เฝ้าระวังสารเคมีอันตรายจาก รง.หมิงตี้ ซึมลงดินและน้ำ

(7 ก.ค.)  นักวิชาการคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร พร้อมทีมวิจัย กำลังเร่งทำแบบจำลอง 3 มิติ ถึงรัศมีการรั่วไหลลงใต้ดินของสารเคมี จากเหตุเพลิงไหม้โรงงานหมิงตี้ เคมีคอล เพื่อจะได้แจ้งเตือนประชาชนได้ทัน พร้อมแนะนำหลีกเลี่ยงการใช้น้ำฝน หรือแหล่งน้ำใกล้โรงงานจนกว่าจะตรวจสอบคุณภาพน้ำว่ามีสารเคมีตกค้างเกินค่ามาตรฐานหรือไม่

ผลจากเหตุเพลิงไหม้โรงงานหมิงตี้ เคมีคอล ย่านบางแก้ว เมื่อ 3 วันก่อน และการปะทุล่าสุดเมื่อวานนี้ กำลังถูกวิเคราะห์ผลกระทบทางเคมีอย่างน้อย 2 ด้านคือ 1 มลพิษทางเคมีที่มองเห็นจากควันที่พวยพุ่งไปในอากาศ และ 2 คือสิ่งที่จะรั่วไหลลงดิน

นักวิชาการจากคณะวิศกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร และสำนักงานคณะรรมการส่งเสริมวิทยาศาตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือ สกสว. ระบุว่า ได้ทำแบบจำลอง พบว่ากลุ่มควันหรือ พลูม ยกตัวสูงขึ้นไปในอากาศกว่า 3-500 เมตร จะไม่กระทบต่อพื้นที่รอบๆโรงงานหรือไม่ใกล้เคียงมากนัก สอดคล้อ กับการตรวจของกรมควบคุมมลพิษที่อากาศไม่เกินค่ามาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นคาร์บอนมอนออกไซค์ หรือเขม่าที่มีโพลีไซคลิกอโรเมติกไฮโดรคาร์บอน

และจากข้อมูลว่าในโรงงานมีสารเคมีที่ชื่อ สไตรีลีน ราว 1.6 หมื่นตัน เมื่อเผาไหม้จะกลายเป็นฝุ่น PM2.5 ราว 480 ตัน เจือจางในบรรยากาศที่ค่อนข้างกว้าง

สิ่งที่นักวิชาการยังกังวลคือ เขม่าที่มีสารโพลีไซคลิกอโรเมติกไฮโดรคาร์บอน ซึ่งมองเห็นเป็นเขม่าสีดำปลิวไปได้ไกลนั้น จะปะปนลงแหล่งน้ำ ผืนดิน หรือตะกอน ซึ่งปกติแล้วเป็นสารก่อมะเร็ง แม้ว่าโดยปกติจะมีปรากฎจากการเผาไหม้ในธรรมชาติ แต่กรณีต้องดูว่าปนเปื้อนหนาแน่นเกินค่ามาตรฐานหรือไม่

นอกจากแบบจำลองวิเคราะห์การกระจายทางอากาศ เพื่อหากำหนดพื้นที่เก็บตัวอย่างวิเคราะห์ความเสี่ยงแล้ว นักวิชาการอยู่ระหว่างทำแบบวิเคราะห์ 3 มิติ จำลองการไหลของสารเคมีกรณีการรั่วลงสู่แหล่งน้ำใต้ดิน เพื่อดูความเป็นไปได้ว่าจะมีอันตรายเพียงใดหรือไม่

แบบจำลองการรั่วไหลตามรายงานของนักวิชาการ คาดว่าจะแล้วเสร็จช้าสุดวันพรุ่งนี้ ซึ่งจะช่วยให้กำหนดพื้นที่เสี่ยง ที่จะมีสารเคมีตกค้าง แล้วเก็บตัวอย่างมาวิเคราะห์เพื่อให้ได้คำตอบว่าสภาพแวดล้อมบริเวณรอบโรงงงานที่อยู่ในข่ายได้รับผลกระทบมีความปลอดภัยจริงหรือไม่