สังคม

ถอดบทเรียน 'ไฟไหม้กาสิโนปอยเปต' ประสาน 2 ประเทศร่วมมือ ป้องกันซ้ำรอย

โดย panwilai_c

8 ม.ค. 2566

82 views

เหตุเพลิงไหม้กาสิโน ที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา ตั้งแต่กลางดึกวันที่ 28 ธันวาคม ปีที่แล้ว ผ่านมา 10 วัน ฝ่ายไทย ได้สรุปยอดผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ และถอดบทเรียน การทำงานร่วมกันสองประเทศ ต่อกรณีภัยพิบัติต่างๆ เพื่อแก้ปัญหาไม่ให้เกิดโศกนาฏกรรมซ้ำสอง



นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุเพลิงไหม้โรงแรมแกรนด์ไดมอนด์ ซิตี้ แอนด์ คาสิโน ปอยเปต ประเทศกัมพูชา ว่า ได้รับรายงานจาก นพ.ประภาส ผูกดวง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว ว่ามีการปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉิน ด้านการแพทย์และสาธารณสุข เพื่อตอบโต้สถานการณ์ พร้อมทั้งสรุปข้อมูลการปฏิบัติการ ตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2565 - 5 มกราคม 2566 โดยมีผู้บาดเจ็บทั้งหมด 115 คน แบ่งเป็นรักษาในโรงพยาบาล 35 คน



อาการที่เข้ารับการรักษา คือ ทางเดินหายใจ สำสักควัน 76% อาการทางกระดูก 12% และแผลไฟไหม้ ระดับ 1 อีก 12% โดยมีผู้บาดเจ็บที่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ เนื่องจากสำลักควัน 12 คน ทั้งนี้ในวันที่ 29 ธันวาคม 2565 ซึ่งเป็นวันแรกที่รับผู้บาดเจ็บ เป็นผู้ป่วยอาการหนักสีแดง 10 คน ปานกลางสีเหลือง 9 คน และเล็กน้อยสีเขียว 16 คน ส่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลทั้งในจังหวัดสระแก้ว และใกล้เคียง จากนั้นจึงส่งต่อรักษาตามภูมิลำเนา ได้แก่ สระแก้ว 6 คน กรุงเทพมหานคร 5 คน นครศรีธรรมราช 2 คน สกลนคร 2 คน และจังหวัดอื่น ๆ อีก 12 จังหวัดๆ ละ 1 คน ไม่ทราบที่อยู่ 8 คน ทุกคนมีแนวโน้มอาการดีขึ้นตามลำดับ ปัจจุบันคงเหลือผู้บาดเจ็บสีเหลือง 4 คน และสีเขียว 3 คน



ส่วนผู้เสียชีวิตที่ประเทศกัมพูชามี 25 คน เป็นคนไทย 19 คน เนปาล 1 คน ยังไม่ทราบสัญชาติ 5 คน รักษาแล้วเสียชีวิตที่ประเทศไทย 1 คน และยังมี ผู้สูญหายรอการพิสูจน์ 4 คน ศพรอพิสูจน์ที่ประเทศกัมพูชาอีก 5 คน



นายแพทย์โอภาสกล่าวต่อว่า หลังปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินฯ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว ได้มีการประชุมสรุปผลการดำเนินงาน ทบทวนปัญหาอุปสรรค และถอดบทเรียนการปฏิบัติการ เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ฉุกเฉิน และภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยมีแนวทางการพัฒนา



คือ 1.ทบทวนแผนโครงสร้างสายบัญชาการ และสายปฏิบัติการให้เป็นปัจจุบัน ทั้งจังหวัดสระแก้วและจังหวัดคู่แฝดในประเทศกัมพูชา 2.ให้มีการซ้อมแผนเตรียมความพร้อม อย่างน้อย 1 ครั้งต่อปี 3.ให้มีการติดตามข้อมูลผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิตจากฝั่งประเทศกัมพูชา และ 4.สร้างระบบ Twin City และ Twin Hospital ระหว่างประเทศไทยและประเทศกัมพูชา

คุณอาจสนใจ

Related News