สังคม
ปปป.เตือนผู้มีชื่อบนซองเงิน 'อธิบดีอุทยานฯ' หากไม่มาให้ปากคำในฐานะพยาน อาจตกเป็นผู้ต้องหาแทน
โดย panwilai_c
9 ม.ค. 2566
31 views
คืบหน้าคดีที่อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ถูกกล่าวหาว่า เรียกรับสินบน และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ล่าสุดผู้บังคับการตำรวจป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปป. ยืนยันว่ามีพยานหลักฐาน มากพอสำหรับการเอาผิดผู้ต้องหา แต่ยังต้องการสอบปากคำ บุคคลผู้มีชื่อบนซองธนบัตรของกลางทั้งหมด ซึ่งได้ออกหมายเรียกไปแล้ว 1 ครั้ง แต่ยังไม่ตอบรับว่าจะมา ให้การหรือไม่ พนักงานสอบสวนจึงต้องออกหมายเรียกให้มาเป็นพยานอีกครั้ง หากไม่มา จะเดินทางไปสอบสวนเองถึงสำนักงาน ซึ่งอาจถูกสอบปากคำในฐานะอื่น
ผู้บังคับการตำรวจ ปปป.ระบุว่ายังมีเจ้าหน้าที่ทะยอยมาให้ปากคำ ในคดีที่อธิบดีกรมอุทยานฯ ถูกจับดำเนินคดีฐานเรียกรับสินบน และปฎิบัติหน้าที่มิชอบ ซึ่งผู้ที่มาให้ปากคำแล้วและประสานจะมาเพิ่ม เป็นผู้ได้รับผลกระทบที่ถูกเรียกเก็บเงินโดยไม่สมัครใจ
ส่วนเจ้าหน้าที่ ซึ่งมีชื่อบนซองธนบัตรทั้ง 21 ซอง เป็นบุคคล 14 ชื่อ และหัวหน้าหน่วยงานอีก 7 ชื่อ ได้ออกหมายเรียกไปแล้วให้มาเป็นพยาน โดยกำหนดให้มาให้ปากคำวันที่ 11 และ 12 มกราคมนี้ แต่จนถึงขณะนี้บุคคลเหล่านั้นยังไม่ติดต่อมา และหากครบกำหนดแล้ว จะออกหมายเรียกอีกครั้งในวันที่ 13 มกราคม ซึ่งจะยืดเวลาไปได้อีก 7 วัน หากภายใน 7 วันนั้น ยังไม่มาให้ปากคำ พนักงานสอบสวนจะต้องไปสอบปากคำที่สำนักงาน นั้นๆ และหากพนักงานสอบสวนไปพบเอง อาจไม่ใช่การสอบในฐานะพยาน
พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ระบุว่ามีความเป็นไปได้ว่าบุคคลที่มีชื่อบนซองธนบัตร อาจกังวลใจว่ามีความหมิ่นเหม่ ที่จะผิดกฎหมาย แต่ยืนยันว่าตำรวจให้ความเป็นธรรมในการสอบปากคำเต็มที่ เพื่อให้คดีเดินหน้าต่อไปได้
ขณะเดียวกันก็ยืนยันว่าสำนวนคดีจะแล้วเสร็จ ทันกำหนดที่จะส่ง ป.ป.ช.เพราะมีพยานหลักฐานในคดีเงิน 9 หมื่น 8 พันบาท ซึ่งเป็นสำนวนคดีตั้งต้นได้ครบถ้วนแล้ว แต่เมื่อพบเงินเพิ่มอีกกว่า 4 ล้าน 8 แสนบาท และมีเชื่อบุคคลอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องก็ต้องสอบให้ครบองค์ประกอบ
มีรายงานว่า พรุ่งนี้จะเจ้าหน้าที่ไปให้การเป็นพยานอีก 6 คน ระดับผู้อำนวยการส่วน 3 คน และระดับหัวหน้าหน่วยงานอีก 3 คน