คดี "พิยดา" ยังไม่จบ ตร.เตรียมขยายผลทั้งขบวนการ

"พิยดา" ซัดทอดแฟนหนุ่ม และญาติ ร่วมกันหลอกขายโทรศัพท์มือถือทางออนไลน์ ให้เด็กชายวัย 14 จนเด็กเครียดและเสียชีวิต ขณะที่ตำรวจ ยังคงเชื่อตามพยานหลักฐานว่า นางสาวพิยดา คือหัวหน้าขบวนการ

(29 ก.ย.) น.ส.พิยดา ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่า รู้สึกเสียใจและเครียดมาก ที่ครอบครัวแฟนโยนความผิดทั้งหมดมาให้เธอ เหมือนเธอโดนหลอกใช้เป็นเครื่องมือมาตลอด พร้อมยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโกงขายสินค้าออนไลน์กับผู้เสียหาย ส่วนเรื่องน้องก้องที่เสียชีวิต ตอนนี้มีชื่อของเธออยู่ในคดี จึงต้องขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วย ยืนยันจะต่อสู้คดีให้ถึงที่สุด

ขณะที่ในช่วงเช้า ตำรวจกองบังคับการสืบสวน ภาค 5 ได้เข้าตรวจค้นรีสอร์ตแห่งหนึ่งใกล้ สภ.นาหวาย ที่พ่อและแม่เลี้ยงของ น.ส.พิยดา เข้าพักระหว่างติดต่อขอประกันตัว โดยได้ยึดเงินสด 7 แสนบาท พร้อมกับโทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง รถยนต์บีเอ็มดับบลิว เพื่อนำไปตรวจสอบที่มาที่ไปของทรัพย์สิน

โดยทั้งสองระบุว่า เงินที่ถูกยึดจะนำไปประกันตัวนางสาวพิยดา แต่มาถูกยึดเสียก่อน นอกจากนี้พ่อและแม่เลี้ยง ของนางสาวพิยดา ยังระบุในแนวทางเดียวกับนางสาวพิยดาว่า ครอบครัวของแฟน มีส่วนเกี่ยวข้องในการหลอกขายของออนไลน์

ทำให้วันนี้แฟนของนางสาวพิยดา ออกมาปฏิเสธว่า ไม่เคยรู้จักแม่เลี้ยงของนางสาวพิยดา และเพิ่งรู้วันนี้ว่าแฟนมีแม่เลี้ยง ยืนยันว่าตัวเองและครอบครัว ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหลอกลวง แม้จะคบกับนางสาวพิยดามากว่า 7 ปีก็ตาม ขณะนี้ตนเอง และครอบครัว ได้เตรียมเอกสารหลักฐานต่างๆ ไว้ชี้แจงกับตำรวจแล้ว หากตำรวจจะสอบสวนเพิ่มเติม โดยจะไม่หนีไปไหน

ด้าน พลตำรวจตรี กานตพงศ์ ชัยรุ่งเรือง ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2 ระบุว่า จากข้อมูลการสืบสวนสอบสวน พบว่า นางสาวพิยดา ตอนนี้มีหมายจับทั้งหมด 3 หมายจับ ประกอบด้วย ที่ สภ.นาหวาย 1 หมายจับ และ สภ.โพธาราม 2 หมายจับ จึงทำให้น่าเชื่อว่า นางสาวพิยดา น่าจะเป็นหัวหน้าขบวนการใหญ่

ส่วนกระแสข่าวที่เกิดขึ้น อาจทำให้ตำรวจเสียเวลาในการสืบสวนเพิ่ม แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน ขณะนี้มีผู้เสียหายมาแจ้งความแล้ว ทั่วประเทศ 53 ราย ส่วนการนำตัวนางสาวพิยดา ไปฝากขังช่วงเย็น ศาลเชียงใหม่ ไม่อนุญาตให้ประกันตัว จึงถูกนำตัวไปควบคุมที่ทัณฑสถานหญิงจังหวัดเชียงใหม่