สังคม

เร่งสอบที่ดิน รง.แวกซ์ กาเบ็จ หลังพบร่องรอยรุกป่าหวงห้าม จ่อแจ้งเอาผิด

โดย panwilai_c

1 ก.ค. 2565

143 views

กรมป่าไม้และหลายหน่วยงาน ตรวจสอบทางสาธารณะ ซึ่งอยู่ใจกลางโรงงาน แวกซ์ กาเบ็จ รีไซเคิล เซนเตอร์ อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ที่ถือว่าอยู่ในพื้นที่ป่าตามกฎหมายว่าด้วยป่าไม้ หลังชาวบ้านเคยร้องเรียนว่าถูกโรงงานปิดกั้นมานาน จนเข้าไปใช้ประโยชน์ไม่ได้ ล่าสุดเจ้าหน้าที่พบร่องรอยการเทถนนคอนกรีต และร่องรอยประตูที่ปิดกั้นทางสาธารณะ ซึ่งผิดกฎหมาย พรบ.ป่าไม้ 2484 จึงอยู่ระหว่างคำนวณความกว้างทางสาธารณะดังกล่าว เพื่อเป็นข้อมูลแจ้งความดำเนินคดี



แม้จะที่เจ้าหน้าที่หลายหน่วยร่วมภารกิจตรวจสอบทางสาธารณะครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นสังกัดกรมที่ดิน ตำรวจปทส. สปก. โดยประสานอำนาจตรวจสอบจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม แต่เจ้าหน้าที่หลักที่ในภาระกิจนี้คือศูนย์ป่ามไม้ราชบุรี กรมป่าไม้ เพราะทางสาธารณะประโยชน์ดังกล่าว ที่โรงงานแวกซ์ กาเบ็จ รีไซเคิลเซนเตอร์ มาตั้งอยู่สองฝั่งถนน ถือเป็นทางที่อยู่ในพื้นที่ป่าตามกฎหมายว่าด่วยการป่าไม้ และเมื่อสืบย้อนหลังจะพบว่าบริเวณนี้ อยู่ในพื้นที่กำหนดเขตหวงห้ามที่ดินป่าเขาล้อมรั้ว ปี 2488 ทำให้การตรวจสอบมุ่งไป 2 ประเด็นคือสำรวจการถือครองเอกสารสิทธิ์เบื้องต้นและตรวจสอบทางสาธารณะ



มองจากมุมนี้จะเห็นถนนสาธารณะถูกเทคอนกรีตยาวประมาณ 580 เมตร และคอนกรีตไปสิ้นสุดก่อนจะถึงห้วยน้ำพุประมาณ 30 เมตร ถัดจากนั้นจะเป็นแนวป่ารกร้าง แต่ก็เห็นชัดเจนว่าถนนนี้ทะลุไปถึงห้วยน้ำพุที่อยู่ถัดไปได้



บริเวณนี้ไม่มีสิ่งปลูกสร้างใดปิดกั้นทางสาธารณะ เพราะเป็นปลายทางลงไปสู่ลำห้วยที่ค่อนข้างลาดชัน แต่หากมองจากมุมนี้จะเห็นว่าทางสาธารณะที่ทอดยาวมาประมาณ 580 เมตร เหลือหย่อมป่าละเมาะต้นกระถิน ต้นเล็บเหยี่ยวราว ไม่ถึง 30 เมตร ก็จะทะลุลำห้วยน้ำพุได้



และผลการตรวจสอบของศูนย์ป่าไม้ราชบุรี ก็พบว่ามีร่องรอยการทำถนนคอนกรีตและร่องรอยการสร้างประตูปิดกั้นเส้นทาง ซึงผิดมาตรา 54 พรบ.ป่าไม้ 2484 แต่ยังไม่มีหลักฐานว่าทางสาธารณะนี้ ดั้งเดิมมีความกว้างเท่าใด คณะทำงานจึงจะขอรับสำเนาแผนที่ระหว่างที่ดินบริเวณนี้ เพื่อไปคำนวณขอบเขตแปลงที่ดินทั้งซ้ายและขวาของถนน หลังจากนั้นก็จะทราบความกว้างของทางสาธารณะได้ และเป็นข้อมูลแจ้งความดำเนินคดี



ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายยืนยันตรงกันว่า โรงงาน มี นส3. ก. 1 แปลง เนื้อที่30 ไร่ อยู่ฝั่งซ้ายของทางสาธารณะ และอีก 4 แปลง เป็นโฉนดที่ดิน อยู่ฝั่งขวาของทางสาธารณะ รวมถึงโรงงาน 3 หลัง ที่ถูกเพลิงไหม้ด้วย



แน่นอนว่าเอกสารสิทธิ์เหล่านี้ออกจากกรมที่ดินอย่างถูกต้องอยู่แล้ว แต่หากที่ดินทั้งหมด ซึ่งออกตามกฎหมาย ออกทับที่สงวนหวงห้ามในราชการกรมป่าไม้ ให้กรมป่าไม้รวบรวมพยานหลักฐานส่งให้กรมที่ดิน เพื่อแต่งตั้งคณะกรรมการไต่สวนและยกเลิกได้ ตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน



นอกจากนี้ การตรวจสอบวันนี้ ก็มีเจ้าหน้าที่ สปก.จังหวัดราชบุรีลงพื้นที่ พร้อมยืนยันพิกัดและข้อมูลจากคณะกรรมการแก้ไขปัญหาระดับจังหวัดว่า ลานปูนเอนกประสงค์ เนื้อที่ราว 10 ไร่ ด้านหน้าของโรงงาน ก็อยู่ในเขตปฏิรูปที่ดิน หรือสปก. ซึ่งที่ดินแปลงนี้ เดิมเป็น นส.3 ของเอกชนรายอื่น แต่สปก.ซื้อมาเป็นกรรมสิทธิ์สปก.แล้วรวมกับแปลงอื่นๆ แล้วจัดสรรให้เกษตรกรทำกินตามวัตถุประสงค์ของ สปก. แต่ตอนนี้กลับเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่โรงงาน



เจ้าหน้าที่ สปก.ระบุว่า เคยมีการสอบถามข้อเท็จจริงและโรงงานอ้างว่า ได้ทำข้อตกลง หรือ MOU กับเกษตรกรเจ้าของที่ดินแปลงนี้เรี่องนี้การทำประโยชน์ โดยไม่ได้เปลี่ยนแปลงชื่อผู้ถือครองแต่อย่างใด ซึ่งเท่ากับยืนว่าเจ้าของที่ดินยังเป็นเกษตรกร แต่การที่ ที่ดินไม่ได้ถูกใช้เพื่อเกษตรกรรมนั้น จะผิดเงื่อนไข สปก.หรือไม่ เป็นประเด็นที่ สปก. จะต้องตรวจสอบเพิ่มเติม

คุณอาจสนใจ