับไปปรากฏตัวนั่งในห้องสอบปากคำเรียบร้อยแล้ว


จากการสอบปากคำนาน เกือบ 3 ชั่วโมง พนักงานสอบสวน ก็ได้คุมตัว จ่าสิบโทเขมรัตน์ ออกไปค้นของกลางเพิ่มเติมที่ ห้องพัก ใช้เวลาตรวจค้นประมาณ 1 ชั่วโมง // ภายใน เจออุปกรณ์อิเล็คโทรนิคหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับการก่อเหตุ ทั้งฮาร์ดดิส 7-8 ตัว / อุปกรณ์รีโมทควบคุมทางไกล / โน๊ตบุ๊ก / คอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะหลายตัว / อุปกรณ์สำหรับซ่อมคอมพิวเตอร์ / เลาร์เตอร์ / พอกเก็ต Wi-Fi หลายเครือข่าย // ทำให้ตำรวจเชื่อว่าผู้ต้องหา มีความเชี่ยวชาญ มีความรู้ความสามารถ และไม่ใช่มือสมัครเล่นอย่างแน่นอน


ช่วงเย็นที่ผ่านมา จ่าสิบโทเขมรัตน์ ถูกนำตัวไปฝากขังยังศาลทหาร ก่อนถูกส่งตัวเข้าเรือนจำมณฑลทหารบกที่ 11 ทันที


พลตำรวจโทวรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพ ซึ่งสอดคล้องกับพยานหลักฐานที่เจ้าหน้าที่ได้มา // เบื้องต้น ผู้ต้องหาจบการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งมีความรู้ด้านไอที และมีความสนใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของตนเองอยู่ใน ดาร์กเว็บ ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่แฮคเกอร์นิยมใช้ซื้อขายแลกเปลี่ยนข้อมูลผิดกฎหมาย จึงได้ติดต่อขอซื้อข้อมูลส่วนตัวคนไทย จำนวน 8,000,000 เรคคอร์ด เป็นเงิน 8,000 บาท // จากนั้นได้นำรายชื่อส่วนหนึ่งโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย


ส่วนเจตนาที่ผู้ต้องหาทำไปนั้น จากการสอบปากคำ จำแนกออกมาได้ 3 เจตนา คือ

1.ประกาศขาย เพื่อต้องการเงิน // 2.ต้องการโพสต์ให้คนสนใจ โดยใช้ข้อมูลของบุคคลมีชื่อเสียง ในลักษณะการข่มขู่ // 3.ประเด็นเรื่องการเมือง // ซึ่งจะต้องสอบปากคำอย่างละเอียดเพื่อหาเจตนาที่แท้จริง


ด้านนายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า มีหมายจับตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน แต่กลับเพิ่งได้สอบสวนวันนี้ และไม่ได้เป็นการจับกุมแต่เป็นการมอบตัวด้วยซ้ำไป สงสัยว่า เรื่องนี้อาจเกี่ยวข้องกับ เสธ.คนดัง และต่อให้เป็นการซื้อข้อมูลมาจริง เหตุใดกระทรวงสาธารณสุข จึงนิ่งเงียบ เพราะวันนี้เรารู้แล้วว่าข้อมูลหลุดออกมาจากแอปฯหมอพร้อม คำถามสำคัญคือมีการป้องกันอย่างไร ที่สำคัญคือไม่ได้มีการสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนว่าจะมีวิธีการไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้อีก


นายรังสิมันต์ ฝากไปถึงนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ให้พยายามตามหาความชัดเจนจากรัฐเพื่อปกป้องประชาชน สิ่งที่กระทรวงดีอีควรทำคือให้ความปลอดภัยแก่ประชาชน ไม่ใช่มาบอกว่าคนที่พยายามตรวจสอบนั้นดิสเครดิต


ด้านนายชัยวุฒิ คมาธมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ยืนยันว่า การกระทำผิดของ จ่าสิบโท เขมรัตน์ บุญช่วย ไม่ใช่การแฮกข้อมูล และเบื้องต้นเป็นการกระทำโดยผู้ต้องหาเพียงคนเดียว แต่หากการสอบปากคำและพยานหลักฐานเชื่อมไปถึงใคร ก็จะดำเนินคดีโดยไม่มีข้อยกเว้น พร้อมยืนยันว่า การกระทำของผู้ต้องหานั้นไม่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง หรือ การเลือกตั้งที่จะถึงนี้ เนื่องจากการเลือกตั้งไม่ได้ใช้ระบบดิจิทัล แต่จะเป็นการดิสเครดิตหรือพยายามพูดไปในเรื่องทางการเมืองหรือไม่ ก็เป็นเรื่องของฝ่ายการเมืองที่เอามาพูดกันเอง

คุณอาจสนใจ

Related News