ชาวเลเดินทางยื่นหนังสือถึง มท. จี้ถอนเอกสารสิทธิ์เถื่อน เกาะหลีเป๊ะ

ชาวเลเกาะหลีเป๊ะ เดินทางถึงกรุงเทพแล้วเข้ายื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ขอให้คุ้มครองสิทธินักเรียน สวัสดิภาพครู และปกป้องที่ดินของโรงเรียนบ้านเกาะหลีเป๊ะ อย่างเร่งด่วน และยื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ออกโดยมิชอบ ซึ่งมีผลการตวจสอบมาแล้วตั้งแต่สมัยนายบรรหาร ศิลปอาชา เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เมื่อกว่า 33 ปีก่อน



ตัวแทนชาวเลเกาะหลีเป๊ะ มอบค้อน ให้นายสุทธิ ปัญญาสกุลวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายนริศ ขำนุรักษ์ ซึ่งเป็นตัวแทนมารับหนังสือจากชาวเล ที่ยื่นต่อนายอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เรียกร้องขอให้เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ดินในเกาะหลีเป๊ะที่ออกโดยมิชอบ ซึ่งค้อน เป็นสัญลักษณ์ที่ให้กรมที่ดินดำเนินการในการถอนหมุดที่ดินที่ออกโดยมิชอบ พร้อมทั้งนำหลักฐานประวัติศาสตร์ชาวเลเกาะหลีเป๊ะ ตั้งแต่ยุคบุกเบิกในปี 2440 จนได้ถือครองเอกสารสิทธิ์ สค.1 แต่ถูกกระบวนการโกงที่ดิน ทำให้ไม่มีชื่อชาวเลใน นส.3 และกลายเป็นข้อพิพาทในปัจจุบัน



โดยมีหลักฐานสำคัญคือผลการตรวจสอบของนายบรรหาร ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เสนอต่อคณะรัฐมนตรี เมื่อปี 2533 มีข้อสั่งการให้กรมที่ดินเพิกถอน ส.ค.1 จำนวน 17แปลง และ นส.3 12 แปลงที่ออกมาโดยมิชอบ



นอกจากนี้ยังมีรายงานของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เมื่อปี 2549 ที่พบว่าความไม่ถูกต้องในการเปลี่ยนมือเอกสารสิทธิ์จาก ส.ค.1 ของชาวเล มาเป็น นส.3 ที่มีทั้งเลขที่บ้านการมอบอำนาจไม่ตรงกัน มีการซื้อขายภายในวันเดียว และยังมีเนื้อที่ใน นส.3 บวม จาก ส.ค.1 เดิม ไม่ต่ำกว่า 8 แปลง ชาวเลจึงเรียกร้องให้กระทรวงหาดไทยตรวจสอบและดำเนินการเรื่องนี้ภายใน 6 เดือน



นายสุทธิ เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยได้รับเรื่องจากชาวเลในทันที และปัญหานี้นายกรัฐมนตรีได้แต่งตั้งพลตำรวจโทสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานแล้ว ในส่วนกรมที่ดินก็ต้องตรวจสอบเรื่องที่เกี่ยวข้องทั้งหมด



และนอกจากปัญหาที่อยู่อาศัยแล้ว ยังมีปัญหาทางเดินสาธารณะ ลำรางสาธารณะ และ ทางลงชายหาด ทางเข้าโรงเรียนบ้านเกาะหลีเป๊ะ ที่เกิดข้อพิพาทกับเอกชน ปิดทางเข้าโรงเรียน



ชาวเลเกาะหลีเป๊ะได้ยื่นหนังสือถึงนางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เรียกร้องให้คุ้มครองสิทธิ สวัสดิภาพของนักเรียน ครู และปกป้องที่ดินของโรงเรียนบ้านเกาะหลีเป๊ะ จากกรณีเอกชนมาปิดท้างเข้าออกจนกลายเป็นข้อพิพาททำให้ชาวเลถูกฟ้องร้องขับไล่ และกำลังเป็นวิกฤตปัญหาของชาวเล เนื่องจากมีการรุกล้ำที่ดินของโรงเรียน ซึ่งผิดไปจากแผนที่ราชพัสดุที่มีรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า เนื้อที่ 6 ไร่เศษ จึงห่วงปัญหาบานปลายจนกระทบกับความปลอดภัยของเด็กและครู



การเดินทางเข้ากรุงเทพของชาวเลเกาะหลีเป๊ะในครั้งนี้ยังต้องการให้คนไทยได้รู้จักชาวเลเกาะหลีเป๊ะ ผู้บุกเบิกเกาะหลีเป๊ะและเป็นพยานสำคัญในการปักปันเขตแดนให้เป็นของประเทศไทย แต่ผ่านมากว่า 125 ปีกลับถูกทอดทิ้งจากรัฐไทย ไม่มีแม้กระทั่งสิทธิที่อยู่อาศัย สิทธิของชาติพันธุ์ท้องถิ่นดั้งเดิมที่มีอัตลักษณ์ วัฒนธรรม ที่น่าภาคภูมิใจ แต่ไร้ซึ่งศักดิ์ศรีความป็นมนุษย์