ปฏิบัติการทลายโกดังเถื่อนใน อ.ภาชี พบซุกสารเคมีอันตรายเกือบ 4 พันตัน

ข่าว 3 มิติ ติดตามปัญหาการลักลอบทิ้งสารเคมีมาโดยตลอด ส่วนใหญ่มักจะถูกเปิดเผยเมื่อมีการลักลอบทิ้งไปแล้ว แต่สิ่งที่จะได้พบต่อไปนี้ เป็นสารเคมีเฉพาะของเหลวเกือบ 4 พันตัน เก็บในโกดังเถื่อนที่ไม่ได้รับอนุญาตใดๆ โดยคนกลุ่ม กล้าที่จะก่ออิฐโบกปูนทับประตูทางเข้าออก เพื่อปกปิดอำพรางสารเคมีอันตรายเหล่านี้ด้วย



โกดังหลังที่ 3 นี้ เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายเข้ามาตรวจสอบพบสารเคมีในถังขนาด 200 ลิตรจำนวนมาก แต่เมื่อตรวจสอบและอายัดซ้ำในวันที่ 27 นอกจากไม่พบถึงขนาด 200 ลิตรแล้ว ยังพบว่าประตูเชื่อมไปโกดังหลังที่ 4 ถูกก่ออิฐปิดไว้ทั้ง 2 ประตู



เมื่อพังประตูแรกเข้าไป ก็พบว่ามีของเหลวสารเคมีจำนวนมาก กองปิดทับ ก็ทำให้เข้าไปสำรวจตรวจนับและเก็บตัวอย่างภายในโกดังหลังที่ 4 ไม่ได้อยู่ดี จนต้องประตูอีกด้านที่เพิ่งก่อปิดทับเช่นกัน



ที่ประตูฝั่งนี้เจ้าหน้าที่พบถังเบาท์ขนาด 1 พันลิตร พร้อมของเหลวสารเคมี มีฤทธิ์เป็นกรดรุนแรง ภายในโกดังหลังที่ 3 ก็ยังพบพิรุธว่ามีปลอกสายยางกองทับถมอยู่บนพื้นซีเมนต์ที่ก่อขึ้นสูงกว่าลานโกดัง จึงตัดสินใจพังลง และก็พบถังสารเคมี



ตอนนี้โกดังหลังที่ 3 เชื่อมต่อไปยังโกดังหลังที่ 4 ถูกพังกำแพงประตูลงแล้ว ถึงจะไม่กว้างเท่าประตูปกติแต่ก็เพียงพอ ที่เจ้าหน้าที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่าง และคำนวณพื้นที่ได้



ยังเหลือโกดังหลังที่ 5 ร่องรอยโบกปูนปิดทับกำแพงยังอยู่ อิฐ ปูนซีเมนต์และเหล็กเส้นก็ยังอยู่ทั้งที่โกดังถูกเข้ามาตรวสอบตั้งแต่วันที่ 24 แล้ว แต่คนกลุ่มนี้ นอกจากจะลักลอยย้ายสารเคมี ทำลายหลักฐานแล้ว ยังพยายามปกปิดอำพรางสารเคมีที่ซุกซ่อนไว้โดยไม่ได้รับอนุญาต เจ้าหน้าที่ต้องพังประตูโกดังหลังที่ 5 อีกครั้ง



กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมควบคุมมลพิษ และตำรวจปทส.ต้องกระจายกำลังกันตรวจสอบของกลางทั้งหมด โดยเฉพาะการเก็บตัวอย่างสารเคมี และของกลางเพื่อประกอบสำนวนคดีฟ้องร้องผู้เกี่ยวข้อง โดยสิ่งของที่พบมีทั้งขยะไม่อันตราย และขยะอันตรายที่อำพรางในโกดัง



ตำรวจปทส. ลงพื้นที่วันนี้และจะเป็นผู้รับคดีนี้จากสภ.ภาชีไปดำเนินการเอง ซึ่งอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานทั้งหมด โดยเอกสารบันทึกรถที่เข้าออกโกดังนี้ เป็นหนึ่งในหลักฐานนั้น หญิงคนนี้เป็นพนักงานดูแลความปลอดภัย และคอยเขียนบันทึกรถทุกคันที่เข้าออกโรงงานนี้ เธอยืนยันว่ารถบรรทุกที่นำสารเคมีไปทิ้ง อ.แก่งคอย ก็ เข้ามารับสารเคมีที่นี่เพราะเขียนบันทึกไว้



พนักงานหญิงคนนี้ ระบุว่าหลายครั้งที่มีการขนย้ายสารเคมี จะมีรถกระบะ 1 คันของบริษัทเอกอุทัย มาคอยดูแลจัดการ และทำงานในโกดังนี้ โดยเธอจดทะเบียนรถคันนั้นไว้ด้วย คือทะเบียน ยฉ 5060 ซึ่งเข้า-ออกที่นี่ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว เป็นต้นมา



บ่ายวันนี้ข่าว 3 มิติ ไปพร้อมตำรวจแก่งคอย จ.สระบุรี ที่ขอหมายค้นไปค้นบริษัทเอกอุทัย เพื่อหาหลักฐานบางอย่างเชื่อมโยงกับรถสารเคมีที่นำไปทิ้งอำเภอแก่งคอย แม้ว่าในโรงงานจะมีพนักงานตอกบัตร 21 คน แต่รปภ.แจ้งว่า ไม่มีคนอื่นอีกเลยอยู่ในสำนักงาน



อย่างไรก็ตาม ข่าว 3 มิติ พบรถกระบะทะเบียน ยฉ.5060 คันที่พนักงานหญิงบอกว่าเข้าออกโกดังเก็บสารเคมีนั้น กลับปรากฏว่าจอดอยู่หน้าบริษัทเอกอุทัย จำกัดด้วย แต่จะเป็นคนเดียวกันหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการสอบสวนนับจากนี้



แม้การตรวจค้นโกดัง ที่อำเภอภาชี จะแล้วเสร็จตามเงื่อนไขที่ขอหมายศาลไว้ แต่ก็พบปัญหาอื่นๆอีกมาก โดยเฉพาะสารเคมีอันตราย นอกจากลักลอบเก็บในโกดัง ก็ยังพบจุดลักลอบเททิ้งลงคลองน้ำโดยตรง ซึ่งจะปนเปื้อนแหล่งน้ำสาธารณะแน่นอน