'บิ๊กโจ๊ก' ลงพื้นที่เกาะหลีเป๊ะ สั่งเอาผิดเอกชน 5 ราย ข้อหาบุกรุก พร้อมให้รื้อรั้วปิดทางเข้าโรงเรียน

การลงพื้นที่อีกครั้งของ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่เกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล ในวันนี้มีความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาที่ดินชุมชนชาวเลอูรักลาโว้ย โดยเฉพาะพื้นที่พิพาทโรงเรียนบ้านเกาะหลีเป๊ะ กรมธนารักษ์ ได้ดำเนินคดีเอกชน 5 ราย บุกรุกที่ราชพัสดุ และสั่งการให้รื้อรั้้วปิดทางเข้าโรงเรียน รวมถึงกรมอุทยานฯได้ดำเนินการบังคับคดีรีสอร์ทบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติตะรุเตา 8 แห่ง



พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแหงชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงกรณีปัญหาข้อพิพาทในที่ดินที่เกี่ยวข้องกับชุมชนชาวเลเกาะหลีเป๊ะ ลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยแบ่งเป็นการตรวจสอบพื้นที่บุกรุกอุทยานแห่งชาติตะรุเตา ซึ่งนายนริทร์ ประทวนชัย รองอธิบดีกรมอุทยานฯ รายงานว่าพบการบุกรุกรวม 8 จุด ในเนื้อที่ 60 ไร่ จึงมีการแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดี และมีการบังคับคดีที่กรมอุทยานฯ ได้ดำเนินคดีผู้บุกรุก 44 คดี



ในจำนวนนี้มี 22 คดีที่ศาลฏีกาพิพากษาแล้ว และ 8 คดีที่ยังไม่เพิกถอนและยื่นอุทธรณ์ ทำให้กรมอุทยานต้องดำเนินการในติดป้ายประกาศให้ออกจากพื้นที่ภายใน 15 วัน หากไม่ดำเนินการเจ้าหน้าที่จะทำการเพิกถอนและจะถูกดำเนินคดีอาญา



ส่วนข้อพิพาทพื้นที่โรงเรียนบ้านเกาะหลีเป๊ะ นายสมมาตรา มณีหยัน รองอธิบดีกรมธนารักษ์ รายงานผลการรังวัดที่ดินร่วมกับกรมที่ดิน พบการบุกรุกของเอกชน 5 รายในพื้นที่ราชพัสดุ 6 ไร่ 3 ราย จึงได้แจ้งความดำเนินดคีแล้ว รวมถึงพื้นที่ทางเดินเข้าโรงเรียนที่เป็นกรณีพิพาทให้ประสานเอกชนทำการรื้อถอนต่อไป



พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ส่วนที่ดิน น.ส.3 ที่ออกโดยมิชอบ ได้ยืนยันแผนที่ตรงกันล้ว ในมติที่ประชุมจากผู้เชี่ยวชาญภาพถ่ายทางอากาศของกรมสอบสวนคดีพิเศษและกรมอุทยาน นายณัฐพร โตประยูร ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย จะดำเนินการประสานตั้งคณะกรรมการตามมาตรา 6/1 เพื่อทำการเพิกถอนต่อไป



และในระหว่างการประชุมรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้สอบถามปลัดอำเภอเมืองสตูล ถึงการแก้ปัญหาการบุกรุกลำรางสาธารณะ และการปล่อยให้มีโรงแรมไม่มีใบอนุญาตกว่า 100 แห่ง แต่กลับไม่ดำเนินการใดๆ หากปล่อยปละละเลยก็จะดำเนินคดีเจ้าหน้าที่รัฐฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่



ขณะที่ชาวเลอูรักลาโว้ย ได้มาถือป้ายขอให้เพิกถอนเอกสารสิทธิที่ออกมิชอบก็จะเป็นคำตอบให้ชาวเล และดีใจที่การแก้ปัญหามีความคืบหน้าหลังจากคณะกรรมการชุดพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล ได้รับการแต่งตั้งและลงพื้นที่ภายใน 2 สัปดาห์ แต่ยังต้องติดตามว่าเอกชนจะยินยอมในการรื้อถอนรั้วปิดกั้นทางเข้าโรงเรียนหรือไม่ รวมถึงการตรวจสอบเอกสารสิทธ์ นส.3 เลขที่ 11 ที่เป็นข้อพิพาทสำคัญกับชาวเลอุรักลาโว้ยด้วย