สังคม

ทบ.ยันให้ความร่วมมือเต็มที่ เร่งนำตัว 'จ่าสิบโท' 9near ส่งดำเนินคดี

โดย panwilai_c

8 เม.ย. 2566

275 views

ความพยายามจับตัวทหารยศจ่าสิบโท ที่ใช้ชื่อ ว่า 9near การแฮกข้อมูลส่วนบุคคลคนไทยกว่า 55 ล้านชื่อไปขาย ซึ่งแม้ว่าศาลจะอนุมัติหมายจับแล้ว แต่ขณะนี้ตำรวจยังไม่สามารถจับกุมตัวมาดำเนินคดีได้



โดยล่าสุด ผบ.ตร. ได้กำชับให้ตำรวจไซเบอร์ ประสานไปทางนายทหารพระธรรมนูญ เพื่อให้นำส่งตัวมาภายใน 7 วัน ขณะที่ทาง กองทัพบก ก็ออกมาชี้แจงว่า ทางกองทัพบก ยังไม่ได้รับเอกสารดังกล่าวมา และยืนยันจะให้ความร่วมมือเต็มที่ ที่จะนำตัว จ่าสิบโทแฮกเกอร์ ส่งตำรวจ และบอกว่า จ่าสิบโทคนที่ก่อเหตุ ไม่ได้ทำงานด้านไอที ของกองทัพ แต่เป็นเพียงพลขับ เรื่องที่เกิดก็เป็นก่อเหตุเป็นเรื่องส่วนตัว




พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวน อาชญากรรมทางเทคโนโลยี จะทำหนังสือไปยังต้นสังกัด พร้อมประสานนายทหารพระธรรมนูญนำตัว จ่าสิบโท เขมรัตน์ เข้ามาพบพนักงานสอบสวนตำรวจไซเบอร์ ภายใน 7 วัน หลังถูกศาลสามารถออกหมายจับ ตำรวจยังไม่สามารถควบคุมตัวได้ หลังก่อเหตุ นำข้อมูลบุคคลสำคัญและประชาชนออกมาเผยแพร่ เข้าข่ายความผิดฐาน นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย ต่อความมั่นคงของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน



พล.ต.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ขณะนี้ ทางกองทัพบกยังไม่ได้รับหนังสือจากตำรวจ แต่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ตั้งแต่รู้ว่ามีหมายจับ ก็ประสานต้นสังกัด ผู้บังคัญบัญชา เร่งติดตามตัวทหารรายรี้มามอบตัว แต่ยังไม่สามารถติดต่อได้ รวมทั้งประสานไปที่ครอบครัวของทหารรายนี้ แต่ก็ยังไม่มีใครสามารถติดต่อได้



กรณีนี้ ถือว่าเป็นการกระทำผิดส่วนตัว ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการรับราชการทหาร ซึ่งจาการตรวจสอบพบว่า ทหารรายนี้ ทำหน้าที่เป็นพลขับ ให้กับนายทหารคนหนึ่ง ส่วนการที่ไปแฮคข้อมูลต่างๆนั้น เป็นการกระทำส่วนบุคคล แต่ทั้งนี้การกระทำสร้างความเสื่อมเสียแก่กองทัพ ก็มีการพิจารณาตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องนี้ เพื่อดำเนินการทางวินัย



ส่วนกรณีสังคมตั้งข้อสังเกตว่า คดีนี้ทำไม ถึงจับยาก เพราะเจอ "ตอ" หรือไม่ หรือว่าทหารรายนี้เป็นเด็กของใคร



พล.ต.หญิงศริจันทร์ ระบุว่า แม้ว่าจะเป็นทหาร หากทำผิดก็ไม่มีการละเว้น ส่วนกรณีกระแสข่าวว่า ตำรวจเตรียมเข้าไปจับแล้ว แต่ต้องยกเลิกเพราะมีปัญหาบางอย่างนั้น พล.ต.หญิงศิริจันทร์ ระบุว่า ไม่ทราบต้องไปถามตำรวจ เพราะทั้งหมดทางทหาร ก็เพิ่งทราบรายละเอียดเมื่อวานนี้ ส่วนการออกหมายจับ แล้วไม่จับ หรือ มีใครสั่งให้ไม่จับ ทางทหารไม่ทราบ ต้องไปถามตำรวจ ซึ่งเชื่อว่า หากพบการทำผิด ตำรวจก็ต้องจับ กรณีนี้อาจจะเป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น ซึ่งตอนนี้ ทางกองทัพขอเร่งดำเนินการติดตามตัวทหารรายยนี้มาส่งมอบให้ตำรวจดำเนินคดีให้เร็ว



ส่วนที่ห้องพักของจ่าสิบโทเขมรัตน์ มีผู้พบเห็นว่ายังอยู่เมื่อไม่กี่วันมานี้ ยังมีร่องรอยของการปิ้งย่าง แต่เพิ่งออกจากห้องพักไปก่อนวันแถลงข่าว



ขณะที่มีรายงานว่า ตำรวจได้พบตัวจ่าสิบโทเขมรัตน์ ก่อนหน้านี้แล้ว แต่ไม่สามารถจับได้ เนื่องจากมีการขอไม่ให้จับ กระทั่งจ่าสิบโทเขมรัตน์หายตัวไปติดต่อไม่ได้ พร้อมภรรยาก็หายไปด้วยเช่นกัน

คุณอาจสนใจ

Related News