จนท.พบหลักฐานวางเพลิง ขวดน้ำมัน-ระเบิดปิงปองกว่า 20 จุด ในโกดังเก็บกากอุตสาหกรรมเคมี อ.ภาชี

วันที่ 29 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เกิดเหตุเพลิงไหม้กากอุตสาหกรรมที่เป็นสารเคมีอันตราย ในโกดังแห่งหนึ่ง อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สารเคมีเหล่านี้เป็นของกลางในคดี ที่ตำรวจ ปทส.กำลังรวบรวมสำนวน กรณีลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรมเคมี เพื่อส่งพนักงานอัยการในสัปดาห์หน้า แต่ก็เกิดเพลิงไหม้ของกลางขึ้นก่อน ขณะเดียวกัน ข่าว 3 มิติ ลงพื้นที่ไปพร้อมตำรวจพิสูจน์หลักฐานและกรมโรงงานอุตสาหกรรมเมื่อบ่ายวันนี้ พบหลักฐานจำนวนมาก ที่บ่งชี้ชัดเจนว่า เพลิงไหม้ครั้งนี้ เป็นการวางเพลิง


เจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เปิดประตูโกดังหลังที่ 3 เพื่อเข้าไปสำรวจกากอุตสาหกรรมที่เหลืออยู่ และตรวจสอบว่ามีความพยายามจะวางเพลิงด้วยหรือไม่ หลังจากโกดัง หลังที่ 1 และ 2 ถูกเพลิงไหม้กากอุตสาหกรรมที่เป็นสารเคมี เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยข้อสังเกตุหลายบ่งชี้ว่า โกดัง1 และ2น่าจะมีการวางเพลิง จนกระทั่งมา ตรวจในโกดังหลังนี้


จากภาพมุมสูงนี้จะเห็นโกดัง ตั้งอยู่ 5 หลัง หลังที่ 1 และ 2 อยู่ทางขวามือ มีถนนคั่นกลาง และโดยกากอุตสาหกรรมที่เป็นสารเคมีภายในโกดัง1และ2นี้ ถูกเพลิงไหม้/ ส่วนโกดังหลังที่ 3 4 และ 5 อยู่ทางซ้ายมือของภาพ ยังไม่ถูกเพลิงไหม้


แต่เมื่อสำรวจเพิ่มวันนี้พบว่าอุปกรณ์ที่ใช้วางเพลิงวางกระจายหลายจุด เช่นจุดนี้มีถังน้ำขนาดไม่เกิน 5 ลิตร ตัดครึ่งแล้วใส่น้ำน้ำมัน /ใส่ธูปและระเบิดปิงปองที่ติดชนวนไว้กับธูป บางจุดวางไว้ในกองปลอกสายไฟที่อยู่ใกล้งกับถัง IBC บางจุดวางไว้ในถุงบิ๊กแบ็กที่มีขี้เลื่อยเป็นเชื้องเพลิงอย่างดี/ บางจุดวางอยู่ด้านหน้าโกดังหลังที่ 3 แต่วางไว้ด้านหลังของถัง IBCโดยสันนิษฐานว่า คนร้ายหวังว่าจะให้ระเบิดปิงปองทำให้น้ำมันและไฟกระจายไปติดบริเวณนี้


หลักฐานที่พบดังกล่าว สอดคล้องกับเสียงระเบิดที่ดังต่อเนื่องในวันที่เกิดเพลิงไหม้หลังที่ 1- และ2 ซึ่งสุ่มเสี่ยงมากที่จะเกิดอันตรายถึง แก่ชีวิตของเจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่ เข้าไปในวันดับเพลิงในวันดังกล่าว


วันนี้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานพระนครศรีอยุธยา สำรวจหลักฐานไว้เบื้องต้น และจะลงพื้นที่อย่างละเอียดอีกครั้งวันพรุ่งนี้ ขณะที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม ก็ประสานให้เจ้า หน้าที่นำทรายเข้าไปกลับ บนกองสารเคมีที่ฝังมีควันไฟปะทุอยู่ โดยก่อนหน้านี้ฉีดควบคุมไว้ด้วยโฟมทั้งหมดแล้ว


ที่จริงแล้ว วันนี้ครบ 1 ปีกับอีก 5 วัน ที่เจ้าหน้าที่พบกากอุตสาหกรรม ที่เข้าข่ายเป็นวัตถุอันตราย ถูกลักลอบเก็บไว้ในโกดังร้างโดยไม่มีสภาพเป็นโรงงาน สร้างความเดือด ร้อนทั้งกลิ่น และการปนเปื้อนสภาพแวดล้อม ทำให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามตรวจสอบผู้เกี่ยวข้อง จนล่าสุด ตำรวจปทส. ที่ผิดชอบคดีนี้ พบว่ามีหลักฐาน หลายอย่างเชื่อมโยง กับบริษัทเอกอุทัย ซึ่งเป็นบริษัทกำจัดกากขยะอุตสาหกรรม ได้รับใบอนุญาตประเภท 106 โดยสิ่งบ่งชี้ว่าตรงกันคือรถบรรทุกหลายคันที่บรรทุกากอุตสาหกรร ข้อมูลเอกสารทะเบียนรถเข้าออก และลาเกอร์บ็อก์ หรือถังเหล็กบรรจุสารเคมี ที่ลาเบลล์ หรือสัญลักษณ์บริษัทชัดเจน


ตำรวจปทส.จึงมีหนังสือเรียกให้กรรมการบริษัทเอกอุทัยมารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว โดยผู้มารับทราบข้อกล่าวหา ให้การปฎิเสธว่าไม่เกี่ยวข้อง และระบุว่ารถยนต์และกล่องเหล็ก ได้มีบริษัทอื่นมาเช่า และไม่เกี่ยวข้องกรณีที่บริษัทอื่นนำไปใช้กระทำผิด


อย่างไรก็ตาม ตำรวจมีความเห็นสั่งฟ้องบุคคลและนิติบุคคล 2 บริษัทรวม 6 ราย มีผู้มารับทราบ ข้อกล่าวหาแล้ว 5 เหลืออีก 1 ที่ไม่มาและอยู่ระหว่างขั้นตอน ขอหมายจับ


ข่าว 3 มิติ ขอยืนยันว่ากรณีที่บริษัทเอกอุทัยถูกดำเนินคดีกรณีสารเคมีที่พบในโกดังนั้น ไม่ใช่การสื่อสารว่าจะเกี่ยวข้องกับกรณีวางเพลิง และไม่มีหลักฐานใดๆในตอนนี้ ที่จะบ่งชี้ว่าใครเกี่ยวข้องกับวางเพลิง แต่คำตอบดังกล่าว จะถูกไขปริศนาในขั้นตอนการสืบสวนสอบสวนของตำรวจนับจากนี้.