หลายฝ่ายจี้ 'ประยุทธ์' ดูแลคดีค้ามนุษย์ เอี่ยวลูกอดีต ส.ส. และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่

คดีค้ามนุษย์ ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ยังไม่สามารถจับกุมลูกอดีต ส.ส.ในพื้นที่ได้ และกระบวนการเอาผิดทางวินัย กับข้าราชการระดับสูงของกระทรวง พม.ยังไม่ชัดเจน แม้จะมีการโยกย้ายแล้วก็ตาม วันนี้ หลายส่วนจึงเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี ลงมาจัดการ เพราะ คดีมีความเกี่ยวข้องกับเครือญาติของพรรคร่วมรัฐบาล และกระทรวง พม. ก็ดูแลโดยพรรคที่เกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาในคดี

คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว หลายหน่วยงานร่วมจับกุมคดีค้ามนุษย์ บังคับเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ให้ค้าประเวณี ตำรวจขยายผลจนรู้ว่า 1 ในลูกค้าที่ซื้อประเวณี เป็นลูกชายอดีต ส.ส. ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ต่อมาตำรวจสืบสวนสอบสวนจนรู้ว่า มีเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือ พม. ทั้งในบ้านพักเด็กและครอบครัว ที่สุราษฎร์ธานี และข้าราชการระดับรองอธิบดี ได้พยายามกดดัน ทำร้ายเด็กผู้เสียหาย ที่เข้าไปฟื้นฟูจิตใจและร่างกายในบ้านพักเด็กและครอบครัว เพื่อไม่ให้เด็กซัดทอดลูกชาย อดีต ส.ส. ทำให้วันนี้ หลายภาคส่วน พยายามเรียกร้อง ให้รัฐบาล ลงมาจัดการเรื่องนี้ให้ชัดเจน ไม่เช่นนั้น ลูกนักการเมืองคนดังกล่าว ที่ก่อคดีมาแล้วถึง 6 คดี แต่คดีกลับถูกยกฟ้องเกือบทั้งหมด และที่สำคัญ ข้าราชการกระทรวง พม. ที่มีหน้าที่ดูแลเด็ก กลับมากระทำผิดเสียเอง

ตั้งแต่เกิดเหตุ จนถึงวันนี้ ศาลได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้งสิ้น 41 คน แบ่งเป็น แม่เล้า 12 คน ผู้ซื้อบริการ 28 คน และผู้สนับสนุน 1 คน และให้ความคุ้มครองเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี 10 คน ความคืบหน้า วันนี้ พ.ต.อ.กิตติพงษ์ ทองทิพย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นหัวหน้าชุดปฎิบัติการปราบปรามการล่วงละเมิดต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต ของตำรวจภาค 8 เปิดเผยถึงการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กสุราษฎร์ธานีที่ทำร้านเหยื่อ ว่า ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหานายสุวัฒน์ เผ่าพันธุ์ ซึ่งมีหน้าที่เป็นครูพี่เลี้ยงแล้ว คาดว่าจะสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการได้ หลังรับผลการตรวจร่างกายของผู้เสียหาย

ส่วนกรณีการตรวจสอบพบว่ามีข้าราชการระดับสูงในกระทรวง พม.เข้ามาเกี่ยวข้องในการข่มขู่พยานเพื่อช่วยเหลือลูกนักการเมืองนั้น ได้สอบปากคำผู้เกี่ยวข้องแล้ว 3 ปาก และพยานแวดล้อมจำนวนหนึ่ง รอเพียงพยานเอกสารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และคาดว่าจะสามารถส่งสำนวนให้ ปปช.ประจำจังหวัดสุราษฎรธานี ได้ภายในสัปดาห์นี้

ด้าน นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการะกระทรวง พม.ชี้แจงว่า เรื่องนี้แยกเป็น 2 ส่วน คือ เรื่องการทำคดี อยู่ในความรับผิดชอบของตำรวจ และ เรื่องการเยียวยาผู้เสียหายและเหยื่อเป็นหน้าที่ของ พม. ซึ่งได้มีการสอบสวนเรื่องนี้ ยืนยันว่าหากมีการทำผิดจะไม่เว้นใครแม้แต่คนเดียว ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย และระบุว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นมา 6 เดือนแล้ว แต่กระทรวง พม.ไม่เคยได้รับรายงานมาก่อน

ด้าน นางทิชา ณ นคร ที่ปรึกษามูลนิธิเด็กเยาวชนและครอบครัว ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า หลังจากเด็กๆที่เป็นผู้เสียหายถูกช่วยเหลือออกมา พื้นที่ปลอดภัยที่รองรับเด็กๆคือ บ้านพักเด็กและครอบครัว แต่ผู้ต้องหาในคดีหลายคนมีชื่อเสียง มีอิทธิพล ตามข่าวลูกชายส.ส.ในพื้นที่ยังหลบหนี ส่วนเด็กๆผู้เสียหาย 5+1 ที่ส่งเข้าบ้านพักเด็ก ก็ระบุชื่อผู้ต้องหาที่เป็นลูกชายส.ส.ที่กำลังหลบหนี ตามข้อมูลของทีมตำรวจ ระบุว่า รองอธิบดีกรมหนึ่งในกระทรวง พม. คือ ผู้สั่งการ ช่วยเหลือ ในโพสต์ยังระบุอีกว่า "ลูกชายบ้านนี้คดีเยอะ คงพอนึกออกนะว่า เพราะอะไร " และยังโพสต์ภาพด้วยว่า " ชายในภาพ คือ เจ้าหน้าที่บ้านพักฯที่ทำร้ายเด็ก ผู้เสียหายเพื่อปกป้องลูกชายส.ส.ที่หนีคดี

 ขณะที่ นายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล แถลงเรียกร้องให้นายกฯเข้ามาจัดการเรื่องนี้ โดยบอกว่า อยากเห็นบทบาทของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ควรสั่งตั้งกรรมการสอบหรือพักงานนายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ก่อน เนื่องจากผู้ที่ถูกกล่าวหาในเรื่องนี้เป็นลูกอดีต ส.ส. เป็นน้องชาย ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ ที่เกิดเหตุ และนายจุติ ก็เป็นรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ จึงมีความกังวลว่าจะสามารถเอาคนผิดมาลงโทษได้หรือไม่