ครบ 1 เดือนเหตุปิดล้อมจับ ชาวจะนะยังผวา วอนสร้างความเข้าใจคนในพื้นที่

ครบ 1 เดือนหลังจากเกิดเหตุปิดล้อมจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับคดีความมั่นคงที่ตำบลบ้านนา อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องวิสามัญฆาตกรรมผู้ต้องหา 3 ราย และเจรจาให้มอบตัว 1 ราย แต่จากการปิดล้อมที่ส่งผลกระทบให้ประชาชนชุมชน ทำให้ยังหวาดกลัว แต่ขอให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อชี้แจงสร้างความเข้าใจให้กับประชาชนในพื้นที่ ซึ่งคณะกรรมาธิการการกฏหมายการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน เตรียมตรวจสอบกรณีการวิสามัญฆาตกรรมทั้ง 56 กรณีที่มีการร้องเรียนเพื่อรายงานต่อสภาผู้แทนราษฎร

คณะกรรมาธิการการกฏหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎรนำโดยนายชวลิต วิชยสุทธ์ รองประธานคนที่ 1 รักษาการแทนประธานกรรมาธิการฯ ลงพื้นที่ บ้านโคกเค็ต ตำบลบ้านนา อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา หนึ่งเดือนหลังเหตุการณ์ปิดล้อมจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับคดีความมั่นคง ส่งผลให้ผู้ต้องหาถูกวิสามัญฆาตกรรม 3 ราย มอบตัว 1 ราย

ซึ่งครอบครัวได้ร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการเพื่อขอให้ตรวจสอบขั้นตอนการปฏิบัติงานในการปิดล้อมของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ เนื่องจาก อ.จะนะ จังหวัดสงขลา เป็นพื้นที่ที่ใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ต่างจากพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และกฏอัยการศึก ทำให้ประชาชนในพื้นที่หวาดกลัวการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐ

คณะกรรมาธิการยังได้ไปเยี่ยมบ้านของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปิดล้อม ซึ่งมีร่องรอยกระสุนของผู้ต้องหาที่ถูกวิสามัญฆาตกรรมเสียชีวิตอยู่หน้าบ้าน ทำให้ครอบครัวนี้หวาดกลัว ต้องไปนอนบ้านญาติมา 1 เดือนแล้ว เพิ่งกลับมานอนบ้านเมื่อวาน ยังไม่กล้าไปกรีดยาง สูญเสียรายได้ และยังเป็นห่วงลูกที่อายุเพียง 3 ขวบ ที่ยังตกใจกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และทราบว่าทางตำรวจได้มาทำแผนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ และยังรอการเยียวยาจากภาครัฐ รวมทั้งอยากให้เจ้าหน้าที่ระมัดระวังการปฏิบัติงานไม่ให้กระทบกับประชาชนผู้บริสุทธ์

นอกจากนี้ยังมีกรณีที่ภาพจากกล้องวงจรปิดในวันเกิดเหตุของร้านค้าหน้ามัสยิด ถูกลบออกไปหลังมีเจ้าหน้าที่มาขอตรวจสอบ เป็นหนึ่งในข้อร้องเรียนไปยังคณะกรรมาธิการ ซึ่งพบว่ามีกำลังทหารพร้อมอาวุธมาลาดตระเวนในพื้นที่จนสร้างความหวาดกลัวให้ประชาชน

คณะทำงานคณะกรรมาธิการยังมีการเสนอให้ตั้งคณะทำงานตรวจสอบกรณีการวิสามัญฆาตกรรม และการใช้กฏหมายพิเศษที่เกิดขึ้นเพื่อความโปร่งใส และลดความหวาดระแวงระหว่างรัฐ ที่พบว่ากำลังบานปลายกลายเป็นความไม่เชื่อมั่นต่อกระบวนการรยุติธรรมของรัฐ

ล่าสุด มีรายงานว่า นายประเสริฐ เหาะโส๊ะ บิหลั่นมัสยิดนูรุลอีมาน ที่เป็นผู้ให้ข้อมูลกับคณะกรรมาธิการ ถูกตำรวจสภ.จะนะ เชิญตัวไปพบโดยอ้างว่ามีหมายจับ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จาก สภ.โคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 8 มีนาคม ที่ผ่านมา เนื่องจาก นายจิรศักดิ์ เพ็งเลาะ ที่มอบตัว มีการซัดทอดผู้เกี่ยวข้องกว่า 40 คน

แต่นายประเสริฐ ยืนยันว่าไม่มีส่วนรู้เห็นและไม่เกี่ยวข้องไม่เช่นนั้นคงมีการหลบหนีไม่กล้าให้สัมภาษณ์สื่อหรือชี้แจงกับคณะกรรมาธิการ และขณะนี้กำลังถูกส่งตัวไปศูนย์ปฏิบัติการจังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อสอบสวน 7 วันตามอำนาจ พรก.ฉุกเฉิน

ซึ่งล่าสุด นายอาดิลัน ได้สอบถามไปยังพนักงานสอบสวนแล้ว เห็นว่ากรณีแบบนี้ตำรวจสามารถออกหมายเรียกมาสอบปากคำได้โดยไม่ต้องใช้กฏหมายพิเศษ ซึ่งทางคณะกรรมาธิการจะเร่งประสานงานให้การช่วยเหลือนายประเสริฐ และป้องกันการใช้กฏหมายพิเศษนอกพื้นที่ด้วย ฐปณีย์ เอียดศรีไชย ข่าว 3 มิติรายงาน