สังคม

ทางการตุรกีเดินหน้าเอาผิด ผู้มีส่วนรับผิดชอบเหตุอาคารกว่า 6,000 แห่ง ถล่มจากแผ่นดินไหว

โดย panwilai_c

12 ก.พ. 2566

165 views

ทางการตุรกีออกหมายจับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อสร้างอาคารที่พังถล่มจากแผ่นดินไหว อย่างน้อย 113 คน วันนี้ ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตทั้งในตุรกีและซีเรีย เพิ่มขึ้นเกือบ 3 หมื่นคนแล้ว



ตำรวจตุรกี ประกาศให้คำมั่นสัญญาในวันนี้ว่า จะมีการสอบสวนอย่างละเอียดกับใครก็ตามที่ต้องสงสัยว่า มีส่วนรับผิดชอบต่อการพังถล่มของอาคารจำนวนมาก หลังเหตุแผ่นดินไหว



โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ตำรวจตุรกีได้จับกุมนายเมห์เมต ยาซาร์ คอสกุน นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่สนามบินอิสตันบูล ขณะที่เขาพยายามเดินทางออกจากประเทศไปยังมอนเตเนโกร



ตำรวจตุรกี ระบว่า ขณะนี้ มีผู้ถูกนำตัวมาดำเนินคดีนี้แล้วอย่างน้อย 12 คน ซึ่งประกอบด้วยผู้รับเหมาก่อสร้าง และคาดว่าน่าจะมีการจับกุมเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ



ขณะที่อัยการได้ออกหมายจับอย่างน้อย 113 หมาย กับผู้ที่เกี่ยวข้องกับอาคารที่พังถล่ม โดยได้ดำเนินการสอบสวนเหตุการณ์ตึกถล่ม ในหลายเมืองที่ได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหว เช่น ที่คาห์รามันมารัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางของแผ่นดินไหวในครั้งนี้



ขณะที่กระทรวงยุติธรรมของตุรกี ออกคำสั่งให้อัยการใน 10 จังหวัด จัดตั้ง "สำนักงานสอบสวนคดีอาชญากรรมเกี่ยวข้องแผ่นดินไหว" ขึ้นเป็นกรณีพิเศษ



อย่างไรก็ตาม การกระทำดังกล่าวของรัฐบาลตุรกี ถูกมองว่าเป็นความพยายามในการเบี่ยงเบนและลดความไม่พอใจของประชาชน เพราะตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา มีผู้เชี่ยวชาญหลายคนเคยออกมาเตือนว่า อาคารที่สร้างใหม่หลายแห่งถูกสร้างขึ้นมาอย่างไม่ปลอดภัยและไม่มีมาตรฐาน เนื่องจากการทุจริตในท้องถิ่น และนโยบายของรัฐบาลที่อนุญาตให้มีการอภัยโทษกับผู้รับเหมาก่อสร้างที่เคยละเมิดข้อบังคับการก่อสร้างอาคาร



ทั้งนี้ การพังถล่มของอาคารอย่างน้อย 6,000 หลังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ทำให้เกิดคำถามขึ้นมาว่า ผลกระทบของภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งนี้ ส่วนหนึ่งเกิดขึ้นจากความผิดพลาดของมนุษย์หรือไม่?



ส่วนปฏิบัติการกู้ภัยและค้นหาผู้รอดชีวิตที่ติดอยู่ใต้ซากปรักพักพัง ยังคงดำเนินต่อไปอย่างไม่ลดละ ถึงแม้จะผ่านมาแล้ว 6 วัน ท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวจัด ซึ่งทำให้ผู้ประสบภัยนับล้านประสบกับความยากลำบากในชีวิต และต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนมากขึ้น



อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความหวังที่ริบหรี่ ก็ยังคงมีปาฏิหาริย์ของการพบผู้รอดชีวิตที่อยู่ใต้ซากปรักหักพังเกิดขึ้น เช่น ที่เมืองฮาทัย ทางตอนใต้ของตุรกี เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยชีวิตของเด็กหญิงออกมาจากซากอาคารที่พักถล่ม หลังเด็กหญิงติดอยู่ข้างล่างนานถึง 150 ชั่วโมง



ที่เมืองเดียวกันนี้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยสามารถช่วยชีวิตพ่อและลูกสาว 5 ขวบออกจากซากอาคารออกมาได้อย่างปลอดภัย หลังติดอยู่ใต้ซากอาคาร 140 ชั่วโมง



และปาฏิหาริย์ยังเกิดขึ้นกับหญิงวัย 64 ปี เจ้าหน้าที่กู้ภัยสามารถดึงเธอออกจากใต้ซากอาคาร หลังติดอยู่ด้านล่างเป็นเวลา 150 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่เร่งนำตัวเธอส่งโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษาท่ามกลางความดีใจของครอบครัวของเธอ หลังจากที่รอคอยอย่างสิ้นหวังมาแล้วหลายวัน



ขณะที่เมืองคาห์รามันมาราส ชายคนหนึ่งติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังเป็นเวลา 140 ชั่วโมง ได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยออกมาได้อย่างปลอดภัย โดยเขายังมีสติดี พร้อมกับชูกำปั้นกลางอากาศ และพูดว่า พระเจ้า คือ ผู้ยิ่งใหญ่ ขณะกำลังถูกยกออกมาจากซากปรักหักพัง



ส่วนที่ซีเรีย เมื่อวานนี้ นายทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การอนามัยโลก เดินทางลงพื้นที่ประสบภัยแผ่นดินไหวที่เมืองอะเลปโป และไปเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บที่โรงพยาบาล เขาให้สัมภาษณ์ว่า สถานการณ์ในอะเลปโปนั้น "น่าสลดใจมาก" และว่าความช่วยเหลือจากนานาชาติจะทะยอยเดินทางเข้ามายังอเลปโปเรื่อย ๆ



ด้านนายมาร์ติน กริฟฟิธส์ (Martin Griffiths) รองเลขาธิการฝ่ายกิจการมนุษยธรรม และผู้ประสานงานด้านการบรรเทาทุกข์ฉุกเฉินขององค์การสหประชาชาติ ให้สัมภาษณ์กับสื่อ ขณะเดินทางลงพื้นที่เมืองคาห์รามันมาราส ทางตอนใต้ของตุรกี ว่าจากการประเมินความเสียหาย เขาคิดว่ายอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ อาจเพิ่มสูงขึ้นจากตัวเลขปัจจุบันอย่างน้อย 2 เท่า หรือกว่า 5 หมื่นคน



ขณะนี้ ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดทั้งในตุรกีและซีเรียอยู่ที่ 2 หมื่น 8 พัน 191 คน ในจำนวนนี้อยู่ในตุรกี 2 หมื่น 4 พัน 617 คน และซีเรียอีก 3 พัน 574 คน นับเป็นเหตุภัยพิบัติทางธรรมชาติ ที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดอันดับที่ 7 ของโลกในศตวรรษนี้ และเกือบเท่ากับเหตุแผ่นดินไหว ในอิหร่าน เมื่อปี 2003 ที่มีผู้เสียชีวิต 31,000 คน

คุณอาจสนใจ