คาดแรงงานมีความรู้ "ภาษาอาหรับ" กลุ่มแรกได้เดินทางไปซาอุฯ

กระทรวงแรงงานเตรียมกำหนดแนวทางรับแรงงานไทยไปทำงานที่ซาอุดิอาระเบีย หลังลงนามความตกลงนำเข้าแรงงานแบบรัฐต่อรัฐ โดยคาดว่าคนไทยที่มีความรู้ภาษาอาหรับ แรงงานมีฝีมือเช่นก่อสร้าง จะได้มาก่อนเป็นกลุ่มแรก ในขณะที่แรงงานไทยที่ยังทำงานในซาอุดิอาระเบีย มากว่า 30 ปี ต่างอยู่ในวัยเกษียณ ก็ดีใจที่จะมีแรงงานไทยรุ่นใหม่มาแทน 

นายริน ศรีบุญเรือง ในวัย 71 ปี ชาวจังหวัดนครราขสีมา ยังคงทำงานเป็นช่างซ่อมรถยนต์ ในกรุงริยาด ซาอุดิอาระเบีย เป็นเวลา 44 ปีแล้วนับจากปี 2521 นายจ้างและลูกค้าชื่นชอบและไว้ใจในผลงานจึงอยากให้ทำงานมาตลอดแม้ในช่วงที่ลดความสัมพันธ์

ขณะที่ นายเถลิง เขียงคำ และ นายถนอม สระใต้ ก็ทำงานที่ซาอุ มากว่า 30 ปีแล้ว ดีใจที่คนไทยจะได้กลับมาทำงานเพราะพวกเขาอายุกว่า 60 ปี อยู่ในวัยเกษียนณที่อยากกลับไปใช้ชีวืตในไทยแล้ว

เช่นเดียวกับ นายคำไต ฤกษ์งาม อายุ 74 ปี ชาวสกลนคร ก็ยังเป็นช่างเชื่อมในอู่แห่งนี้ ก็อยากให้มีแรงงานรุ่นใหม่มาแทน ซึ่งที่อู่ของเขาก็กำลังรับสมัครแรงวานอีก 5 คน

นอกจากนี้ นายประเสริฐ วงศ์วิสิทธิ์ อายุ 68 ปี และนายบุญยิ่ง ช่างอุบาย อายุ 64 ปี ทำงานในร้านอาหารครัวไทย เข้ามาทำงานเมือปี 2530 เป็นเวลากว่า 35 ปี แล้ว อย่างนายบุญยิ่ง ได้กลับไทยเพียง 1 ครั้งเพราะเดินทางลำบาก ส่วนนายประเสริฐ ได้กลับน้อยมากเพราะไม่มีคนทำงานแทน

ในจำนวนแรงงานไทยที่มาทำงานในซาอุชุดแรกๆ มีพ่อของนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่ปัจจุบันอายุ 74 ปี จากลูกของกรรมกร ที่เคยมาทำงานก่อสร้างสนามกีฬา King Fahad ร่วมกับแรงงานไทยที่มีปีละกว่า 2 แสนคน สามารถส่งเงินเลี้ยงดูครอบครัวที่ ขณะนั้น นายสุชาติ อายุเพียง 11 ปี จึงรู้สึกภาคภูมิใจที่เป็นแรงงานไทยในซาอุดิอาระเบีย และได้กลับมาทำหน้าที่ลงนามครั้งประวัติศาสตร์นำเข้าแรงงานไทยในรอบ 32 ปี

นายสุชาติ เปิดเผยว่า รูปแบบการนำเข้าแรงงานไทยมายังซาอุดิอาระเบีย ในครั้งนี้จึงแตกต่างจากอดีตที่จะใช้แบบรัฐต่อรัฐ แต่มีการประสานผ่านเอกชน ซึ่งจากการหารือกับ นายอัจลัน บิน อับดุลอาซิซ อัลอัจลัน ประธานสภาหอการค้าซาอุดีอาระเบีย มีความต้องการแรงงานไทยอย่างมากทั่วประเทศ ตามแผนพัฒนา 2030 ซึ่งมีประเภทงานกว่า 70 ประเภท

เช่นเดียวกับ บริษัทจัดหางาน SMASCO นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน และนางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกกระทรวงแรงงา พบว่า ซาอุดีอาระเบียต้องการแรงงานจำนวนมาก โดยเฉพาะงานบริการ ท่องเที่ยว โรงแรม โลจิสติกส์ การบริการสุขภาพ การผลิต และการก่อสร้าง ซึ่งหากคุณสมบัติ เช่นภาษอาระบิค และ ภาษาอังกฤษ จะดีมาก

การกระทรวงแรงงาน จึงคาดว่าแรงงานกลุ่มแรกที่มีโอกาสมาทำงานชุดแรก มีกลุ่มมุสลิมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทางศอบต.ระบุที่มีความพร้อมกว่า 1,2000 คน ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาที่จบจากซาอุและตะวันออกกลางโดยจะกลับหารืออย่างแรงด่วน โดยแเรงงาน จะได้รับสวัสดิการประกันสังคม ที่รัฐกำหนดให้นายจ้างต้องทำให้แรงงานต่างด้าว

นอกจากนี้ในการหารือกับ นายฟาหัด บิน อับเดอราห์มาน อัล จาลาเจล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขซาอุดีอาระเบีย ก็เน้นถึงความต้องการบุคลากรทางการแพทย์ ที่ซาอุ กำลังพัฒนาด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี ที่มีการใช้ระบบการรักษาทางไกล ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเตรียมนำมาปรับใช้กับการดูแลแรงงานผู้ประกันจากสิทธิประกันสังคมด้วย