สังคม

แกะรอยเร่งหาตัวคนทิ้งกากขยะที่นิคมฯแก่งคอย หลังพบพยายามเปลี่ยนสารเคมีในรถของกลาง

โดย panwilai_c

23 ก.พ. 2566

216 views

ข่าว 3 มิติ ยังเกาะติดกรณีสารเคมีของเหลวอันตรายถูกลักลอบทิ้งในเขตนิคมอุตสาหกรรมแก่งคอย จ.สระบุรีและที่ดินของเอกชน วันนี้การนิคมอุตสาหกรรมแก่งคอย ว่าจ้าง บริษัทเอกชน ให้นำดินปนเปื้อนสารเคมีนี้ไปบำบัดแล้ว แต่ประเด็นหลักอยู่ที่การดำเนินคดีกับผู้ที่นำสารเคมีนี้มาทิ้ง และทีมข่าวที่ลงพื้นที่ก็ได้เบาะแสมากขึ้น ทั้งข้อมูลว่าความพยายามของคนกลุ่มหนึ่ง ที่สูบน้ำสารเคมีออกจากรถของกลาง แล้วนำสารเคมีอื่นมาปะปน เพื่อหวังจะบิดเบือนไม่ให้สารเคมีในรถตรงกับสารเคมีที่ถูกทิ้ง รวมถึงเบาะแสจาก

โทรศัพท์ของคนขับรถบรรทุกสารเคมี ที่พบการสื่อการทางไลน์กับบุคคลที่เชื่อมโยงกับบริษัทเอกชน รับขนย้ายขยะสารเคมี จ.พระนครศรีอยุธยา



สารเคมีของเหลวอันตราย ที่มีผู้ลักลอบทิ้งในพื้นนิคมอุตสาหกรรมแก่งคอย จ.สระบุรี ระหว่างวันที่ 8 และ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตอนนี้การนิคมฯแก่งคอย ว่าจ้างบริษัท เอกชนรายหนึ่ง ตักดินที่ปนเปื้อนออกไปกำจัดด้วยวิธีปรับสภาพให้มีค่าเป็นกลางแล้วฝังกลบด้วยวิธีปลอดภัย รวมดินปนเปื้อนที่ถูกขูดและตักออกไป 91 ตัน เป็นเงินค่าดำเนินการราว 3 แสน 3 หมื่นบาท เงินเหล่านี้จะฟ้องเรียกคืนจากผู้ก่อเหตุที่นำมาทิ้ง



อย่างไรก็ตาม ยังมีสารเคมีถูกทิ้งในทางระบายน้ำฝนบนที่ดินของเอกชนรายหนึ่ง นอกเขตนิคมฯแก่งคอย นายอำเภอแก่งคอย กำชับให้อุตสาหกรรมจังหวัด ประสานท้องถิ่นให้ นำไปบำบัด ก่อนจะมีฝนตกหนักจนเกิดการแพร่กระจาย



ถึงแม้สารเคมีบางส่วนจะถูกนำไปกำจัด แต่การสืบสวนหากลุ่มคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดกับสารเคมีเหล่านี้ยังไม่สิ้นสุด ข่าว 3 มิติได้ข้อมูล ตรงกันหลายฝ่ายว่าเคยมีผู้นำสารเคมีมาทิ้งที่เอกชนใกล้นิคมมาก่อนเมื่อ 2 ปีที่แล้ว โดยรถกระบะ จนเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก็มีรถพ่วง 1 คัน และรถบรรทุก 1 คัน นำของเหลวมาทิ้งอีกทั้งกลางวันและกลางคืน



ข่าว 3 มิติ ได้ข้อมูลผู้นำและองค์กรปกครองท้องถิ่น ต.สองคอน ยืนยันว่าตรวจน้ำเสียสารเคมีถูกทิ้งในทางระบายน้ำคืนวันที่ข่าว 9 กุมภาพันธ์ สารเคมีที่ถูกทิ้ง ออกจาก ถังแรกๆ อยู่ในร่องน้ำระบายน้ำฝนบนที่ดินเอกชน ลักษณะมีฟองเดือด กลิ่นเหม็นฉุนรุนแรง เมื่อทีมฝ่ายปกครองเดินสำรวจไปอีกในคืนนั้น จึงพบว่าสารเคมีถูกทิ้ง กระจายเข้ามาในเขตของการนิคมแก่งคอยด้วย



เช้าวันที่ 10 เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายจึงลงตรวสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง โดยได้เบาะแสว่ามีรถบรรทุกหัวสีเขียวคันหนึ่งนำมาทิ้ง ซึ่งบังเอิญมากที่ระหว่างนั้น รถบรรทุกคันนี้ ก็วิ่งเข้ามา ในที่เกิดเหตุอีกหวังว่าจะนำสารเคมีมาทิ้งอีกรอบจึงถูกจับได้ พร้อมสารภาพว่านำสารเคมีมาทิ้งจริง โดยรถถูกเคลื่อนย้ายไปเก็บรักษา ที่ลานจอดรถ อบต.สองคอน



