จับเครือข่ายค้ามนุษย์ ลวงคนไทยค้ากามที่ยูเออี พบคนมีสีเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง

ตำรวจศูนย์พิทักษ์ เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ(ศพดส.ตร.) ขยายผลจับผู้ต้องหาเครือข่ายค้ามนุษย์คนไทย 5 คน ที่หลอกลวงหญิงไทยไปค้าประเวณีที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งพบว่ามีข้าราชการอยู่เบื้องหลัง ขณะเข้าจับกุม 1 ในผู้ต้องหา พบเหยื่อ 2 คนอยู่ระหว่างการเตรียมเอกสารการเดินทาง

เจ้าหน้าที่ได้เปิดปฏิบัติการเข้าตรวจค้น 5 จุดเมื่อวานนี้ หลังการเดินทางไปนครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ของพลตำรวจโทสุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์ ศพดส.ตร. เพื่อประสานงานกับหน่วยความมั่นคง ในการช่วยเหลือคนไทยที่ถูกขบวนการค้ามนุษย์หลอกลวงไปค้าประเวณีที่นครดูไบ สามารถจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญได้รวม 5 คน

โดยเป็นกลุ่มผู้ต้องหาหญิงทั้งหมด ในความผิดฐาน เป็นธุระจัดหาล่อไป หรือชักพาไปซึ่งบุคคลใดเพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี

ผู้ต้องหากลุ่มนี้มีพฤติการณ์​เป็นนายหน้าหลอกลวงคนไทยชักชวนให้ไปทำงานนวดในต่างประเทศ โดยใช้ช่องทางออนไลน์ อ้างว่าจะได้ค่าตอบแทนที่สูงเพื่อให้เหยื่อสนใจ และยินยอมเดินทางไปทำงานในต่างประเทศ

แต่เมื่อเดินทางไปถึงกลับไม่ได้ทำงานตามที่ตกลงกันไว้ แต่ถูกบังคับให้ค้าประเวณีในสถานที่ที่ตั้งร้านนวดบังหน้า มีการยึดโทรศัพท์มือถือ ถูกทำร้ายร่างกาย บังคับให้ค้าประเวณีวันละ 7-10 คน และมีความเป็นอยู่ที่ลำบาก ถูกจับขังไม่ให้ออกไปไหนและไม่ให้เงินใช้ ซึ่งหากเหยื่อไม่ทำตาม ก็จะถูกบังคับให้ชำระหนี้หลักแสน

พลตำรวจโทสุรเชษฐ์ ยังเปิดเผยอีกว่า ในรอบปีที่ผ่านมา พบมีคนไทยถูกหลอกลวงไปทำงานค้าประเวณีที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และได้รับการช่วยเหลือกลับประเทศไทยแล้วมากถึง 300-400 คน โดยตำรวจพบว่าสามเมืองหลักในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คือ อัจมาน ดูไบ และรัฐราสอัลไคมาห์ ยังเป็นเมืองหลักที่มัก มีคนไทยถูกหลอกไปบังคับค้าประเวณี จำนวนมาก ซึ่งแนวทางจากนี้ไปตำรวจจะประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาการหลอกลวงคนไทยไปทำงานค้าประเวณี

ขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าไปจับกุม 1 ใน 5 ผู้ต้องหา พบกับหญิงสาวที่ถูกหลอกอีก 2 คน อยู่ภายในบ้านพักของผู้ต้องหาด้วย โดยหญิงสาวทั้ง 2 คน อยู่ระหว่างการเตรียมเอกสารเพื่อที่จะเดินทางไปทำงานที่นครดูไบ เจ้าหน้าที่จึงได้ช่วยเหลือออกมา ซึ่งเปิดเผยว่า รู้จักกับผู้ต้องหาผ่านทางโพสต์หางาน ซึ่งหลอกว่าจะพาไปทำงานนวดแผนไทยที่ต่างประเทศ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไร และจะได้ค่าตอบแทนจากการทำงานนวดเดือนละ 1 แสนบาท จึงหลงเชื่อ