สังคม

บช.น.ชี้ ยังไม่พบหลักฐาน ปมหญิงไต้หวันอ้างถูกตร.รีดไถ เร่งประสานเรียกเจ้าตัวให้ปากคำ

โดย panwilai_c

29 ม.ค. 2566

40 views

ความพยายามหาข้อเท็จจริง กรณีนักท่องเที่ยวหญิงชาวไต้หวัน โพสต์ข้อความลงสื่อออนไลน์ กล่าวหาว่าเธอถูกตำรวจนครบาลห้วยขวาง เรียกรับเงินมากถึง 2 หมื่น 7 พันบาท แลกกับการถูกปล่อยตัว ระหว่างถูกตรวจค้นในด่านของตำรวจ แต่ล่าสุดโฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล ยืนยันว่ายังไม่พบหลักฐานชัดเจนว่า ตำรวจเรียกรับเงินหญิงคนดังกล่าว ขณะเดียวกันก็อยู่ระหว่างเร่งประสานหน่วยงาน ต่างประเทศ เพื่อประสานนักท่องเที่ยวสาวชาวไต้หวันคนดังกล่าว และเพื่อนอีก 3 คน มาให้ข้อมูล หรือหากมีความจำเป็น ตำรวจไทยก็อาจเดินทางไปร่วมสอบปากคำด้วย



พลตำรวจตรีจิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะโฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยหลังการประชุมนานกว่า 2 ชั่วโมง ในการคลี่ปมกรณีนักท่องเที่ยวหญิงชาวไต้หวัน อ้างว่าถูกเรียกรับเงินจากด่านตรวจตำรวจนครบบาลห้วยขวาง โดยยืนยันว่าขณะนี้สอบปากคำพยาน ไปแล้วหลายปาก เบื้องต้น ยังไม่พบหลักฐานชัดเจนว่ามีการเรียกรับเงินตามถูกกล่าวอ้าง และขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบวัตถุพยาน ทั้งกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ กล้องหน้ารถของคนขับแกร็ป และกล้องคอมแบทคาเมร่าที่ติดตัวของตำรวจ ทั้งหมดถูกส่งให้กองพิสูจน์หลักฐานแล้ว



มีรายงานว่า กล้องหน้ารถของคนขับแกร็ป ไม่สามารถกู้ไฟล์ภาพวิดีโอได้ถึงวันที่เกิดเหตุ เนื่องจากระยะเวลาผ่านเลยมานานกว่า 20 วัน แต่ในส่วนอื่นๆขณะนี้อยู่ระหว่าง การตรวจสอบเพิ่มเติม



ขณะที่ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กับตำรวจที่ปฎิบัติหน้าที่ในวันดังกล่าวแล้ว รวมถึงตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น // ส่วนประเด็น การตรวจค้นบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย ยืนยันว่าสามารถดำเนินคดีได้ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร ในฐานะผู้ครอบครอง แต่ยืนยันว่าไม่มีใครยื่นบุหรี่ไฟฟ้าให้สาวชาวไต้หวัน ตามที่กล่าวอ้าง



โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล ยังระบุว่ากล้องในที่เกิดเหตุ มองเห็นภาพไม่ชัดเจนว่ามีการเรียกรับเงินหรือไม่ แต่ยืนยันได้ว่ามีกลุ่มนักท่องเที่ยวอยู่บริเวณนั้นตลอดเวลา 47 นาที ส่วนเพื่อนชาย ทั้ง 3 คน ที่เดินทางมาด้วยกันในวันเหตุ ตำรวจตรวจสอบแล้วพบว่า ทั้ง 3 คน เดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 5 และ วันที่ 9 มกราคม แต่ปลายทางไม่ใช่ที่เดียวกันกับหญิงชาวไต้หวัน



ขั้นตอนหลังจากนี้ จะให้กองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประสานไปยังกระทรวงต่างประเทศ เพื่อประสานไปยัง สำนักงานเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวไต้หวัน เพื่อให้ประสานกับตำรวจไต้หวัน เข้าไปสอบปากคำหญิงสาวคนดังกล่าว ทั้งนี้หากทางไต้หวัน ต้องการให้ตำรวจไทยร่วมสอบปากคำด้วย ก็พร้อมจะส่งเจ้าหน้าที่ไปสอบทันที



ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้น ยอมรับว่าส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และความเชื่อมั่นการท่องเที่ยวในประเทศไทย จึงต้องการให้สาวชาวไต้หวัน และพยาน เข้ามาชี้แจงข้อเท็จจริงกับตำรวจเพื่อให้กระจ่างมากขึ้น และยืนยันว่าไม่ได้ปกป้องหรือทำลายพยานหลักฐานต่างๆเพื่อช่วยเหลือตำรวจชุดกล่าว หากพบว่ามีการรีดทรัพย์สาวชาวไต้หวันจริงก็จะดำเนินการโดยไม่ละเว้นทางวินัยและอาญา

คุณอาจสนใจ

Related News