ท่ามกลางความพยายามแกะรอยหาคนที่อยู่เบื้องหลังนำสารเคมีมาทิ้ง ข่าว 3 มิติได้เบาะแสว่า รถบรรทุกคันนี้ มีคนขับชื่อทรงวุฒิ และคนโดยสารมาด้วยอีก 1 คน ขณะถูก จับ รถไม่มีจีพีเอส และไม่มีเอกสารกำกับต้นทางปลายทาง ซึ่งตามกฎหมายของรถขนสารเคมีต้องมี



คนขับอ้างว่า เขาจอดรถแท็งค์เปล่าริม ถนนพหลโยธิน ช่วงอ.หนองแค โดยมีรถบรรทุกอีกคันนำของสารเคมีของเหลวมาถ่ายเทให้นายทรงวุฒิ และเขาได้มอบเบอร์โทรฯนี้ให้ตำรวจไปแล้ว



นอกจากนี้ เมื่อนำโทรศัพท์คนขับมาตรวจสอบ ก็พบการสนทนาทางไลน์กับชายคนหนึ่งในลักษณะคล้ายเจรจาว่าจ้าง และในไลน์นั้น คู่สนทนาปลายทางถ่ายรูป ชื่อที่อยู่ ของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง เพื่อให้คนขับนำไปใช้ออกใบกำกับภาษี



ที่จริงแล้ว เบอร์โทรศัพท์ของคนที่ขนสารเคมี ตามที่นายทรงวุฒิ มอบให้ตำรวจนั้น สามารถนำไป ตรวจสอบได้อีกว่าเป็นของบุคคลหรือบริษัท หากเป็นบุคคล ก็ตรวจสอบได้จากเลขประกันสังคมได้ว่า ขึ้นทะเบียนประกันสังคมกับบริษัท ตามที่ปรากฏให้ออกใบกำกับภาษีหรือไม่



ไม่เพียงเท่านั้น ระหว่างที่รถบรรทุกสารเคมีจอดอยู่ที่ลานจอด อบต.สองคอน ก็ปรากว่าเมื่อวันอาทิตย์ที่ 12 ที่ผ่านมา มีรถกระบะหนึ่งคันจอดเทียบข้าง พร้อมชาย 4 คน ทำกิจกรรมบางอย่างกับรถคันนี้



โดยข่าว 3 มิติ นำเสนอไปแล้วว่า เมื่อตรวจสอบทะเบียนรถกระบะ พบว่าเป็นรถในการครอบครองของบริษัทเอกชนรายหนึ่ง ทำกิจการ รับซื้อกากขยะเคมีอุตสาหกรรมไปบำบัด หรือรีไซเคิลใหม่ และชื่อบริษัทที่ครอบครองรถกระบะคันนั้น ก็เป็นบริษัทเดียวกัน กับข้อความทางไลน์ ที่ให้คนขับรถบรรทุกนำไปออกใบกำกับภาษี



ข่าว 3 มิติยังได้ข้อมูลที่คลายข้อสงสัยอีกขั้นหนึ่งว่า ในภาพที่เห็นรถกระบสีขาว พร้อมชาย 4 คนนั้นว่า มีผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า ทั้ง 4 คน นำไดโว่ หรือเครื่องสืบน้ำ สูบสารเคมีออกจากแท้งค์รถคันที่ถูกอายัดไว้ ไปใส่รถบรรทุกอีกคันที่คลุมผ้าใบ ที่จอดอยู่ข้างๆ ซึ่งภาพก็ปรากฎชัดเจนว่ามีรถบรรทุกจอดเคียง 1 คันและกระบะ 1 คัน ขณะเกิดเหตุผู้เห็นเหตุการณ์เข้าใจว่านี่เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้



แต่มีผู้ให้ข้อสังเกตุว่า มีความเป็นไปได้ว่าอาจเป็นการสูบน้ำเคมีจากรถของกลางไปใส่รถบรรทุกอีกคันที่จอดเคียงข้าง ซึ่งข้อสังเกตนี้พิสูจน์ได้โดยเทียบกับปริมาณของสารเคมีที่เหลืออยู่ในตอนนี้ กับตอนที่จับได้เมื่อวันที่ 10 ซึ่งขณะนั้นสารเคมีบรรทุกมาเต็มคันเพื่อนำมาทิ้ง



และข้อสังเกตที่ 2 เป็นไปได้ว่ากลุ่มคนดังกล่าวนำสารเคมีอื่น เข้าไปผสมเพื่อในแทงก์เพื่อเจือจาง หรือเปลี่ยนชนิดสารเคมีในรถ ไม่ให้ตรงกันกับสารเคมีที่ถูกทิ้งลงพื้นไปแล้ว แต่ข้อสังเกตนี้ก็พิสูจน์อยู่ดี เพราะเจ้าหน้าที่ได้เก็บตัวอย่างสารเคมีจากรถคันนี้ไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ถูกยึดอายัด ก่อนที่คนกลุ่มนี้จะมาพัวพันกับรถของกลางด้วยซ้ำ



ข้อสังเกตเหล่านี้ ล้วนแต่เป็นเบาะแสที่น่าจะนำไปสู่การตรวจหาคนที่อยู่เบื้องหลังได้ หากดำเนินการอย่างจริงจัง

คุณอาจสนใจ

Related News